ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านห้วยกรด ให้ช่วยเหลือ นายนิด ต่ายนิล อายุ 65 ปี และ นางบังเอิญ ต่ายนิล อายุ 55 ปี สองสามีภรรยา อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 28/2 ที่หมู่ 2 ต.ห้วยกรดพัฒนา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เคยเปิดอู่ซ่อมรถชื่อ “ไพศาลเซอร์วิช” สามีเป็นกำลังหลัก ส่วนภรรยาเป็นผู้ช่วย หวังเจริญก้าวหน้ามีรายได้เพิ่มขึ้น เมื่อปี 2556 จึงไปกู้เงินสหกรณ์ 1 แสนบาท มาซื้อเครื่องมืออุปกรณ์หลายชิ้นมาใช้ ไม่นานภรรยาป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ตรวจพบว่าเป็นระยะสุดท้าย นอนห้องไอซียู 19 วัน
ต่อมาเมื่อปี 2559 สามีเกิดล้มป่วยเส้นเลือดในสมองแตก กลายเป็นคนพิการไม่สามารถทำงานได้ดังเดิม อีกทั้งขาดเงินในการรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเงินค่ารถไปฟอกไตที่โรงพยาบาลในตัวเมือง หนี้สินก็หมดทางหาเงินมาชดใช้ อีกไม่นานคงถูกยึดที่ดินที่ใช้ค้ำเงินกู้ จนอาจไม่มีที่ซุกหัวนอน จึงวอนให้สื่อช่วยเหลือ ท่านที่มีจิตเมตตา ช่วยสองสามีภรรยา โอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารออมสิน เลขที่ 020159187986 นางบังเอิญ ต่ายนิล
นางบังเอิญ เล่าว่า ได้ไปกู้เงินสหกรณ์เขื่อนเจ้าพระยา จำกัด จำนวน 1 แสนบาท ซื้อเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับใช้ซ่อมรถ ได้แก่ตู้เชื่อม ปั๊มลม ถังแกส ถังอากาศ สว่านไฟฟ้า เขาสามารถซ่อมได้ทั้งรถจักรยานยนต์ รถไถนา เครื่องสูบน้ำ โดยใช้เครื่องมือดังกล่าวทำมาหากินและส่งสหกรณ์ ทำได้ 3 ปี ตนเองเกิดล้มป่วยเป็นโรคไตวายนอนไอซียู 19 วัน พอฟื้นตัวได้หมอบอกเป็นโรคไตวายระยะสุดท้าย ต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3 วัน ตลอดยันตาย ต่อมาสามีก็ป่วยอีกคน เส้นเลือดในสมองแตกพิการไม่สามารถทำงานได้อีก ตอนนี้ไม่มีค่ารถเดินทางไปฟอกไต ที่โรงพยาบาลรวมแพทย์ชัยนาทในตัวเมือง ถ้าเป็นช่วงโรงเรียนเปิดได้อาศัยรถโรงเรียนไปตอน 6 โมงเช้า กลับพร้อมรถ 6 โมงเย็นไม่ต้องเสียเงินแต่ต้องรอนานกลับพร้อมนักเรียน รายได้มีเงินพิการของสามีเดือนละ 800 บาท เบี้ยสูงอายุ 600 บาท เป็นค่ากินค่าน้ำค่าไฟก็ไม่เพียงพอต้องขอยืมเพื่อนบ้าน ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทางจังหวัดได้นำข้าวสารอาหารแห้งมาให้บ้าง
ตอนไปกู้เงินมาได้นำที่ดินไปค้ำไว้ กลัวจะถูกยึด เพราะเห็นว่าเขามาถ่ายรูป แต่ก็ได้บอกเขาไปว่าคนทำงานหาเงินพิการไปแล้ว ตนเองก็ป่วยทำอะไรไม่ได้ที่จะมีเงินไปส่งเขา เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมามีใบทวงหนี้จากสหกรณ์ให้ไปเสียดอก 5,000 กว่าบาท ก็ไม่มีเงินจึงยังไม่ได้ไปจ่ายเขา
