X

เลือกตั้ง66 : พปชร.ขนทัพหลวงเปิดเวทีใหญ่ ‘ลุงป้อม’ อ้อนขอความรักคนเมืองคอนฯ ร่วมก้าวข้ามความยากจน

นครศรีธรรมราช : พรรคพลังประชารัฐ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ภาคใต้ ‘พล.อ.ประวิตร’ สักการะศาลหลักเมืองคอน จุดประทัดหมื่นนัด เอาฤกษ์เอาชัย ก่อนขึ้นปราศรัยใหญ่ ขอบคุณคนใต้อ้อนขอคะแนนเลือกทั้งคนทั้งพรรค ปชช.แห่รับฟังนโยบายร่วม 2 หมื่นคน

วันที่ 29 เมษายน 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน, นายวิรัช รัตนเศรษฐ, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง นำทีมผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 10 เขต ของพรรค ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ณ สนามหน้าเมือง ถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยประชาชนที่เข้าร่วมรับฟังนโยบายจนเต็มพื้นที่ร่วม 20,000 คน โดยประชาชนต่างโบกธงให้กำลังใจ พร้อมประสานเสียงโห่ร้องเชียร์ เบอร์ 37 อย่างต่อเนื่อง

ก่อนขึ้นเวที พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้าสักการะศาลหลักเมือง และได้สวดบทบูชาองค์พ่อจตุคามรามเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านข้างเวที และจุดประทัดเอาฤกษ์เอาชัย 10,000 นัด เพื่อความเป็นศิริมงคล พร้อมทักทายประชาชนที่มาให้กำลังใจด้วยสีหน้าที่มีความสุข โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวกับชาวบ้านว่า “พบกันเป็นวันที่ 2 แล้ว ขอขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ พร้อมที่จะเข้ามาทำงานรับใช้ประชาชน และจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ฝากพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 และฝากผู้สมัครทั้ง 10 เขต ของพรรคพลังประชารัฐให้ช่วยลงคะแนนด้วย

พล.อ.ประวิตร กล่าวบนเวทีว่า ตนเองและพรรคพลังประชารัฐ พร้อมจะรับใช้ชาวนครศรีธรรมราชทุกคนให้มีความเจริญรุ่งเรือง เราเลือกคนดีและคนเก่งมาเป็นผู้แทนของชาวนครฯ จึงขอให้เลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 10 เขต และเลือกพรรคพลังประชารัฐเบอร์ 37 บัตรสีเขียว วันนี้อยากให้คนไทยรักกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง และความยากจนไปด้วยกัน จึงขอให้เชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ

พลังประชารัฐได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน ลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส ค่าไฟฟ้าลงทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินลง 18 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลลด 6.30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำทันที่พลังประชารัฐได้เข้ามาเป็นรัฐบาล รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊สให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญ คือ ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย เพื่อมอบความสุขให้ประชาชนด้วยความจริงใจ พลังประชารัฐจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น

นอกจากนี้ พรรคพลังประชารัฐ ยังมีนโยบายเพิ่มเงินในบัญชีของประชาชนอย่าง สวัสดิการผู้สูงอายุ 3 4 5 และ 6 7 8 โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับ 3,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไป จะได้รับ 4,000 บาท และอายุ 80 ปีขึ้นไปจะได้รับ 5,000 บาท รวมไปถึงนโยบาย ‘แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ’ แจกเงินคนท้องเดือนละ 10,000 บาท ในเดือนที่ 5 จนกว่าจะคลอด และเงินช่วยดูแลลูกอีกเดือนละ 3,000 บาท จนถึง 6 ขวบ ซึ่งอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญก็คือ มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน ที่เราได้บริหารจัดการมากกว่าสามปี และเราจะทำต่อไป เช่นเดียวกับที่ดินทำกิน ถ้ามีเราก็มีที่ดินทำกิน ไม่มีจน เราจะทำให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีที่อยู่อาศัย มีที่ประกอบสัมมาวิชาชีพ เราจะสนับสนุนเงินให้เกษตรกรทั่วประเทศ จำนวน 30,000 บาท ทั้ง 8 ล้านครอบครัว เพื่อแก้ปัญหาความยากจนด้วย

ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ทีมนโยบายพรรค กล่าวว่า เราจะมาพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ทั้ง 5 จังหวัด ได้แก่ สตูล, นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา และ สงขลา จะผลักดันให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบเดียวกันกับภาคตะวันออก ที่จะเห็นว่าปัจจุบันเศรษฐกิจเติบโตเป็นเท่าตัว โดย พล.อ.ประวิตรได้มีการพุดคุยกับนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคใต้ทั้ง 2 ฝั่งร่วมกันแล้ว

“เมื่อ พปชร.ได้จัดตั้งรัฐบาล เราจะเปิดเศรษฐกิจใหม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อสร้างให้ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ยกระดับเป็นพื้นที่ ที่มีศักยภาพ สามารถสร้างรายได้ และอาชีพ ซึ่งนโยบายดี ๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพี่น้องประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เลือกพล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30” ดร.คณิศ กล่าว

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พปชร. กล่าวปราศรัยว่า จ.นครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในจังหวัดที่จะชี้ชะตาการเลือกตั้ง ซึ่งวันนี้มีพรรคการเมืองเดียวที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการตัดสินใจชองชาวภาคใต้ โดยเป็นตัวแปรให้ผ่านพ้นการต่อสู้และขัดแย้ง ก็คือ พปชร.ซึ่งเราเป็นพรรคที่จะสามารถรวมทุกฝ่าย พี่น้องประชาชนกำลังชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย หากตัดสินใจผิด เลือกพรรคผิด เลือกผู้แทนที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ของรัฐบาล จะไม่มีใครดูแลประชาชน ดังนั้นขอให้เลือก ส.ส.ของ พปชร.ทั้ง 10 เขต และเลือก พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ เพราะเป็นคนเดียวที่มีบารมีการเมืองมากที่สุด เชื่อมโยงคนทุกฝ่ายได้ เป็นคนเดียวที่มีประสบการณ์การเมืองยาวนานที่สุด นายสนธิรัตน์ กล่าว

 

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นเว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช แพลตฟอร์มชุมชนข่าวสาร 77 จังหวัด พบกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง กับข่าวท้องถิ่นทั่วประเทศ