X

นครฯ – ฝนกระหน่ำเมืองคอนรอบสอง 17 พื้นที่เสี่ยงอ่วม กรมชลฯ เตือน ปชช.เขตเมือง เตรียมรับมือน้ำป่าไหลหลาก

นครศรีธรรมราช : เมืองคอนอ่วมรอบสอง หลายพื้นที่จมใต้น้ำ หลังดินบนภูเขาชุ่มน้ำ ทะลักไหลลงพื้นที่ราบ กรมชลฯ เตือน 17 พื้นที่เสี่ยง ปชช.เตรียมรับผลกระทบ

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศถึงหย่อมความกดอากาศต่ำแผ่ปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่าง โดยจะเคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามันในระยะต่อไป ส่งผลให้บริเวณพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ซึ่งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา ฝนได้กระหน่ำลงมาอย่างหนักติดต่อกันจนถึงขณะนี้ยังไม่มีทีท่าที่จะขาดช่วง ส่งผลให้มวลน้ำป่า จากเทือกเขาหลวง ไหลบ่าลงสู่ลำคลองสายหลัก สายต่าง ๆ โดยเฉพาะ “คลองท่าดี” ซึ่งเป็นคลองที่ผ่านตัวเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนไหลออกสู่ทะเลปากพนัง มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากเดิม จนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ ตามชุมชนต่าง ๆ ของเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช อาทิ ชุมชนบ่อทรัพย์,ชุมชนหลังสถานีรถไฟ รวมถึงพื้นที่รอบนอก อย่าง ต.ไชยมนตรี และ ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช บ้านเรือน สิ่งของ สัตว์เลี้ยง พืชผลทางการเกษตร สวนยางพารา สวนปาล์ม ถนนหนทาง ได้รับผลกระทบ มีถนนหลายสายน้ำได้ไหลผ่านรถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้

หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำสูงเหนือเข่า เนื่องจากไม่สามารถระบายลงคลองสายหลักทั้ง 5 สาย ในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชได้ซึ่งทางเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ได้ระดมเครื่องสูบน้ำจำนวน 33 เครื่อง ติดตั้งตามชุมชนต่าง ๆ เร่งระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมรับมวลน้ำใหม่ที่กำลังไหลลงมาสมทบ ขณะที่กำลังพลทหารจาก ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 41 ได้ลงพื้นที่ชุมชนบ่อทรัพย์เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูง พร้อมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ตลอดคืนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้

นายไสว เขียวจันทร์ รองนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกับอุทกภัยในครั้งนี้ไว้แล้วล่วงหน้า โดยทางเทศบาลฯได้แก้ปัญหาเรื่องการระบายน้ำด้วยการขุดลอกคลองทุกสายในเขตเทศบาลฯเพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็วขึ้น ได้สั่งการไปยังสำนักการช่าง ลงพื้นที่ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อใช้ในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 6 นิ้ว บริเวณคลองคูพาย และจุดอื่น ๆ อีก 16 จุด ๆ อีกวณคลองคูพาย และ ้ ะขาดช่วงพื้นที่ลุ่มต่ำ สามารถสัญจรไปมาได้ สวนยางพารา สวนปาล์ม สวนเกษตรของชาวบ้านจมอยู่ไต้น้ำ หลายหลัจำนวน 33 เครื่อง เน้นในพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีน้ำท่วมขังเป็นประจำ พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำสำรองของกรมชลประทานอีก 11 เครื่อง เมื่อได้รับการร้องขอก็สามารถสนับสนุนได้ในทันที อย่างไรก็ตามหากฝนที่ตกมานี้ ไม่มากจนผิดปกติ น้ำจะไม่ท่วมเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชอย่างแน่นอน

“ด้านศูนย์อพยพทางเทศบาลฯได้จัดเตรียมสถานที่โรงเรียนในเขตเทศบาลฯไว้ทั้งหมด เพื่อรองรับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ สำหรับพื้นที่เสี่ยง รวมถึงพื้นที่น้ำท่วมขังตามชุมชนต่าง ๆ จนท.ได้เร่งอพยพออกจากพื้นที่มาอยู่ที่ศูนย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันได้จัดรถเคลื่อนที่เร็วออกสำรวจและประชาสัมพันธ์ให้ ปชช.ได้รับทราบตลอด 24 ชม. แต่หากฝนยังตกติดต่อกัน 2-3 วัน น้ำคงท่วมหนักในพื้นที่อย่างแน่นอน” นายไสว กล่าว

นายวรายุทธ คงนุ้ย ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครศรีธรรมราช นำเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 6 ตัว มาติดตั้งบริเวณ คลองนครน้อย และคลองท่าซัก รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 5 เครื่อง บริเวณทุ่งท่าลาด เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมสำรองเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว และ 12 นิ้ว อีก 120 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ อีก 60 เครื่อง เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำท่วมรอบใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้านี้ ให้ผลกระทบเกิดขึ้นน้อยที่สุด

ขณะที่นายนิพนธ์ สุขสะอาด เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และสำรวจผลกระทบจากอุทกภัย กับเกษตรกรในพื้นที่ ตำบลควนพัง อำเภอร่อนพิบูลย์ ตำบลควนหนองคว้า อำเภอจุฬาภรณ์ และตำบลท่าประจะ ตำบลชะอวด อำเภอชะอวด พร้อมสรุปสถานการณ์เพื่อรายงานให้ทางจังหวัดรับทราบต่อไป

“จากการสำรวจข้อมูลผลกระทบครั้งนี้ พบว่ามีพื้นที่น้ำท่วมสูง และพืชผลการเกษตรน่าจะเสียหายมาก คือพื้นที่หมู่ที่ 2,5,8 ตำบลควนพัง อำเภอร่อนพิบูลย์ เกษตรกรปลูกมันเทศ เผือกหอม ข้าวโพด ฯลฯ เสียหายมากเพราะน้ำท่วมสูง แรง และมาเร็ว เก็บเกี่ยวไม่ทัน ส่วนปศุสัตว์ แพะ วัว ต้องอพยพขึ้นที่สูง พื้นที่จุฬาภรณ์ และชะอวด ส่วนใหญ่ปลูกปาล์มน้ำมัน ข้าว เงาะ (แปลงใหญ่) แต่ไม่ถึงขั้นเสียหายสิ้นเชิง แค่ได้รับผลกระทบเท่านั้น”

สำหรับปริมาณน้ำฝนที่วัดได้สูงสุด อยู่ที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช 264.9 มิลลิเมตร โดยสถานีวัดน้ำ อ.เมืองนครศรีธรรมราช วัดระดับเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 พ.ย.63 มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 10.71 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 0.09 เมตร ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน คาดการณ์ระดับน้ำจะเสมอตลิ่งและทรงตัวในวันนี้ (30 พ.ย.63)

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นเว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช แพลตฟอร์มชุมชนข่าวสาร 77 จังหวัด พบกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง กับข่าวท้องถิ่นทั่วประเทศ