X

ศูนย์ดำรงธรรมกาฬสินธุ์เปิดโต๊ะเจรจาเคลียร์ปัญหา รร.ติดหนี้รับเหมา

ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์พร้อมด้วยทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้บริหารโรงเรียนกมลาไสย ผู้รับเหมา และเจ้าของร้านค้าเปิดโต๊ะเจรจาเคลียร์ปัญหาโรงเรียนติดหนี้ผู้รับเหมา จนต้องไปติดป้ายทวงหนี้บนสะพานลอยกลางเมืองกาฬสินธุ์

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีนางวิจิตรา บุญรัตน์ หรือยายแก้ว อายุ 51 ปี ผู้รับเหมาหญิง ชาว ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์นำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ซึ่งมีข้อความคล้ายกับเป็นการทวงหนี้ระบุว่า “ผอ.สั่งทำงาน งานเสร็จ ไม่มีเงินจ่าย ใครจะรับผิดชอบ” และ “ผอ.เห็นพวกเราเป็นคนมั้ย สงสารพวกเราบ้างหรือเปล่า”มาติดไว้บนสะพานลอย ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองกาฬสินธุ์ เนื่องจากต้องการขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ 24 หลังก่อสร้างปรับปรุงโรงเรียนจนแล้วเสร็จหลายโครงการ เวลาผ่านมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ทางโรงเรียนกลับไม่ยอมจ่ายเงินจำนวน 5,200,000 บาท จนทำให้ครอบครัวเป็นหนี้สินที่นาถูกยึดไม่มีเงินจ่ายค่าแรงคนงาน

ล่าสุดที่ห้องประชุมบุษบงกช โรงเรียนกมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายไชยา เครือหงส์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.กษิดิส ศรีเทพ หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ นายเอกรักษ์ สารปรัง ผู้อำนวยการโรงเรียนกมลไสย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ และทหารได้เชิญผู้รับเหมา และประกอบการห้างร้านต่างๆจำนวน 19 แห่งเข้าร่วมประชุมไกล่เกลี่ยภาระหนี้สินของโรงเรียนกมลไสย เพื่อหาทางออกร่วมกันทุกฝ่าย

โดยในที่ประชุมนายเอกรักษ์ สารปรัง ผู้อำนวยการโรงเรียนกมลไสย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงเรียนยืนยันว่าทางโรงเรียนสามารถจ่ายหนี้ให้กับผู้รับเหมาและผู้ประกอบการร้านค้าในปี 2562 ได้เพียง 1,500,000 บาท จากยอดหนี้ที่ติดค้างอยู่ทั้งหมดปัจจุบัน 7,937,548 บาท เนื่องจากทางโรงเรียนมีงบประมาณปีละ 8,000,000 บาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวทางโรงเรียนจะต้องนำไปพัฒนาการเรียนการสอนให้สูงขึ้นอย่างเต็มศักยภาพเป็นหลัก รวมทั้งการจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ เพื่อไม่ให้กระทบการเรียนการสอนและการพัฒนาเด็กนักเรียนที่มีอยู่ปัจจุบันกว่า 2,200 คน ซึ่งทางผู้รับเหมาและผู้ประกอบการร้านค้าก็เข้าใจ และได้สรุปผลการประชุมร่วมกันว่าในการใช้หนี้ 1,500,000 บาท ทางโรงเรียนจะจ่ายให้กับผู้รับเหมาทุกคน โดยแบ่งเฉลี่ยคิดเป็นเปอร์เซนต์ตามยอดหนี้ของแต่ละราย

นายเอกรักษ์ สารปรัง ผู้อำนวยการโรงเรียนกมลไสย กล่าวว่า ปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างที่ก่อหนี้ผูกพันแล้วแต่ยังค้างชำระเกิดขึ้นในช่วงปี 2558-2559 ตั้งแต่ผู้อำนวยการคนก่อน โดยมียอดหนี้ทั้งหมด 15,173,603 บาท ปัจจุบันหลังตนเข้ามารับตำแหน่งในช่วงเดือนพ.ย.59 ก็ได้ใช้หนี้แล้วกระทั่งขณะนี้เหลืออยู่ 19 ราย จำนวนเงิน 7,937,548 บาท ซึ่งในปี 2562 นี้ทางโรงเรียนได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับคณะกรรมการสถานศึกษาเพื่อที่จะใช้หนี้ให้กับผู้รับเหมาจากปีละ 1 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท โดยแบ่งเฉลี่ยคิดเป็นเปอร์เซนต์ตามยอดหนี้ของแต่ละราย ซึ่งโดยได้เชิญผู้รับเหมาทุกรายเข้ามาเจรจาหาทางออกร่วมกัน ซึ่งทุกคนก็มีความเข้าใจในงบประมาณของทางโรงเรียนที่มีอยู่จำกัด

นายเอกรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีนางวิจิตราหรือยายแก้ว ผู้รับเหมาที่ทางโรงเรียนเป็นหนี้มากที่สุดในบรรดาผู้รับเหมาจำนวน 19 รายนั้น โดยมีหนี้ในช่วงปี 2558 – 2559 ก่อนที่ตนมารับตำแหน่งจำนวน 38 รายการ เป็นเงินทั้งหมด 5,616,625 บาท ปัจจุบันทางโรงเรียนได้ใช้หนี้ให้กับยายแก้วไปแล้วประมาณ 3 แสนกว่าบาท รวมทั้งได้ดำเนินการเยียวยาโดยให้ยายแก้วเข้ามาทำงานรับเหมาซ่อมแซมและก่อสร้างในปี 2561 ที่ผ่านมา งบประมาณ 576,705 บาท ทำให้ขณะนี้ทางโรงเรียนเป็นหนี้กับยายแก้วเหลือ 4.8 ล้านบาท ประมาณครึ่งหนึ่งของยอดหนี้ทั้งหมด ซึ่งในการใช้หนี้ในปี 2562 นี้ในส่วนของยายแก้วจะได้รับการใช้หนี้ตามสัดส่วนเปอร์เซนต์จะอยู่ที่ ประมาณ 8 แสนบาท

ด้านนางวิจิตรา บุญรัตน์ หรือยายแก้ว กล่าวว่า สำหรับผลการประชุมร่วมกันจะมีมติออกมาว่าโรงเรียนจะจ่ายหนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมปีละ 1 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท และจ่ายตามสัดส่วนเปอร์เซนต์ยอดหนี้ของผู้รับเหมาทั้ง 19 รายนั้น ซึ่งตนจะได้รับการใช้หนี้ประมาณ 8 แสนบาทต่อปี จากยอดหนี้ที่เหลือปัจจุบันประมาณ 4.8 ล้านบาท และจากการที่รอคอยมานานกว่า 3 ปี ทั้งนี้แม้จะไม่พอที่จะนำไปจ่ายค่าหนี้และดอกเบี้ยที่ไปกู้ยืมมาและนำที่บ้านที่นาไปจำนอง แต่เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม เห็นแก่ลูกหลานเด็กนักเรียนที่ไม่รู้เรื่องด้วยจึงต้องจำใจยอม และก็ต้องดิ้นรนทำงาน เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ต่อไป แต่อยากจะฝากไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ หากมีความเห็นใจก็เข้ามาช่วยเหลือทางโรงเรียนจ่ายหนี้ด้วย อย่างไรก็ตามส่วนขั้นตอนการดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครองกับทางโรงเรียนที่ทางศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ และสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ช่วยเหลือนั้นก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน