นครฯ – เมื่อสิทธิอยู่ในมือทุกคน แล้วคนนครฯ จะเลือกใคร?

ยังคงเหลือระยะเวลาอีกไม่มากนัก สำหรับการลงพื้นที่กอบโกยคะแนนเสียง ของผู้ช่วงชิงตำแหน่งนายกฯ และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้ง 42 เขต ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้เลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563

นับถอยหลังไปอีก 32 วัน ที่พี่น้องชาวนครศรีธรรมราช จะได้เข้าไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อเข้าคูหาลงคะแนนเสียงให้กับบุคคลที่ตนเองรัก ที่เห็นว่าเหมาะสมและเห็นสมควร ให้เข้าไปทำหน้าที่บริหารพัฒนาจังหวัด และดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตนเอง

ตำแหน่งนายก อบจ.จะเป็นของใคร? ในการลงแข่งขันช่วงชิงเก้าอี้ในครั้งนี้ ของผู้สมัครทั้ง 8 คน
ซึ่งประกอบไปด้วย

หมายเลข 1 นายอำนวย ยุติธรรม อายุ 43 ปี จบปริญญาโท อดีตข้าราชการการเมือง

หมายเลข 2 นางกนกพร เดชเดโช อายุ 54 ปี จบปริญญาโท นักธุรกิจ

หมายเลข 3 นายอนันต์ ทองอุ่น อายุ 57 ปี จบปริญญาโท อดีตข้าราชการ

หมายเลข 4 นายอิสระ หัสดินทร์ อายุ 62 ปี จบปริญญาโท อดีตอายุรแพทย์

หมายเลข 5 นายนนทิวรรธน์ นนทภักดิ์ อายุ 50 ปี จบปริญญาโท นักธุรกิจ

หมายเลข 6 พล.ท.ธีร์ณฉัฏฐ์ จินดาเงิน อายุ 63 ปี จบปริญญาโท อดีตราชการทหาร

หมายเลข 7 นายพิชัย บุณยเกียรติ อายุ 59 ปี จบปริญญาโท เกษตรกรสวนยางพารา

และหมายเลข 8 นายพงษ์ฐกร ไพริน อายุ 52 ปี จบปริญญาตรี นักธุรกิจ

รวมถึง ส.อบจ. ทั้ง 42 เขต เลือกตั้ง ที่มีผู้ลงสมัครแข่งขันกันถึง 155 คน กำลังขับเคี่ยวเรียกคะแนนนิยมให้กับตนเองเพื่อก้าวไปสู่เส้นชัย

ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชทั้ง 1.56 ล้านคน ที่จะได้ร่วมกันพิจารณาเฟ้นหาผู้ที่เหมาะสมที่สุด เพื่อฝากอนาคตบ้านเมืองไว้ในมือ ตลอดระยะเวลา 4 ปี นับต่อจากนี้ไปจนถึง ปี 2567 ที่สิทธิและเสียงของพี่น้องประชาชนจะกลับคืนมาอีกครั้ง

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เพิ่มหน่วยเลือกตั้งขึ้นอีกเกือบ 200 หน่วย เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้แก่ประชาชน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากเดิม 2,013 หน่วย เป็น 2,208 หน่วย พร้อมคาดการณ์จำนวนผู้ที่จะมาใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ สูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1.2 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.จังหวัด ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คุมเข้มมาตรการการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม ตามโครงการ “หมู่บ้านปลอดการขายเสียง” ที่ดำเนินการมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนสามารถมีส่วนร่วม ด้วยการแจ้งเบาะแสหากพบมีการซื้อสิทธิขายเสียงและการทุจริตการเลือกตั้งในทุกรูปแบบ ได้ที่ กกต.จังหวัด และสถานีตำรวจภูธรในท้องที่

ถึงเวลาที่บ้านเมืองจะต้องเดินไปข้างหน้า เพราะในเมื่ออดีตที่ผ่านมา เราทุกคนต่างรู้ว่า ใครก็ตามที่ก้าวเข้ามา ล้วนแล้วแต่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน อย่าเห็นเพียงค่าของเงินเพียงเล็กน้อย ที่ใช้แล้วหมดไป ท้ายที่สุด ค่าของคุณก็จะสลายหายไปในพริบตา คงเหลือเพียงความทุกข์ยากที่จะหวนกลับมาเหมือนเดิม

(ตรวจสอบรายชื่อผู้สมัคร ได้ที่นี่ ) https://mobidrive.com/sharelink/4eMITyJKEz2USTOQhr4YJI5O9YYfT4YmBTASdPVj4VZa