นครศรีธรรมราช:ทหาร ทภ.4 สนธิกำลังฝ่ายปกครองและปปส.ภาค 8 บุกจับเครือข่าย”บ่าว ไก่ชน”หน.แก๊งยานรก แต่หนีรอดไปได้หวุดหวิด ยึดของกลาง ยาไอซ์หนักเกือบ 3 กก.มูลค่า 5 ล้านบาท
เมื่อเย็นวานนี้ วันที่ 7 พ.ย.2562 พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผบ.ค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.อ.อ.ศุภโชค พราหมพูน ปลัดอำเภอ ทำหน้าที่ หน.ชปพ.ฝ่ายปกครองของนายศิริพัฒ พัฒกุล ผวจ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากจากแหล่งข่าวของ ชุดปฏิบัติการข่าวลับ กองทัพภาคที่ 4 และแหล่งข่าวกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 สิชล ว่ามีผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.สิชล ชุดข่าวจึงประสานส่วนที่เกี่ยวข้อง คือ ชุดปราบปรามยาเสพติดกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 ปปส.ภาค 8 ชุดปราบปราบยาเสพติดกองทัพภาคที่ 4 ชุดฝ่ายความหมั่นคงจังหวัดนครศรีธรรมราช หน่วยข่าวกรองทางทหาร ทภ.4 วางแผ่นจับกุม นายชัยรัตน์ ใจหมั่น อายุ 42 ปี ที่บ้านเลขที่ 34/4 หมู่ ต.สี่ขีด อ.สิชล จว.นศ.ได้ของกลาง เป็นไอซ์ จำนวน 66 กรัม,ยาบ้า 700 เม็ด และอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอกพร้อมกระสุน 5 นัด
จากการสอบปากคำขยายผลนายชัยรัตน์ ผู้ต้องหาให้การกับ จนท.ว่ามีผู้ค้ารายใหญ่ในพื้นที่ ม.3 ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ชื่อนายสุวัฒน์ ไฝจู อายุ 54 ปี หรือฉายา”บ่าวไก่ชน”ซึ่งเป็น หน.แก๊งได้ลักลอบค้ายาเสพติดมานานแล้ว ซึ่งจนท.ชุดดังกล่าวได้ทำการวางแผนล่อซื้อและบุกเข้าไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 42 หมู่ 3 ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของอดีตเมียเก่า ปรากฏว่าเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวไปถึง พบลูกน้องซึ่งเป็นหลานชายของนายบ่าวชื่อนายจักรพงษ์หรือหนุ่ม สุดสวาท อายุ 32 ปี นำยาไอซ์จำนวน 2 กรัม ที่ล่อซื้อจำนวนหนึ่งมาส่งให้กับจนท. จึงแสดงตัวเข้าจับกุมแล้วคุมตัวไปตรวจค้นภายในบ้าน พบยาไอซ์ น้ำหนัก 2.4กก.ซุกซ่อนอยู่ในลังกระดาษโดยวางไว้บริเวณใต้ถุนขนำข้างบ้าน รวมยาไอซ์ทั้งหมด 2.6กก.มูลค่า 5 ล้านบาท และจนท.ยังได้จับกุมตัวนางศรุตาหรือไร มันทรานนท์ อายุ 42 ปี อดีตเมียของนายสุวัฒน์หรือ”บ่าว ไก่ชน” ไปสอบสวนโดยให้การซัดทอดว่ายาไอซ์ทั้งหมดเป็นของนายสุวัฒน์ อดีตสามีของตน ซึ่งขณะที่ จนท.เข้าจับกุมนายสุวัฒน์ได้เข้าไปเล่นพนันไก่ชนที่บ่อนไก่ชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.นบพิตำ
และต่อมากำลังจนท.ชุดดังกล่าวได้เดินทางไปที่บ่อนไก่ชนดังกล่าว ปรากฏว่านายสุวัฒน์ ไฝจู หรือ”บ่าว ไก่ชน”ได้ไหวตัวทันหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด อย่างไรก็ตามทางจนท.จะเร่งติดตามตัวนายสุวัฒน์ มาดำเนินคดีตามกม.ต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่จับได้ทั้ง 3 คนได้นำตัวไปดำเนินคดีตามกม.แล้ว
