X

บทเรียนราคาแพง “สายสัญญาณบนเสาไฟฟ้า” คร่าชีวิตหนุ่มเมืองคอน

นครศรีธรรมราช:หนุ่มเมืองคอน สังเวยความชุ่ยในงานเดินสายสัญญาณของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ครอบครัวร้องขอความเป็นธรรม และขอให้เป็นกรณีตัวอย่าง อย่าได้เกิดขึ้นอีก วอนขอให้ดำเนินการแก้ไขทุกพื้นที่ หวั่นเกิดขึ้นซ้ำอีกภายหลังจากที่นายภานุวัฒน์ บรรจงช่วย อายุ 35 ปี หนุ่มชาว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ต้องสังเวยชีวิตตนเองด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลังใช้มือไปจับสายสัญญานโทรศัพท์ที่ขาดห้อยตกลงมากีดขวางบริเวณหน้าบ้านของตน ก่อนจะถูกกระแสไฟฟ้าที่รั่วไหลช๊อตจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมาล่าสุดนายห่วง บรรจงช่วย อายุ 69 ปี บิดาของนายภานุวัฒน์ (ผู้เสียชีวิต) พร้อมครอบครัวญาติพี่น้องและชาวบ้านกว่า100 คน ได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย,และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,ผ่านนายอำเภอเชียรใหญ่ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเชียรใหญ่ โดยมีนายกิตติพงษ์ ชุมมิ่ง ปลัดอำเภอ รองผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมมารับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวโดยนายห่วงกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองต้องสูญเสียบุตรชายอันเป็นที่รักของครอบครัวไปเพียงเพราะความชุ่ยและมักง่ายของหน่วยงานและบริษัทต่างๆที่เดินสายสัญญาณพาดกับเสาไฟฟ้าผ่านหน้าบ้านของตน โดยเฉพาะสายสัญญาณโทรศัพท์ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ต้นเหตุที่ทำให้บุตรชายของตนเสียชีวิต เนื่องจากวันเกิดเหตุสายดังกล่าวได้ขาดห้อยตกลงมายังบริเวณหน้าบ้านกีดขวางทางเดิน บุตรชายจึงใช้มือไปจับหวังจะนำออกให้พ้นจากการกีดขวาง แต่กลับถูกกระแสไฟฟ้าที่รั่วไหลลงมาตามสายสัญญาณช๊อตจนเสียชีวิตในทันทีหลังเกิดเหตุตนและญาติได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) และพนักงานของบริษัทผู้รับเหมาติดตั้งสายสัญญาณดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฏหมาย เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏชี้ชัดว่า การติดตั้งสายสัญญาณของบริษทดังกล่าวกระทำด้วยความมักง่ายไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ในการเว้นระยะห่างสายสัญญาณกับฐานโคมไฟที่ติดตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้า จนทำให้กระแสไฟฟ้า”สปาร์ค”ลัดวงจร ช็อต จนสายสัญญาณโทรศัพท์ขาดร่วงหล่นลงมา และมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลมาตามสายสัญญาณดังกล่าวและช็อตบุตรชายของตนจนเสียชีวิตในที่สุด

ขณะที่ น.ส.อิศริยา บรรจงช่วย อายุ 37 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก็มีส่วนผิดที่จะต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่หรือพนักงานเข้ามากำกับดูแลการทำงานของบริษัทผู้รับเหมาติดตั้งสายสัญญาณต่างๆที่เดินพาดผ่านกับเสาไฟฟ้าซึ่งถือว่าเป็นเจ้าของบ้าน ปล่อยประละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จนเกิดเหตุสลดขึ้นกับน้องชายของตน ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงบัดนี้ยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบของผู้เกี่ยวข้องเลยแม้สักหน่วยงานเดียว เราจึงมาร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงธรรมถึงรัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวงที่เป็นผู้กำกับดูแลหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งสอง ให้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และร้องทุกข์ไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยเข้ามาดูแลคดีนี้จนคลี่คลายและให้ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับความเป็นธรรมในที่สุด เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษตามกฎหมาย พร้อมกับมอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้ขณะเกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานขณะเดียวกัน นายสุเทพ รัตนรัตน์ อายุ 63 ปี ข้าราชการบำนาญกระทรวงศึกษาธิการ ตัวแทนชาวชุมชนเทศบาลตำบลเชียรใหญ่ ได้ยื่นหนังสือร้องศูนย์ดำรงธรรมถึง ผวจ.นครศรีธรรมราชอีกฉบับ โดยระบุว่า ประชาชนในพื้นที่มีความวิตกกังวลในความปลอดภัยในชีวิตของตนเอง บุตรหลานญาติมิตร รวมถึงพี่น้องประชาชนทุกคน เนื่องจากปัจจุบันจะเห็นได้ว่าตามเสาไฟฟ้าจะมีสายสัญญาณมากมายทั้งเก่าใหม่เดินพาดไว้กับเสาไฟฟ้าทุกต้นทุกพื้นที่จนดู”ระโยงระยาง รกรุงรัง”สีดำมืด บางจุดบางพื้นที่สายเหล่านั้นหย่อนย้อยขาดห้อยตกลงมายังพื้นถนนพื้นดิน ก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนน พี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะกลับมาเกิดขึ้นกับลูกหลานของเราอีกครั้งก็เป็นได้ จึงขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไข การติดตั้งสายสัญญาณสื่อสาร หรือสายเคเบิลต่างๆบนเสาไฟฟ้าหรือระหว่างเสาไฟฟ้า ตามริมทางหลวง ในเขตเทศบาล เขตพื้นที่ชุมชนทุกพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัย ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยถูกต้องตามกฎระเบียบข้อบังคับ และให้เกิดความสวยงามต่อบ้านเมืองโดยเร็วที่สุด รวมถึงเรียกร้องให้มีการโยกย้ายผู้ดูแลบริหารงานทีโอทีในจังหวัด ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ปากพนัง ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลระบบการจ่ายและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าใน อ.เชียรใหญ่ ออกนอกพื้นที่ พร้อมทั้งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับบุคคลดังกล่าวด้วยทั้งนี้ตนรวมถึงครอบครัวผู้สูญเสียและพี่น้องประชาชนชาว อ.เชียรใหญ่ จะรอฟังคำตอบจากผู้เกี่ยวข้องภายใน 7 วัน หากไม่มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆจากผู้ที่เกี่ยวข้องอีก ตนและชาวเชียรใหญ่จะมารวมตัวกันเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง เพื่อรักษาและเรียกร้องสิทธิ์อันพึงมีของประชาชนต่อไปอย่างไรก็ตามภายหลังจากที่นายกิตติพงศ์ ชุมมิ่ง ปลัดอำเภอเชียรใหญ่ ได้รับหนังสือร้องทุกข์ดังกล่าวแล้ว จะเร่งรีบนำเรื่องเสนอไปยังนายอำเภอเชียรใหญ่ให้รับทราบในทันที เพื่อประสานไปยังรัฐมนตรีที่กำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผวจ.นครศรีธรรมราชให้หาแนวทางหรือวิธีการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นเว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช แพลตฟอร์มชุมชนข่าวสาร 77 จังหวัด พบกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง กับข่าวท้องถิ่นทั่วประเทศ