หนองคาย – ผู้ประกอบการและนักธุรกิจในจังหวัดหนองคาย ยื่นหนังสือถึงรัฐบาล ผ่าน ส.ส.หนองคาย ขอให้ช่วยเจรจาผ่อนปรนการดำเนินการทำธุรกิจกับประเทศลาว หลังได้รับผลกระทบจากการปิดด่านพรมแดนและมาตรการกักตัวโควิด 19 ของทั้งสองประเทศ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 เม.ย. 63 ที่ห้องประชุมหอการค้าจังหวัดหนองคาย ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นางมนนิภา โกวิทศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดหนองคาย ได้นำผู้ประกอบการ และนักธุรกิจในจังหวัดหนองคาย หารือร่วมกับ นายเอกธนัช อินทร์รอด, นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ และนางสาวชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย ทั้ง 3 เขต พรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งยื่นหนังสือถึงรัฐบาลผ่านทาง ส.ส.ทั้งสามคนด้วย
จากวิกฤตโควิด 19 มีการปิดด่านชายแดนทั่วประเทศ และดำเนินการมาตรการที่เข้มงวด ส่งผลกระทบต่อนักธุรกิจชายแดนที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งบางคนไม่สามารถทำธุรกิจกับนักธุรกิจชาวลาวได้เหมือนเช่นเคย ประกอบกับมาตรการที่รัฐบาลทั้งสองประเทศกำหนด โดยเฉพาะมาตรการกักตัวทั้งไปและกลับคราวละ 14 วัน ทำให้ไม่สะดวกต่อการทำธุรกิจ นักธุรกิจหลายคนยังค้าขายได้ แต่ไม่สามารถนำเงินกลับเข้าประเทศได้ ประกอบกับค่าธรรมเนียมธนาคารต่างประเทศมีอัตราสูง และทางธนาคารในประเทศลาวขาดสภาพคล่อง ยิ่งส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจในระบบด้วย นอกจากนี้ยังประสบปัญหาด้านการกระจายผลผลิตทางการเกษตร เช่น ปลานิลกระชัง ที่ไม่สามารถขายปลานิลได้ตามปกติ แม้จะนำไปแปรรูปส่วนหนึ่งแต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาปลานิลได้ จึงอยากให้มีการพิจารณานำปลานิลกระชังแลกเปลี่ยนกับสินค้าเกษตรจากต่างจังหวัดให้มีการกระจายสินค้าร่วมกัน
นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบปัญหาแล้ว ก็จะนำเรื่องไปปรึกษากับทางจังหวัดหนองคาย เนื่องจากบางปัญหาเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายโดยตรง แต่บางเรื่องก็ต้องถึงระดับส่วนกลาง ก็จะมีการพิจารณาระดับปัญหาเพื่อหาทางแก้ไขช่วยเหลือผู้ประกอบการนักธุรกิจให้อยู่รอดได้ เพราะไม่เช่นนั้นหากสถานการณ์โรคโควิด 19 ไม่ดีขึ้น อาจทำให้สถานประกอบการ หรือธุรกิจในจังหวัดชายแดนหลายแห่งปิดตัวลง จะส่งผลกระทบกับการจ้างงาน รวมถึงการเจรจากับนครหลวงเวียงจันทน์ หามาตรการผ่อนปรนในการเข้าออกประเทศและมาตรการกักตัว ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ป่วยของทั้งจังหวัดหนองคายก็คงที่ ที่ 3 ราย ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ต่อเนื่องกัน ส่วนที่ลาวก็เช่นเดียวกัน อาจเป็นไปได้ว่าจะมีการผ่อนปรนมาตรการบางประการให้กันได้ ซึ่งจะต้องหารือร่วมกันของทั้งจังหวัดหนองคายและนครหลวงเวียงจันทน์อีกครั้ง.
……………………….
