นครฯ – อนาถ! สาวชาวเมียนมาร์ ถูกฆ่าทิ้งบ่อหมกร้าง อำพรางด้วยจีวรพระ

นครศรีธรรมราช : พบศพสาวชาวเมียนมาร์ ถูกฆ่าทิ้งบ่อน้ำร้าง ในตลาดวัดกลางเมืองคอน ตร.เร่งออกหมายจับแฟนหนุ่มคนไทย เชื่อเป็นผู้ลงมือ หลบหนีอยู่ในภูเก็ต

วันที่ 11 มีนาคม 2567 พันตำรวจเอกกิตติชัย ไกรณรา ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุ พบศพคนถูกฆ่าโยนทิ้งบ่อน้ำร้าง ภายในตลาดด้านหลังวัดท้าวโคตร ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย ร้อยตำรวจโทพชรพล พราหมณี รองสารวัตรสอบสวน, พันตำรวจโทธีระพล พุ่มชัย รอง ผู้กำกับปราบปราม และกำลังตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นครศรีธรรมราช แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และจนท.มูลนิธิใต้เต๊กตึ้ง รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ เป็นห้องน้ำถูกทิ้งร้าง ด้านในมีบ่อน้ำร้างลึกประมาณ 5-10 เมตร ภายในพบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ลำตัวพองอืด นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ สวมรองเท้าสีฟ้า มีผ้าจีวรพระสีเหลืองปิดทับร่างอยู่ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้นำร่างขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ให้แพทย์ได้ทำการตรวจสอบชันสูตร

โดยในเบื้องต้น ทราบว่าศพดังกล่าวน่าจะเป็นสาวชาวเมียนมาร์ ที่ได้หายตัวไปจากหอพักตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ชื่อนางสา อายุ 32 ปี (THUZAR AUNG) เป็นพนักงานชงกาแฟของห้างนครดีซี อ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่เพื่อนร่วมงาน และเจ้าของหอพักได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ก่อนหน้านี้ พร้อมกับตามหาตัวมาโดยตลอด

จากคำบอกเล่าของเพื่อนผู้ตาย ทราบว่า ช่วงประมาณเดือนกันยายน 2566 นางสา ได้มาเช่าห้องพักอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านศรีนคร ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยอยู่เพียงลำพัง ซึ่งเป็นหญิงสาวชาวเมียนมาร์ที่หน้าตาดี ขยันทำงาน โดยมาทำงานรับจ้างเป็นคนชงกาแฟอยู่ที่ห้างนครดีซี สาขาคูขวาง หลังเลิกงานทุกวัน ก็จะไปหารายได้เสริม โดยไปทำงานรับจ้างที่ตลาดหัวอิฐ

ซึ่งนางสาได้เคยเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า มีชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไทย ชื่อนายพิทญา หรือนาย บุญญัติศักดิ์ เข้ามาติดพัน และตลอดเวลาที่คบหากัน ชายคนดังกล่าวได้หยิบยืมเงินจากนางสาไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาวันที่ 4 มี.ค. 67 เวลาประมาณ 01.00 น. นางสา ได้แจ้งกับนายจ้างว่า จะเข้าไปช่วยชำแหละไก่ที่ตลาดหัวอิฐ แต่เมื่อถึงเวลา นางสากลับไม่ได้มาตามที่นัดไว้ ต่อมาในเวลาประมาณ 24.00 น.วันเดียวกัน เพื่อน ๆ จึงได้ไปตามหาที่ห้องพัก แต่ห้องถูกล็อกอยู่ด้านนอก จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดของหอพัก พบว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.30-17.00 น. ของวันที่ 3 มี.ค.67 นางสา ได้ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า ซูเมอร์เอ็กซ์ สีม่วง ทะเบียน 1กช 5705 นครศรีธรรมราช กลับมาจากที่ทำงาน ก่อนขับขี่รถอีกคัน ซึ่งเป็นรถบิ๊กไบด์ สีชมพู ไม่ทราบทะเบียน ออกจากห้องพักไปในเวลาประมาณ 17.10 น. โดยสวมเสื้อสีแดง กางเกงยีนส์สีดำ และหายตัวไปตั้งแต่นั้น

หลังจากนั้นได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ของทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ปรากฎว่านางสา ได้ขับขี่รถ จยย.ออกจากนครดีซี โดยขับขี่ไปตามถนนผ่านตลาดแม่สมจิตร ผ่านสี่แยกสุเหร่า จากนั้นเข้าถนนหลังหน้าเมือง มุ่งหน้าไปแถววัดท้าวโคตร ซึ่งเป็นบริเวณบ้านของนายพิทญา แฟนหนุ่ม จากนั้นกล้องวงจรปิดก็ไม่สามารถจับภาพของนางสา ได้อีกเลย

กระทั่ง วันที่ 4 มี.ค.67 เวลาประมาณ 10.00 น. ได้ปรากฎภาพนายพิทญา ขณะกำลังขับขี่รถ จยย.ของนางสา เข้าไปร้านทองศรีอุดม แถวตลาดท่าม้า อ.เมือง พร้อมกับทองคำ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นสร้อยคอหรือแหวน หนักประมาณ 2 บาทเศษ และได้มีการว่าจ้างรถ จยย.รับจ้าง เพื่อขับขี่ตามไปที่ซอยมิตรสัมพันธ์ แถวซอยป่าขอม โดยนำรถ จยย.ไปจอดที่หน้าบ้านของญาตินางสา ที่เป็นชาวเมียนมาร์ด้วยกัน และได้ให้รถรับจ้างคันดังกล่าวไปส่งที่ บขส.เพื่อเดินทางมุ่งหน้าไปจังหวัดภูเก็ต

ด้าน พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรณรา ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่า ผู้ต้องสงสัย ก็คือนายพิทญา หรือนาย บุญญัติศักดิ์ แฟนหนุ่ม ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอขออนุมัติศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับ เพื่อล่าตัวมาดำเนินคดีตาม กม.ต่อไป