ศึกเลือกตั้งเมืองน้ำดำช่วงโค้งสุดท้ายยังคึกคักอย่างต่อเนื่อง “เกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง”ควง “ฟิล์ม รัฐภูมิ ”เดินสายภาคอีสาน เปิดเวทีปราศรัยชูนโยบายจับต้องได้ ไม่ขายฝัน ลั่นพรรคพลังท้องถิ่นไท ปักธง ส.ส.กาฬสินธุ์อย่างน้อย 2 เขต ขณะที่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” อ้อนชาวอีสานเลือกคนท้องถิ่นเข้าไปแก้ไขปัญหา พร้อมชูนโยบายปลดหนี้และเข้าถึงแหล่งเงินทุน
วันที่ 11 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง ของผู้สมัคร ส.ส.ระบบแบ่งเขตในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ในช่วงโค้งสุดท้ายยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 2 พื้นที่ 3 อำเภอคือ ยางตลาด กมลาไสย และฆ้องชัย ซึ่งมีผู้สมัคร 34 คน ต่างงัดกลยุทธ์หาเสียง เพื่อขอคะแนนจากประชาชนหวังเข้าไปเป็นผู้แทนรับใช้พี่น้องประชาชน
โดยล่าสุดที่ลานหน้าที่ว่าการอำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ดร.เกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง รองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 6 นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม รัฐภูมิ ดารานักร้องชื่อดัง รองโฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไท พร้อมคณะเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย ดร.วิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พรรคพลังท้องถิ่นไท เบอร์ 4 โดยมีประชน 1,000 คน ให้ความสนใจรับฟังนโยบาย จากนั้นดร.เกรียงไกร และ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พร้อมทีมงานได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่บริเวณสวนสาธารณะหนองหมาจอก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ ของพรรคพลังท้องถิ่นไททั้ง 5 เขต ประกอบด้วยเขต 1 นายศรัณย์ ฆารพร เขต 2 ดร.วิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง เขต 3 นพ.สุรพงษ์ ลักษณาวุธ เขต 4 นายนิติพงษ์ ภูติโส และเขต 5 นายศุภชัย วิมานไพจิตร เข้าร่วม และประชาชนให้ความสนใจรับฟังนโยบายกว่า 3,000 คน
ทั้งนี้ ทันทีที่ ดร.เกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง เดินทางมาพร้อมกับ “ฟิล์ม รัฐภูมิ”และ ดร.วิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ถึงเวทีปราศรัย มีบรรดาแฟนคลับพากันขอถ่ายภาพและให้กำลังใจจำนวนมาก ก่อนที่จะขึ้นเวที โดยการปราศรัยได้เน้นไปที่นโยบายการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนที่ไม่ใช่นโยบายขายฝัน และจับต้องได้ โดยคนท้องถิ่นเท่านั้นที่เข้าใจปัญหาและสามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.วิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า นโยบายของพรรคฯทุกนโยบายสามารถทำได้จริง จับต้องได้ ไม่ขายฝัน และหากเข้าไปเป็นรัฐบาลก็สามารถเดินหน้าลงมือทำได้ทันที เพราะพรรคพลังท้องถิ่นไทนั้นมีอุดมการณ์ที่ไม่ได้อยู่ข้างใคร แต่อยู่เคียงข้างประชาชน ผู้สมัครทุกคนล้วนแล้วแต่มีคุณภาพทำงานช่วยเหลือชาวบ้านมาโดยตลอด จึงเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน และมั่นใจว่า หากตนได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 จะเข้าไปแก้ไขปัญหาปากท้อง และยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนได้ทันที เพราะฉะนั้นจึงขอโอกาสพี่น้องประชาชนเข้าไปรับใช้ ซึ่งหากเลือก “วิทยา” เป็น ส.ส.ก็จะได้ “เกรียงไกร”เป็น ส.ส.ด้วย
ด้านดร.เกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง รองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 6 พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า การปราศรัยของพรรคฯจะเน้นนโยบายที่เป็นจริง จับต้องได้ ไม่ขายฝัน โดยเฉพาะการจัดตั้งกองทุนตำบลละ 60 ล้านบาท เพื่อนำมาบริหารจัดการเรื่องหนี้สินส่วนตัว หนี้สินครัวเรือน ทุนประกอบอาชีพ ทุนการศึกษา ปลดหนี้ กยศ. เรียนฟรีถึงปริญญาตรี ตั้งธนาคารน้ำใต้ดิน แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่อให้มีแหล่งน้ำประกอบอาชีพได้ตลอดปี สร้างโรงงานผลิตปุ๋ยครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ลดทุนการผลิตภาคการเกษตร รถไฟความเร็วสูงผ่านกาฬสินธุ์ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเท่าเทียมกันเดือนละ 3,000 บาท ปราบยาบ้าให้หมดภายใน 1 ปี ตั้งชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน มีสวัสดิการและเงินเดือนให้ และตั้งศูนย์ส่งเสริมธุรกิจ Startup และ SME ให้ทุกกลุ่มอาชีพ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ดร.เกรียงไกร กล่าวอีกว่า จากที่ตนเดินสายในภาคอีสานกับนายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคฯ ขณะนี้กระแสการตอบรับดีมาก ซึ่งเชื่อมั่นว่าพรรคพลังท้องถิ่นไทจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ขณะนี้ได้ประกาศปักธงไว้แล้ว 2 เขต เลือกตั้ง คือ เขต 2 ผู้สมัคร ดร.วิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง และ เขต 5 มีนายศุภชัย วิมานไพจิตร ส่วนกระแสการตอบรับที่กำลังมาแรงถือได้ว่าเป็นม้ามืดคือเขต 1 ที่มีนายศรัณย์ ฆารพร เพราะมีกระแสดีวันดีคืน ส่วนผู้สมัครเขตที่เหลือคือ เขต 3 และเขต 4 กระแสการตอบรับก็ดีขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจว่าพรรคพลังท้องถิ่นไทจะได้ ส.ส.กาฬสินธุ์อย่างน้อย 2 เขตเลือกตั้ง
ขณะที่นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม รัฐภูมิ ดารานักร้องชื่อดัง รองโฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า สำหรับนโยบายของพรรคพลังท้องถิ่นไทนั้นมีเยอะมาก ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่การแก้ปัญหากระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ซึ่งการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดจะต้องเป็นคนท้องถิ่นท้องที่ที่อยู่คู่กับประชาชน อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในภาคอีสานนั้นพบว่ามีปัญหาภาระหนี้สินจำนวนมากและขาดโอกาสในการส่งเสริมการทำธุรกิจ หรือจำหน่ายสินค้า และนำสินค้าที่มีอยู่แล้วมาแปรรูปจำหน่าย ซึ่งพรรคพลังท้องถิ่นไทนั้นมีนโยบายที่จะช่วยเหลือปลดหนี้ เช่น ไมโครไฟแนนท์ ซึ่งจะเป็นเงินทุนให้กับประชาชน และธนาคารไอเดียที่จะมอบทุนต่างๆให้กับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ยกตัวอย่างเช่น เด็กก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ตั้งวัยเรียน ไม่จำเป็นต้องขอเงินพ่อแม่กว่าจะจบการศึกษา ซึ่งจะทำให้มีรายได้ และปลดหนี้ให้กับครอบครัว ไม่เป็นหนี้สินอีก นอกจากนี้ปัญหาสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังไม่เข้าถึงทางพรรคก็จะเข้าไปแก้ปัญหาให้ทุกคนได้เข้าถึงสวัสดิการของรัฐอีกด้วย ดังนั้นจึงอยากขอโอกาสพี่น้องคนไทยเลือกพรรคที่มุ่งเน้นความเป็นเสรีประชาธิปไตยมีความเป็นกลางไม่อยู่ข้างใครอย่างพรรคพลังท้องถิ่นไท
