นครฯ – ลูก’ขุนพันธ์’ มือปราบจอมโจรขมังเวทย์ ออกโรง เตือน! ‘เสี่ยแป้ง’ ระวังของเสื่อม มอบตัวเถอะ

นครศรีธรรมราช : ‘หนุ่ย’ ลูกชาย ‘ขุนพันธรักษ์ราชเดช’ อดีตมือปราบจอมโจรขมังเวทย์ แนะวิธีจับ ‘เสี่ยแป้งนาโหนด’ ให้พลางตัว ตรวจดูวันเดือนปีเกิด ของคนร้าย เพื่อถือฤกษ์ก่อนจับ ตามแบบฉบับตำราโบราณ พร้อมเรียกร้องให้ ‘เสี่ยแป้ง’ ออกมามอบตัวดีกว่าหนี ในฐานะศิษย์สำนักเดียวกัน

วันที่ 1ุ6 พฤศจิกายน 2566 ที่บ้านเลขที่ 666/1 ถนนศรีปราชญ์ ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านพักของนายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช หรือ ‘หนุ่ย’ อายุ 72 ปี ลูกชายของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตมือปราบขุนโจรแดนใต้ ได้แสดงความเห็น ถึงเรื่องการไล่ล่าติดตามจับกุมตัวนายเชาวลิตร ทองด้วง หรือเสี่ยแป้งนาโหนด ผู้ต้องหารายสำคัญ ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้ระยะเวลาในการแกะรอยตามหาตัวอยู่หลายสัปดาห์ ในพื้นที่ป่าเขาอันกว้างใหญ่และอันตราย บนเทือกเขาบรรทัด ซึ่งกินพื้นที่ด้วยกัน 3 จังหวัด พัทลุง, ตรัง และสตูล จึงแนะนำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปลี่ยนรูปแบบวิธีการ ที่ใช้กำลังน้อย ไม่สิ้นเปลือง ระยะเวลา และงบประมาณ

ด้วยวิธีพลางตัว หรือปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดา เข้าไปหาข้อมูลข่าว จะง่ายต่อการแกะรอยติดตามจับกุมตัว มากกว่าจัดทีมกำลังปิดล้อมแบบที่กำลังทำอยู่ เปรียบเทียบในสมัยที่พ่อของตนเองยังมีชีวิตอยู่ หลาย ๆ ครั้งที่บุกเข้าจับเสือร้าย ก็จะใช้วิธีการพลางตัว แต่งกายแบบชาวบ้าน นุ่งโสร่งบ้าง หรือสวมรองเท้าแตะธรรมดาไม่ต้องสวมชุดเต็มยศเข้าไปในพื้นที่ จะทำให้คนร้ายรู้ตัวเสียก่อน จะทำให้การจับกุมตัวยากขึ้นอีก แต่ก็ต้องให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่มุ่งมั่นทำงานอยู่ในพื้นที่ขณะนี้ แม้จะประสบความยากลำบากในการจับกุมติดตามไล่ล่าจับกุมก็ตาม

นอกจากนี้นายณสรรค์ ยังได้แนะนำให้นายเชาวลิตร ออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่จะดีกว่า ในฐานะที่เป็นศิษย์วัดเขาอ้อด้วยกัน แล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเชื่อว่าคงจะติดคุกไม่นานก็ได้ออกมาสู่ภายนอกแล้ว หากยังฝืนหนีไป ของดีในตัว ถึงวันเลื่อมเมื่อไหร่ แม้ชีวิตก็จะไม่เหลือ “ชั่วน้อย เสื่อมน้อย ชั่วมากเสื่อมมาก”

ส่วนเรื่องวิชาอาคมหรือไสยศาสตร์ที่พ่อของตนเองร่ำเรียนมาจากวัดเขาอ้อ จนเชี่ยวชาญ โดยนำมาเป็นยุทธวิธีในการจับโจรผู้ร้าย หรือเสือร้าย ซึ่งได้ผลมาแล้วหลายครั้ง จนเล่าไม่ถูกว่ามีใครบ้าง โดยเฉพาะก่อนออกไปจับกุมโจรผู้ร้าย พ่อของตนเองมักจะตรวจดูฤกษ์ยามวันเดือนปีเกิดของคนร้ายก่อน ว่าจะมีดวงถูกจับเป็นหรือจับตายวันไหน ถึงจะลงมือจับกุม ที่ทราบได้ผลมาแล้วหลายราย แม้ว่าผู้ร้ายบางคน จะเล่นของไสยศาสตร์ใช้เหล็กไหลติดตัวก็เคยมีมาแล้ว ไม่สามารถยิงเข้าได้ จนพ่อตนเองต้องหลอกเปลี่ยนแผนไปแทงเข้าที่ทางทวารหนัก ถึงจะจัดการกับคนร้ายได

แต่อย่างไรก็ตามเรื่องราวต่าง ๆ ของพ่อนั้น เป็นเรื่องราวในอดีตผ่านมาหลายสิบปี อาจจะนำมาใช้ในสมัยนี้ไม่ได้ แค่บอกกล่าวให้ฟังถึงเรื่องราวในอดีตเท่านั้น อย่างน้อยจะได้ไม่หลงกล หลงทาง ไปเข้าทางโจรแทน นายณสรรค์ กล่าว