X

ผู้รับเหมาโวยกลุ่มผู้มีอิทธิพลยิงบ้านครั้งที่ 3 แจ้งตำรวจไร้น้ำยา

เสี่ยผู้รับเหมาโวย โดนกลุ่มผู้มีอิทธิพลยิงบ้าน ครั้งที่ 3 แจ้งตำรวจแต่ไร้น้ำยา ประชดหากตำรวจพึ่งไม่ได้จะไปร้องหมอปลาดีกว่า

เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ท.บวรศักดิ์  คำรังษี รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.วารินชำราบ  พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ เหิงขุนทด สารวัตร.(สอบสวน) สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี  รับแจ้งจากนายอมรชัย ศรีตะคุ อายุ 48 ปี เจ้าของ หจก.อมตะแกรนิต แอนด์มาร์เบิล ตั้งอยู่เลขที่ 436 บ้านจั่น หมู่ 2 ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เสี่ยรับเหมาก่อสร้างบ้านและร้านค้าทั่วไป มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยาวยิงเข้าบริเวณกระจกห้องทำงานชั้น 2 ได้รับความเสียหาย

จากการตรวจสอบโดยรอบพบรอยกระสุน ขนาด .22 จำนวน 1 นัด บริเวณกระจกห้องทำงานชั้น 2 ของบ้านพัก แต่กระสุนไม่ทะลุเข้าไปในตัวห้องทำงานคาดว่าจะเป็นการยิงจากทุ่งนาระยะไกล โดยนายอมรชัย กล่าวว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 หลังจากปี 2560 ที่มีคดีฟ้องร้องเรื่องการรับเหมาก่อสร้างกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และต่อสู้กันในชั้นศาลมาโดยตลอด  ทุกครั้งที่ตนเองชนะคดีตั้งแต่ศาลชั้นต้น อุธรณ์ จะถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยาวขนาด .22 ยิงบ้านทุกครั้ง

ครั้งแรกวันที่ 26 ม.ค. 2561 หลังศาลขั้นต้นตัดสินคดีฉ้อโกงที่ตนเป็นโจทย์ฟ้องชนะ  คนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด .22  ยิงรถยนต์ของตน 2 นัด  แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วารินชำราบไว้เรื่องกลับเงียบ

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.61 หลังจากที่ตนชนะคดีชั้นอุทธรณ์ คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืน ขนาด .22 ยิง รถยนต์กระบะแบบแค็บและสองตอนทั้งรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กล 530 อุบลราชธานี นิสสัน นาวารา สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฒฐ 9882 กรุงเทพมหานคร และยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว หมายเลขทะเบียน 4 กฒ 1170 กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 คัน

กระสุนส่วนใหญ่ยิงถูกบริเวณตัวถังรถบางนัดไปถูกกระจกด้านข้างและด้านหลังรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลตแตกเป็นรู ตรวจบริเวณพื้นหญ้าป่าละเมาะฝั่งที่เป็นทุ่งนาตรงข้ามกับตัวบ้าน พบปลอกกระสุนปืนขนาด .22 ตกอยู่ถึง 25 นัด  เรื่องเงียบเช่นกัน   ล่าสุด ศาลฎีกา จะได้พิพากษายกคำร้องของจำเลยเมื่อวาน (24 ก.พ.) วันนี้ก็พบว่าบ้านพักถูกยิงอีกเช่นเคย

นายอมรชัย ยังกล่าวอีกว่า  ที่ผ่านมาตนเองต้องเป็นฝ่ายที่ต้องไปหาพยานหลักบานต่างๆด้วยตนเอง ทั้งการสืบหาภาพจากกล้องวงจรปิด การหาข้อมูลมือถือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด จนเวลาผ่านเลยไปไม่สามารถหาภาพจากกล้องวงจรปิดได้  แม้ตนจะทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ในขณะนั้นก็ไม่เป็นผล ครั้งนี้หากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะร้องไปที่กองปราบหากไม่คืบหน้าตนก็จะร้องหมอปลาให้รู้แล้วรู้รอดไป เพราะหมดศรัทธากับตำรวจไทยแล้ว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน