นางตะณีดา วงศ์แก้ว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 287 ม.7 ต. ท่าวัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้าพบกับสื่อมวลชน เพื่อร้องขอความช่วยเหลือให้ประกาศตามหา น.ส.ชวัลลักษณ์ ช่อสม หรือน้องแตงกวา อายุ 16 ปี บุตรสาว ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ก.พ.61 ที่ผ่านมา จากพื้นที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จนถึงขณะนี้ล่วงเลยเวลามากว่าหนึ่งเดือนแล้วยังไม่มีวี่แววที่จะพบตัวบุตรสาวของตนได้ หลังทำทุกวิถีทางในการออกตามหา โดยเกรงว่าจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต เนื่องจากมีการค้นพบหลักฐานการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนชายในลักษณะการข่มขู่เอาชีวิต ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างถาวร และได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วก่อนหน้า แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
นางตะณีดา เปิดเผยว่า บุตรสาวของตนได้เคยหายตัวไปแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ปี60 ที่ผ่านมา โดยนายยุทธนา เกลี้ยงสงค์ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.5 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนชาย ได้นำพาตัวน้องแตงกวาไปอยู่บ้านพี่สาวที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ครั้งนั้นตนสามารถติดตามตัวกลับมาได้ ต่อมาน้องแตงกวาได้ขอยุติความสัมพันธ์กันระหว่างตนกับนายยุทธนา พร้อมกับต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยตัดสินใจไปอาศัยทำงานอยู่กับป้าและลุงเขยที่เปิดร้านยางยนต์อยู่ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยไปอยู่ตั้งแต่ 22 ธ.ค.60 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่น้องแตงกวาทำงานอยู่นั้น นายยุทธนาได้พยายามติดต่อสื่อสารพูดคุยกับน้องแตงกวาอยู่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนายยุทธนาไม่ต้องการยุติความสัมพันธ์ แต่น้องแตงกว่าไม่ได้ให้ความสนใจแต่อย่างใด และมีอะไรไม่สบายใจน้องแตงกวาจะปรึกษาพูดคุยกับตนเองอยู่อย่างต่อเนื่อง จนในท้ายที่สุดน้องแตงกวาได้ได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย สาเหตุจากที่นายยุทธนาได้มีการส่งข้อความข่มขู่เอาชีวิต พร้อมกับจะนำภาพคลิปวีดีโออะไรบางอย่างออกมาเปิดเผยประจานน้องแตงกวา ซึ่งข้อมูลและหลักฐานทุกอย่างตนได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และ สภ.พุนพิน เพื่อติดตามดำเนินคดี
นางตะณีดา เปิดเผยอีกว่า วันที่บุตรสาวของตนได้หายตัวไปนั้น ตรงกับวันที่ 4 ก.พ.61 ขณะนั้นเวลาประมาน 17.45น. น้องแตงกวาได้เดินออกจากร้าน”ขุมทรัพย์ยางยนต์”เลขที่ 65/16 ม.3 หัวเตย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ที่ตนเองพักอาศัยทำงานอยู่ โดยออกไปพร้อมกับลังพลาสติกสีเทาซึ่งคาดว่าภายในน่าจะมีสิ่งของ หรือเสื้อผ้าอยู่ และหลังจากนั้นตนกับบุตรสาวก็ไม่สามารถติดต่อกันได้อีกเลย ซึ่งตนมีความเป็นห่วงและวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลัวว่าน้องแตงกวาอาจจะถูกใครผู้ใดหลอกลวงไปทำไม่ดีไม่ร้าย และอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ จึงอยากร้องขอให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการประกาศตามหา น.ส.ชวัลลักษณ์ ช่อสม บุตรสาวของตน เผื่อมีผู้ใดพบเห็น โดยสามารถแจ้งข้อมูลมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 084-632-4657 / 080-549-1144 นางตะณีดา วงศ์แก้ว มารดา หรือแจ้งเบาะแสได้ที่ ร.ต.อ. ธวัชชัย อมรชาติ รอง สว.สส..สภ.กะปาง โทร 091-825-2398 และพ.ต.ท.ปริญญา หญีตคง สว.สส.สภ.พุนพิน โทร.082-892-4576
ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะปาง ได้เรียกตัวนายยุทธนา เกลี้ยงสงค์ ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับการหายตัวไปของน.ส.ชวัลลักษณ์ ช่อสม มารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับทำการสอบสวน โดย นายยุทธนา ได้ให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาในคดีก่อนหน้านี้ที่ได้นำพาตัวน.ส.ชวัลลักษณ์ ช่อสม หายไปไป หลังจากนางตะณีดา วงศ์แก้ว (มารดา) ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด ในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปจากบิดามารดาฯเพื่อการอนาจาร เป็นที่เรียบร้อย ขณะที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีนั้นมีความคืบหน้าพอสมควร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ค้นพบฐานข้อมูลการติดต่อสื่อสารกันระหว่างน.ส.ชวัลลักษณ์ ช่อสมกับบุคคลใกล้ชิดภายในครอบครัว โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวมาทำการสอบปากคำแล้วถึง 3 ครั้ง และในแต่ละครั้งผู้ต้องสงสัยได้ให้การในลักษณะวกไปวนมา และไม่สัมพันธ์กันกับหลักฐานที่เจ้าหน้าที่มีอยู่ จึงอาจเป็นไปได้ว่าบุคคลผู้นี้อาจจะมีส่วนรู้เห็นการหายตัวไปของน.ส.ชวัลลักษณ์ ช่อสม ก็เป็นได้ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานและหลักฐานของทางเจ้าหน้าที่เพื่อเอาผิด จึงยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆให้รับทราบได้
