กรุงเทพฯ : ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ แฉหมดเปลือก ขบวนการเก็บส่วยส่งนาย ทำประเทศไทยย่ำแย่ ควรยกเลิกการตั้งด่านตำรวจ นายกรัฐมนตรีต้องแสดงความรับผิดชอบ แก้ไขภาพลักษณ์ของประเทศ อย่าให้ภาคการท่องเที่ยวไทยเสียหายมากไปกว่านี้
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ระบุว่า ปัญหาดาราสาวชาวไต้หวันและพวก ถูกตำรวจข่มขู่เอาเงิน 27,000 บาทแลกกับอิสรภาพ สร้างความเสื่อมเสียและเสียหายให้แก่ประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว วันนี้ มาบอกว่าประเทศไทยพร้อมเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามา แต่เจ้าของประเทศกลับมาทำแบบนี้กับนักท่องเที่ยว เป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้ วันนี้ ตำรวจทำอะไรกันอยู่ เนื้อร้ายต้องตัดทิ้งไป ไม่ใช่คอยปกป้องกันอยู่ เห็นกันอยู่แล้วว่าตำรวจทำผิด สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การออกมายอมรับ ขอโทษ และคืนเงินเขาไป
ทั้งนี้ เหตุผลที่ตำรวจต้องออกมาหากินในรูปแบบของการรีดไถจากประชาชนและนักท่องเที่ยว เพราะไม่ได้รับเงินจากบ่อนการพนันอย่างที่เคยได้ หลังถูกปิดให้บริการไป แต่จำเป็นต้องหาเงินส่งนาย ที่ตนเองออกมาเปิดเผยความจริงทำ ผ.บชน.คนนี้เขาไม่ชอบผม เพราะผมรู้ทัน
นายชูวิทย์ เปิดโปงว่า ตำรวจนครบาลมี 88 สน. รวมถึงจราจรกลาง บนสมมุติฐาน ถ้าการตั้งด่าน 1 ครั้ง ต้องมีรายได้ 1 แสนบาท บช.น.จะเก็บเงินได้ 264 ล้านต่อเดือน ส่วนจราจรกลางสามารถตั้งได้ตลอดเวลาทั่ว กทม.จะได้ 60 ล้านบาทต่อเดือน รวมกันเป็นเงิน 324 ล้านบาทต่อเดือน นำไปแบ่งสรรปันส่วนกัน ซึ่งมีอัตรารีดไถ ดังนี้ เป่าแอลกอฮอล์ 3 หมื่นบาท มีสารเสพติดในร่างกาย 1 แสนบาท พบยาเสพติด 3-5 แสนบาท มีอาวุธ 3-5 หมื่นบาท รถควันดำ 1 หมื่นหมื่น บุหรี่ไฟฟ้า 3 หมื่น แล้วแต่จะต่อรอง
จึงขอเรียกร้องให้สังคมไทยตื่นตัวเรื่องการคอรัปชั่น เพราะที่ผ่านมา ผู้นำประเทศปล่อยปละละเลยมากจนเกินไป นายกรัฐมตรีเองก็เพิกเฉย ไม่รับรู้อะไร ให้ไปจัดการกันเอาเอง พูดได้เพียงว่า ทุกวงการมีทั้งคนดีคนไม่ดี ต้องให้ความเป็นธรรมกันทั้งสองฝ่าย ก็เพราะเหตุนี้ประเทศไทยถึงย่ำอยู่กับที่
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายมาก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขาดความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาเที่ยวในเมืองไทย ขอให้นายกรัฐมนตรีออกมารับผิดชอบแก้ไขปัญหา และขอโทษผู้เสียหายในนามประเทศไทย รวมถึงยกเลิกการตั้งด่านของตำรวจ กhttps://youtu.be/7GBFBvAo0Eoระบวนการรีดไถเงินจะได้หมดไป เพราะคนที่เดือดร้อนคือประชาชน คนร้ายหรือคนทำผิดกลายเป็นของหวานให้ตำรวจพวกนี้ เพราะแค่จ่ายเงินก็จบ
นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงกระบวนการของข้าราชการ ที่พอเกิดเรื่องขึ้น ก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวน โยกย้ายไป-มา ว่า ไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหา ที่ถูกต้อง คือ ต้องให้ออกจากราชการเลย หากโยกย้ายกันอยู่แบบนี้ กระบวนการสอบสวนก็จะยุ่งเหยิง
