จังหวัดนครศรีธรรมราชเตรียมพร้อมเสนอข้อมูลการจัดการขยะต่อคณะอนุกรรมการระดับกระทรวง เพื่อพิจารณาอนุมิติก่อสร้างโรงกำจัดขยะเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช คาดผ่านฉลุย ส่งต่อคณะกรรมการเชิงนโยบายโดยปลัดกระทรวงมหาดไทยกลางเดือน ก.พ.61 ก่อนเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นชอบ คาดต้นเดือน มี.ค.61 รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยอนุมัติให้นครศรีธรรมราชดำเนินการ
นายวิญญ์ สิทธิเชนทร์ ท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะภายในบ่อขยะสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่ง ท่า ลาด) นครศรีธรรมราช ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมข้อมูลเอกสารเพื่อนำไปเสนอชี้แจงให้กับคณะกรรมการระดับกระทรวงทราบในวันที่ 1 ก.พ.61 ที่จะถึงนี้ โดยนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ตน พร้อมด้วยทีมงานจากเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช และผู้ดำเนินการศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ เข้าชี้แจงการดำเนินการเพื่อพิจารณาเห็นชอบอนุมัติโครงการ หลังจากที่ผลการศึกษาและพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดการขยะระดับจังหวัด ควรเสนอโรงงานกำจัดขยะในรูปแบบกำจัดขยะโดยใช้พลังงานจาการเผาไหม้ขยะทั้งเก่าและใหม่ไปผลิตกระแสไฟฟ้า ขนาดกำลังเผาประมาณวันละ 1 พันตัน 1 โรง เพื่อความเหมาะสมกับขยะที่มี โดยผลที่ได้ก็จะได้กระแสไฟฟ้าที่เข้าสู่ระบบวันละ 20 เมกะวัตต์
ซึ่งข้อมูลเอกสารทางผู้ดำเนินการศึกษา โดยมหาวิทยาลัยทักษิณ ได้ทำการศึกษาข้อมูลเพื่อนำไปชี้แจงอย่างละเอียด โดยเฉพาะปัญหาขยะค้างเก่าและขยะใหม่ ซึ่งจะต้องดำเนินการควบคู่กันไป และจะต้องกำหนดระยะเวลากำจัดให้หมดไปอย่างชัดเจน ประกอบกับคุณภาพของโรงงาน ผู้ที่จะเข้ามาลงทุน และผลกระทบต่างๆซึ่งจะต้องไม่ส่งผลเสียต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ สรุปโดยสั้นๆว่าการลงทุนโดยภาคเอกชนโดยจะต้องใช้งบประมาณลงทุน 2,500 ล้านบาท และโรงงานจะต้องได้มาตรฐาน วิธีการคือการนำขยะทั้งเก่าและใหม่มาทำการเผารวมในอุณหภูมิความร้อนไม่ต่ำ 800 องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้เกิดสารไดออกซิน ที่เป็นสารตั้งต้นในการก่อมะเร็ง ตามกฎระเบียบคุณภาพของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับขั้นตอนต่อไปคือภาระหน้าที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราชในการมากำหนดร่างข้อเสนอคุณสมบัติของผู้มาร่วมลงทุน โดยการกำหนด TOR ประกาศหาผู้ลงทุนตามเงื่อนไขมาตรฐานที่กำหนด ก่อนประกาศเชิญชวนเอกชนผู้มาร่วมลงทุน ซึ่งใช้ระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน ทั้งนี้ความน่าจะเป็นระยะเวลาประมาณเดือนสิงหาคม 2561 ก็อาจจะได้ตัวผู้รับจ้างเข้ามาดำเนินการตามโครงการดังกล่าว และการดำเนินการก่อสร้างที่กำหนดไว้อยู่ที่ไม่เกิน 18 เดือน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องกำจัดขยะได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 และขยะที่ค้างสะสมอยู่จะหมดไปภายในระยะเวลา 3 ปีตามที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้เล็งเห็นถึงปัญหาขยะในระยะยาวโดยมองภาพรวมทั้งจังหวัด ซึ่งเห็นว่า ตามหลักความเป็นจริงแล้ว เทศบาลนคร นครศรีธรรมราชควรที่จะรับผิดชอบการกำจัดขยะเพียงแค่ในตัวเมืองและเขตปริมณฑลของตนเอง แต่การที่ทั้ง 23 อำเภอ 58 อปท.นำขยะมาทิ้งยังบ่อขยะดังกล่าวถือเป็นความไม่เหมาะสมและสมดุล จากการเพิ่มขึ้นของขยะอย่างต่อเนื่อง
ทางจังหวัดจึงได้กำหนดโซนการกำจัดขยะเพิ่มขึ้นอีก 5 โซนจากโรงงานที่มีอยู่เดิมนอกเหนือจากบ่อขยะเทศบาลฯ ประกอบด้วย อ.ทุ่งสง อ.ปากพนัง อ.ฉวาง อ.ขนอม และ อ.ชะอวด ซึ่งทั้ง 5 อำเภอนี้เคยเป็นที่ตั้งของโรงงานคัดแยกขยะขนาดเล็กประมาณ 100 ตัน/วัน แต่ไม่ได้ดำเนินการเดินเครื่องแต่อย่างใด
โดยที่อ.ทุ่งสงเคยได้รับงบประมาณจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้สร้างโรงงานกำจัดขยะให้ในพื้นที่ ต.ควนกรด เมื่อปี 2538 แต่ครั้งได้รับการต่อต้านจากชาวบ้านในพื้นที่ โรงงานจึงไม่ได้รับการใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน และในอีก 4 อำเภอซึ่งได้รับงบประมาณจากยุทธศาสตร์จังหวัดสมัยนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด ในสมัยนั้นจัดสร้างโรงงานขัดแยกขยะขึ้น ทาง อบจ.ได้ตั้งงบประมาณไว้ 1.5 ล้านบาท เพื่อดำเนินการศึกษาวิธีการขั้นตอนที่เหมาะสมกับปริมาณขยะที่แท้จริงของแต่ละโซนเพื่อนำไปสู่การเสนอเค้าโครงในการบริหารจัดการขยะ ซึ่งจะต้องได้รับการพิจารณาในระดับกระทรวงเช่นเดียวกันกับบ่อขยะเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช โดยได้ทำความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ต่อ เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้ เป็นการแบ่งเบาภาระให้กับเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช และเป็นการแก้ไขปัญหาขยะภายในจังหวัดได้อย่างครอบคลุม เป็นระบบแบบยั่งยืน
