เปิด 10 นโยบายด้านการศึกษา พรรคประชาธิปัตย์

ประชาธิปัตย์ แถลงนโยบายพรรคด้านการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำและปัญหาคุณภาพ โดยแบ่งเป็น 10 นโยบายหลัก เตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพรรค ได้แถลงนโยบายด้านการศึกษาเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง ทางพรรคประชาธิปัตย์มองว่าปัญหาหลักของการศึกษาไทยอยู่ที่ความเหลื่อมล้ำ ปัญหาคุณภาพเด็ก ปัญหาคุณภาพการเรียนการสอน ปัญหาความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน

ซึ่งทางพรรคได้แบ่งนโยบายออกเป็น 10 นโยบายหลัก เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย

1. เกิดปุ๊ปรับสิทธิ์เงินแสน เบี้ยเด็กเข้มแข็งตั้งแต่แรกเกิดถึง 8 ปี 1,000 บาทต่อเดือนแบบถ้วนหน้า เพื่อสุขภาพร่างกายของเด็กที่แข็งแรงตั้งแต่แรกเกิด
2. ศูนย์เด็กเล็กคุณภาพดีทั่วไทย จัดการศึกษาปฐมวัยให้มีคุณภาพ พัฒนาหลักสูตรที่เน้นกระบวนการคิด เพิ่มครูปฐมวัยทั่วประเทศเพื่อให้เด็กมีการพัฒนาเติบโตอย่างมีคุณภาพในทุกด้าน
3. อาหารเช้า-กลางวันฟรีมีคุณภาพ สนับสนุนค่าอาหารเช้าและค่าอาหารกลางวันปีให้กับนักเรียนชั้นระดับอนุบาลถึงมัธยมปีที่ 3 ผ่านสถานศึกษา
4. เด็กทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้ ด้วย english for all จัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยเจ้าของภาษาเน้นทักษะการสื่อสารตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลโดยเฉพาะการพูดการฟัง พร้อมส่งเสริมให้มีการสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการใช้ภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองของสังคมไทย
5. ปรับหลักสูตรเพื่อโลกอนาคต ตั้งแต่ระดับชั้นประถมที่เน้นการคิดวิเคราะห์มากกว่าท่องจำ ระดับมัธยมต้นเน้นการค้นพบตัวเอง ระดับชั้นมัธยมปลาย เน้นการเลือกเรียนวิชาที่ถนัดและตรงตามเป้าหมาย ส่วนระดับมหาวิทยาลัย เน้นลดภาระและขั้นตอนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
6. เรียนฟรีถึง ปวส.จบแล้วมีงานทำ สนับสนุนเรียนฟรี ปวช.และปวส. อาชีวศึกษาภาครัฐและเอกชน ทั้งสระช่างและพาณิชย์ พัฒนาระดับฝีมือทักษะการทำงานจริงเพื่อผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเพิ่มการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนตั้งแต่ต้นจนจบ
7. การศึกษาตลอดชีวิตคูปองเพิ่มทักษะสำหรับผู้ใหญ่ แจกคูปองเพิ่มทักษะและส่งเสริมการเรียนรู้เพิ่มเติมในทักษะด้านต่างๆ สำหรับประชาชนทั่วไปให้ทันสมัยและทันต่อความเปลี่ยนแปลงเพิ่มโอกาสสร้างงานสร้างอาชีพ
8. คืนครูให้นักเรียน ลดภาระงานของครูที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน เช่น งานธุรการและปรับวิธีประเมินครูโดยใช้คุณภาพของนักเรียนเป็นตัวชี้วัดผลงานครู
9. จัดตั้งกองทุน Smart Education เพื่อสนับสนุน Social Enterprise และ startup ทางด้านการศึกษารวมถึงการใช้เทคโนโลยี education technology เพื่อใช้การพัฒนาการเรียนการสอนและการสอบให้มีประสิทธิภาพ
10. กระจายอำนาจกระทรวงสู่โรงเรียน

โดยมีการเน้นย้ำว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคมเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนที่สุดที่ต้องได้รับการแก้ไข ในระยะสั้นต้องมีมาตรการการแก้ไขปัญหาปากท้องและราคาพืชผลการเกษตร เชื่อมั่นว่าการขจัดความเหลื่อมล้ำในอนาคตอย่างยั่งยืนต้องมีการยกระดับการศึกษาให้ลูกหลานของคนไทยได้มีชีวิตที่ดี และพัฒนาคุณภาพให้เท่าเทียมกันก่อน