นครศรีธรรมราช : สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ฝนหยุดตก น้ำลดระดับลง เหลือเพียงบางพื้นที่น้ำท่วมขัง ชาวบ้านเร่งเก็บกู้ซ่อมแซมทำความสะอาดบ้านเรือน ขณะยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็นรายที่ 12 สูญหายอีก 2 ราย ของอุทกภัยของอุทกภัยครั้งนี้
วันที่ 4 ธันวาคม 2563 สถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชตั้งแต่วันที่ 1 – 4 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง หลังเกิดภาวะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน มวลน้ำมากมายมหาศาลได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในแต่ละพื้นที่ครอบคลุมทั้ง 23 อำเภอ โดยศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สรุปภาพรวมพื้นที่ประสบภัยใน 23 อำเภอ มี 145 ตำบล 1,037 หมู่บ้าน 114 ชุมชน และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์จมน้ำ 12 ราย สรุปยอดอย่างเป็นทางการแล้ว 8 ราย
♦รายแรก เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.63 คือ นายสมบูรณ์ ภาษากล อายุ 40 ปี จมน้ำเสียชีวิต ใน อ.เฉลิมพระเกียรติ
♦รายที่ 2 และ 3 เป็นสองแม่ลูก เรือคว่ำจมน้ำเสียชีวิต บริเวณถนนที่ถูกน้ำท่วมหลังป้อมจราจร สภ.พระพรหม ห้าแยกนาพรุหมู่ 1 ต.นาพรุ อ.พระพรหม เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 ธ.ค.63 คือ น.ส.จริยา สังข์อินทรีย์ อายุ 27 ปี และ ด.ช.นฤบดินทร์ สังข์อินทร์ อายุ 5 ปี
♦รายที่ 4 อ.นาบอน คือ นายวิชิตร ไชยคชบาล อายุ 65 ปี จมน้ำเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 116/1 หมู่ 7 ต.แก้วแสน อ.นาบอน
♦รายที่ 5 อ.ฉวาง นางจิราภร วงศ์วัสดิ์ อายุ 48 ปี ถูกกระแสน้ำพัดตกลงไปในคลองหมู่บ้านเสียชีวิต
♦รายที่ 6 อ.นบพิตำ คือ น.ส.วิภารัตน์ ไม้ค้าง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/95 หมู่ที่ 6 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ขับรถยนต์ตกสะพานคลองกลาย หมู่ 1 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ ขณะน้ำเชี่ยวกรากจมน้ำเสียชีวิต
♦รายที่ 7 พื้นที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช นางสมบูรณ์ ชื่นเพชร อายุ 63 ปี จมน้ำเสียชีวิตในซอย ข้างบ้านเลขที่ 9/2 หมู่ 3 ต.มะม่วงสองต้น
♦รายที่ 8 พื้นที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช เช่นกัน คือ นางโบตี๋ ตันติเบญจธรรม อายุ 82 ปี จมน้ำเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 1542/1 ซอยหน้าทักษิณ 3 ต.ท่าวัง
♦รายที่ 9 อ.ทุ่งใหญ่ คือ นายมานิต อินทกูล อายุ 62 ปี จมน้ำเสียชีวิตขณะออกหาปลาภายในสวนปาล์ม หมู่ 3 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่
♦รายที่ 10 พื้นที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช นางจิณตมัย เรืองพันธ์ อายุ 51 ปี จมน้ำเสียชีวิตในซอยเตาหม้อ ถนนสายสะพานยาว
♦รายที่ 11 อ.ปากพนัง นายสมบัติ ขาวสังข์ อายุ 51 ปี จมน้ำเสียชีวิต ขณะออกไปดักอวนหาปลา ที่บริเวณข้างสนามกีฬาเทศบาลเมืองปากพนัง
♦รายที่ 12 พื้นที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช คือ เด็กหญิงวันฤดี ลักษณา อายุ 4 ขวบ จมน้ำเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 87/3 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าซัก
นอกจากนี้ ยังมีรายงานบุคคลสูญหาย ขณะนี้ยังหาไม่พบอีก 2 คน คือ นายสุข บุญศรีพัฒน์ อายุ 57 ปี สูญหายไปเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 2 ธ.ค.63 ในพื้นที่ ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา ยังอยู่ระหว่างการค้นหา และอีกรายที่ อ.สิชล คือ นายอดิศักดิ์ ศรีปาน อายุ 33 ปี เป็นลูกเรือประมง ถูกคลื่นซัดตกเรือจมน้ำหายไป ยังค้นหาร่างไม่พบเช่นกัน
ทั้งนี้ ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. 4 ธ.ค.63 ศูนย์วิทยุมูลนิธิประชาร่วมใจนครศรีธรรมราช ประสานไปยังร้อยเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ให้เข้าตรวจสอบและชันสูตรศพ หลังพบผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชาย อายุประมาณ 5-6 ขวบ จมน้ำเสียชีวิตในจุดน้ำท่วมขัง ริมถนนเทิดพระเกียรติ-ทางไปปากนคร หมู่ 2 ต.ท่าซัก อ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังรับแจ้ง จึงประสานไปยังแพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เข้าร่วมชันสูตรศพ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง พร้อมรายงานให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช รับทราบต่อไป
อุทกภัยครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหาย พร้อมทิ้งร่องรอยความรุนแรงของน้ำไว้แทบทุกพื้นที่ การช่วยเหลือและเยียวยายังคงดำเนินต่อไป แม้จะยังไม่ทั่วถึงก็ตาม ยังคงมีหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งสิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือน ถนนหนทาง พื้นที่ทางการเกษตร สัตว์เลี้ยง รวมถึงสภาพจิตใจของชาวบ้าน เนื่องจากได้รับผลกระทบกันอย่างทั่วถึง เพราะอุทกภัยครั้งนี้รุนแรงและเกิดความเสียหายมากกว่าภัยพิบัติที่เคยเกิดขึ้น หนักที่สุดในรอบกว่า 30 ปี ซึ่งประชาชนไม่สามารถตั้งรับได้ทัน ประกอบกับ ไม่มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานท้องถิ่นหรือภาครัฐ เข้าไปช่วยเหลือดูแลตรวจสอบและเยียวยาอย่างทั่วถึง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ส่งผลให้สภาพจิตใจของชาวบ้านย่ำแย่ ตั้งแต่เกิดภัยพิบัติจนถึงขณะนี้ ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านต้องการอย่างเร่งด่วน คือ น้ำดื่ม สิ่งของอุปโภค-บริโภค และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นต่าง ๆ
สำหรับสถานการณ์ในภาพรวมโดยทั่วไป หลังจากหลายพื้นที่ฝนได้หยุดตกแล้ว มีเพียงบางพื้นที่เท่านั้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนสะสมลดลง ระดับน้ำในลำคลองสายต่าง ๆ ลดลงตาม โดยเฉพาะ คลอง”หนองบัว” ม.3 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคลองขนาดใหญ่ที่รับน้ำมาจากคลองท่าดี ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาหลวง ก่อนเข้าสู่เขตตัวเมืองนครศรีธรรมราช พบว่าลดระดับลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงกระแสความรุนแรงและสีของน้ำเริ่มจางลงต่างไปจากวานนี้ คงเหลือพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่งที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ อย่างพื้นที่ ต.ท่าซัก ต.ปากนคร ต.ในเมืองบางแห่ง ฯลฯ ปริมาณน้ำสูง 1-1.5 เมตร ประกอบกับน้ำทะเลหนุน จึงทำให้การระบายออกค่อนข้างช้า
ทั้งนี้ ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา สภาพอากาศค่อนข้างดี ท้องฟ้าโปร่งมีแดดจ้า เป็นสัญญาณสื่อถึงการเข้าสู่ภาวะปกติ การดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนกำลังเริ่มขึ้นใหม่อีกครั้ง หลังทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย มีการเคลียร์พื้นที่ ทำความสะอาดบ้านเรือน เก็บกู้ ซ่อมแซมความเสียหาย ขณะที่บางรายได้สั่งซื้อหิน ดิน ทราย มาถม เพื่อปรับพื้นที่ที่เสียหาย เนื่องจากถูกน้ำกัดเซาะ โดยไม่รอพึ่งพาความช่วยเหลือจากหน่วยงานท้องถิ่นที่รับผิดชอบ ซึ่งเป็นไปอย่างล่าช้า บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหาย อาทิ หลังคาทรุด เสาบ้านล้ม ข้าวของเสียหาย ถูกน้ำพัดพา รั้วบ้านพัง น้ำประปาไม่ไหล พบว่ายังไม่มีการแก้ไข ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเข้าตรวจสอบตั้งแต่เกิดภัยพิบัติ โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ขณะนี้ยังคงรอเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจความเสียหาย และการให้ความช่วยเหลืออยู่
อ่านข่าว #น้ำท่วมนครศรีธรรมราช ย้อนหลังได้ที่
นครฯ – ทหารเร่งช่วยคนเมืองคอน มทภ.4 ลงพื้นที่ทุ่งสง ขณะ ทอ.ส่ง ฮ.กู้ภัย ส่งความช่วยเหลือ
นครฯ – เมืองคอนยังวิกฤติ น้ำทะเลหนุนซ้ำ สังเวยเพิ่มเป็น 8 ศพ
นครฯ – น้ำท่วมเมืองคอนสังเวยแล้ว 6 ศพ สูญหาย 1 คน ทุกฝ่ายเร่งช่วย
เผย คลิปวินาทีน้ำป่าซัด ‘สะพานแขวนคีรีวง’ ขาด!!!
นครฯ – ประกาศ กฟผ.แจ้งเตือน ปชช.อาจหยุดจ่ายไฟ
นครฯ – น้ำเข้าท่วม รพ.มหาราช เมืองคอน
นครฯ – สังเวยน้ำท่วมใหญ่เมืองคอน 2 สาว ขับรถตกสะพานกลาย รอด 1 ดับ 1 (มีคลิป)
นครฯ – น้ำท่วมรันเวย์ สนามบินนครฯ แต่ยังบินได้ปกติ
นครฯ – น้ำท่วมเมืองคอน วิกฤติ! จมน้ำ 15 อำเภอ เดือดร้อนเกือบ 50,000 คน พื้นที่เกษตรเกือบ 300,000 ไร่
