X

ผู้ว่ากาฬสินธุ์สั่งไล่ออก 6 พนักงานราชการเกี่ยวพันค้ายาบ้า มีเลขารองผู้ว่าเอี่ยวด้วย

พ่อเมืองน้ำดำซ้อนแผน “ยุทธการฟ้าแดดสงยาง” กวาดล้างยาเสพติด พร้อมกันทั้งจังหวัด แฉสงสัยมีพนักงานราชการเกี่ยวพันแก๊งค้ายาบ้า ปล่อยข่าวลวงก่อนซ้อนแผนจับพนักงานราชการสำนักงานสรรพสามิต 1 รายค้ายาบ้า และขยายผลได้อีก 3 เป็นพนักงานราชการบนศาลากลาง ได้ยาบ้าหลายร้อยเม็ด ขณะที่ผลการระดมปิดล้อมกวาดล้างได้ยาบ้า อาวุธปืนและผู้ต้องหาถึง 63 คน

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 เวลา 05.00 น. ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ,นายเธียรชัย อัจฉริยพันธ์ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์,พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พลตรีจุมพล จุมพลภักดี ผบช.กองพลทหารม้าที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4 นำกำลังฝ่ายปกครอง อาสาสมัครรักษาดินแดน ตำรวจ ทหาร เกือบ 200 นาย ปล่อยแถมระดมกวาดล้าง “ตามยุทธการฟ้าแดดสงยาง” แต่การออกกวาดล้างครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ ร่วมระดมกวาดล้างใหญ่พร้อมกันทั้งจังหวัดซึ่ง “ยุทธการฟ้าแดดสงยาง” ได้ใช้กองกำลังผสมกว่า 2,000 นาย

การระดมกวาดล้าง ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลุยเข้าตรวจค้นด้วยตัวเอง โดยเข้าไปพื้นที่เป้าหมายที่บ้านคอนเรียบ หมู่ที่ 1 ตำบหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ สามารถจับกุม นายชวลิต ซื่อสัตย์ อายุ 33 ปี ได้ของกลางยาบ้า 205 เม็ด และทำการตรวจค้นภายในหมู่บ้านเฉพาะบริเวณนี้ได้ยาบ้า 284 เม็ด เงินสด 3,050 บาท กัญญา 1 กรัม ทั้งนี้มีรายงานว่า การตรวจค้นซึ่งได้แบ่งกำลังทั่วทั้งจังหวัด โดยตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังได้กำหนดเป้าหมายพิเศษ ไปถึงนักค้ายาบ้ารายใหญ่ และได้ทำการควบคุมเพื่อเตรียมขยายผลนั้น ปรากฏว่า มี นายแน๊ทได้โทรศัพท์ไปหาผู้ต้องหารายพิเศษที่ถูกควบคุมตัวไว้ โดยได้ส่งไลน์ทั้งภาพและคำบรรยายว่า ทางจังหวัดกำลังมีการระดมกวาดล้างให้ระวังถูกจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ซ้อนแผนเข้าจับกุม ปรากฏว่า นายแน๊ทก็คือ นายธีรภัทร บรรจงเลิศ เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล ประจำสำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์ และภายหลังจากจับกุม นายแน๊ทได้ให้การซัดทอดตำรวจจึงได้ขยายผลผู้เกี่ยวพันยาบ้า อีก 2 ราย คือ นายอานุสรณ์ สารผล พนักงานวิเคราะห์นโยบายและแผน (เลขารองผู้ว่าจังหวัดกาฬสินธุ์)และ นายพลรัตน์ เหลาแตว เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล ซึ่งทั้งสองคนทำงานอยู่ที่ สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์

นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ยังได้ทำการซัดทอดไป ที่นายวัชพล การฟุ้ง พนักงานราชการสำนักงานสรรพสามิตจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จู่โจมตรวจค้น บ้านของ นายวัชพล การฟุ้ง ผู้ต้องหาพบยาบ้า จำนวน 183 เม็ด ทั้งนี้นายวัชพลฯ ผู้ต้องหา ยังได้ซัดทอดไปถึงผู้ร่วมกระบวนการ คือ นายธีระชาติ กรรณิกา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจค้นพบยาบ้าอีก 7 เม็ด และนายวีระพล ถิตย์ผาด ตำรวจก็ได้ยาบ้าอีก 23 เม็ด ซึ่งทั้งสองก็เป็นพนักงานราชการสำนักงานสรรพสามิตจังหวัดกาฬสินธุ์ เช่นกัน

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พลตรีจุมพล จุมพลภักดี ผบช.กองพลทหารม้าที่ 3 และนายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า “ยุทธการฟ้าแดดสงยาง” คือยุทธการปิดล้อมตรวจค้นเน้นในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้การปูพรมตรวจค้นเกิดขึ้นทั้ง 18 อำเภอ รวมพื้นที่ตรวจค้น 77 เป้าหมาย สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 63 คน แบ่งเป็นผู้เสพฉี่สีม่วง จำนวน 44 ราย ครอบครอง จำนวน 10 ราย เป็นผู้ค้ายาบ้า จำนวน 12 ราย และสามารถจับผู้ที่มีอาวุธปืนในครอบครองไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 9 ราย รวมเป็นของกลาง ยาบ้าจำนวน 1,337 เม็ด กัญชา 116.96 กรัม อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์จำนวน 9 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เงินสด 46,160 บาท

“ในจำนวนนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ผู้ค้า และ ผู้เสพ มีพนักงานราชการ และลูกจ้าง ทั้งในสำนักงานสรรพสามิตจังหวัด และ สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์ ไปพัวพัน ซึ่งในกลุ่มพนักงานราชการและลูกจ้าง ขณะนี้ ได้มีหนังสือเพื่อไล่ออกจากราชการและส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างเด็ดขาด”

ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเน้นย้ำขณะนี้ทุกคนจะต้องถูกตรวจร่างกาย หากฉี่ม่วง เป็นข้าราชการหรือพนักงานราชการและลูกจ้างก็ต้องรับผลกรรมนั้น จึงขอให้หัวหน้าส่วนราชการได้ทำการกวาดบ้านตนเองให้สะอาดทั้งนี้การปิดล้อมตรวจค้นจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง เป็นกรณีพิเศษในทุกระยะ เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตระบบเศรษฐกิจ และความสงบสุขของประชาชน อีกทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น จริงจังของภาครัฐต่อการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็น วาระแห่งชาติ ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน