X

นครฯ – ลุยเดี่ยว! ผู้สมัครสาว ส.อบจ.เขตเมือง เดินเคาะประตูบ้าน อ้อนขอคะแนน ชู 3 นโยบาย

นครศรีธรรมราช : เล็ก “วาณี”พงศ์ยี่หล้า ผู้สมัครสาวสวยชาวมุสลิม หมายเลข 1 ชู 3 นโยบาย หาเสียง เขต 2 อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช ลุยเดี่ยวเดินเคาะประตูบ้าน อ้อนขอคะแนน เป็น ส.อบจ.

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 อีกมุมของผู้สมัครลงแข่งขันชิงพื้นที่ตำแหน่ง ส.อบจ.นครศรีธรรมราช ในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช การหาเสียงเริ่มเข้มข้นขึ้นทุกขณะ เมื่อผู้สมัครแต่ละเขตพื้นที่หาเสียงต่างพาลูกทีมพร้อมสื่อโฆษณาทุกรูปแบบ จัดทัพขบวนรถแห่ ลงพื้นที่เรียกคะแนนเสียงให้กับตนเองและทีมต้นสังกัด มีการปักป้ายหาเสียงตามเสาไฟฟ้า ถนนหนทาง โดยเฉพาะตามแยกต่าง ๆ รวมไปถึงสถานที่จุดสำคัญ ๆ อย่างร้านอาหาร สถานบริการที่มีผู้คนเข้าออกมาก ที่ขาดไม่ได้คือตามร้านน้ำชาทั่วทุกมุมเมือง ถึงแม้ว่าฝนจะตกแดดจะออกก็ไม่หวั่นกับการลงพื้นที่หาคะแนนเสียง ยังไงก็ต้องเข้าไปให้ได้และให้ถึงในทุกตรอกซอกซอย

นางสาววาณี พงศ์ยี่หล้า สุภาพสตรีเพียงคนเดียวจากผู้สมัครทั้ง 4 คน ที่ลงแข่งขันชิงพื้นที่ ส.อบจ. ในเขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้สมัครอิสระ ไม่สังกัดกลุ่มการเมืองใด อาศัยวิธีเดินย่ำเท้าเข้าเคาะประตูบ้าน นั่งพูดคุย รับฟังปัญหา สร้างมิตรภาพปฏิสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นกับชาวบ้าน อ้อนขอคะแนนเสียงบริสุทธิ์ เก็บเกี่ยว กอบโกย สะสมไปทีละเสียง อย่างความมั่นอกมั่นใจ ในพื้นที่ ต.คลัง และ ต.โพธิ์เสด็จ พื้นที่เศรษฐกิจของเมืองนครศรีธรรมราช และย่านชุมชน มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 3 หมื่นคน กับสโลแกน “ขออาสา ทำงานเพื่อประชาชน”

  • การหาเสียงในครั้งนี้ของนางสาววาณี ได้หยิบ 3 นโยบาย ที่มีความจำเป็นและสำคัญยิ่งต่อพี่น้องทุกเพศวัยในพื้นที่ เพราะด้วยประสบการณ์ในทางการเมืองที่ผ่านมา ที่ได้จากการสั่งสมมาจากผู้เป็นพ่อ คือนายมนัส พงศ์ยี่หล้า อดีตรองนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช ในการคลุกคลีสัมผัสและคุ้นเคยกับพื้นที่ชุมชนเป็นอย่างดี จึงทำให้ทราบว่าคนในชุมชนต้องการอะไร ควรช่วยเหลืออย่างไรและปัญหาใดควรได้รับการแก้ไขก่อนหลัง อย่างแรกคือการส่งเสริมรายได้ให้กับคนในชุมชน การที่คนมีมีงานทำ รายได้ วิถีความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีก็จะเกิดขึ้นตามโดยอัตโนมัติความเสื่อมโทรม เหลื่อมล้ำทางสังคมก็จะค่อย ๆ หมดไป ความเท่าเทียมก็จะเกิดขึ้นแทน
  • 2) การส่งเสริมการศึกษา ความรู้คือช่องทางโอกาสที่ดีในอนาคตของเยาวชนทุกคนที่จะต้องก้าวเข้าสู่วัยทำงาน การได้เข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม เป็นการสร้างผลผลิตที่ดี เพื่อต่อยอดให้กับการส่งเสริมรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว จากชุมชนและสังคมที่ต่างคนต่างความคิด แก่งแย่งแข่งขัน เอารัดอาเปรียบ ก็จะกลับกลายมาเป็นสังคมที่เหนียวแน่น สามัคคี ปรองดอง รักใคร่กลมเกลียว ไม่เกิดการเห็นแก่ตัว ปัญหาต่าง ๆที่เคยเกิดขึ้นก็จะค่อย ๆลดลงและหมดไปในที่สุด เมื่อความรู้เข้าถึง มีงานและมีเงิน
  • และที่สำคัญยิ่งคือด้านสุขภาพที่ดีของคนในชุมชน ซึ่งในยุคปัจจุบัน โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ มีมากมาย การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร รวมถึงสิทธิ์ต่าง ๆ จะต้องมีความเสมอภาค ทั่วถึง และเท่าเทียมกัน มีการศึกษาดี มีหน้าที่การงานที่มั่นคง มีเงินมีรายที่เพียงพอ ความสมบูรณ์ของชีวิตก็จะเกิดขึ้น โรคภัยไข้เจ็บก็จะไม่เบียดเบียน

อยากให้พี่น้องทุกคนมาเริ่มต้นกันสร้างความ “เท่าเทียม” กันตั้งแต่วันนี้ เปิดโอกาสให้การเมืองในยุคปัจจุบัน ได้มีสุภาพสตรีเข้าไปมีบทบาทในการเป็นผู้นำบ้าง เพราะ สมัยนี้ผู้หญิงก็มีวุฒิภาวะ มีความเก่งกล้าสามารถ มีความรู้ และมีความเป็นผู้นำได้เท่าเทียมหรือมากกว่าผู้ชายเลยด้วยซ้ำไป ดังนั้น การเมืองเป็นเรื่องของจิตอาสา ถ้าเราไม่มีจิตอาสาในตัวเอง แล้วเราจะมาเป็นนักการเมืองที่ดีได้อย่างไร

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นเว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช แพลตฟอร์มชุมชนข่าวสาร 77 จังหวัด พบกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง กับข่าวท้องถิ่นทั่วประเทศ