X

“บิ๊กตู่” รับข้อเสนอ 7 ข้อ จากชาวเกาะช้าง พร้อมเดินหน้าอ่างเก็บน้ำ,ถนนรอบเกาะ

“บิ๊กตู่” นายกรัฐมนตรีประเทศไทย เดินทางตรวจราชการเกาะช้าง รับฟังปัญหาผู้ประกอบการ,ชาวเกาะช้าง พร้อมรับข้อ 7 ข้อเสนอจากภาคเอกชน
เกาะช้าง
พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงศรภ.เกาะช้าง เพื่อพบปะรับฟังปัญหาจากชาว เกาะช้าง

เกาะช้าง/เวลา 12.00 น.วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล อ.เกาะช้าง จ.ตราด พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากสนามบิน 207 ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราดมายังลานจอดเฮลิคอปเตอร์ท่ีบ้านคลองพร้าว อ.เกาะช้าง จ.ตราด หลังจากนั้นเดินทางด้วยรถยนต์ ที่ห่างกันประมาณ 1 กม.

โดยที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล มีหัวหน้าส่วนราชการส่วนกลาง ทั้งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รองอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ขณะที่ในระดับจังหวัด มีนายประธาน สุรกิจบวร รองผูว่าราชการ จ.ตราดนายอำเภอเกาะช้าง นายอำเภอเกาะกูด นายอำเภอแหลมงอบ เป็นต้น เดินทางมาต้อนรับ พร้อมภาคเอกชนทั้งสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจ.ตราด ,สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ตราด และสมาคมโรงแรม รีสอร์ท จ.ตราด และมีชาวบ้านกว่า 300 คน

หลังจากนายกรัฐมนตรีเดินทางมาที่เต้นท์ต้อนรับแล้ว นายสักศิท มุ่งการ เลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ตราด ในฐานะตัวแทนของผู้ประกอบการภาคเอกชน ได้ขึ้นกล่าวและเสนอปัญหาเกาะช้างให้กับนายกรัฐมนตรี

นายสัคศิท กล่าวว่า ปัจจุบันอ.เกาะช้าง เป็นแหล่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาปีละเกือบ 2 ล้านคน และสร้างรายได้ให้ จ.ตราด ปีละกว่า 2 หมื่นล้านบาท แต่กลับไม่ได้รับการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ อีกทั้งในแต่ละปีมีอัตราการเติบโตสูงถึง ร้อยละ 10 ทางองค์กรภาคเอกชนจึงขอเสนอให้นายกรัฐมนตรีสนับสนุนและพัฒนาให้อ.เกาะช้างมีความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวโดยจัดสรรงบประมาณดำเนินโครงการทั้ง 7 ประการ รวมมีงบประมาณจำนวน 3,331,711,680 ล้านบาท ดังนี้

1.โครงการถนนเชื่อมรอบเกาะช้าง งบประมาณ 2,500,000,000 บาท

2.โครงการอ่างเก็บน้ำคลองพร้าว งบประมาณ 418,079,900 บาท

3.โครงการปรับปรุงโรงคัดแยกขยะมูลฝอย ตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด งบประมาณ 61,052,000 บาท

4.โครงการศึกษาเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดระบบรวบรวมและระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด งบประมาณ 20,000,000 บาท

5.โครงการศึกษาพร้อมออกแบบพัฒนาท่าเรือสาธารณะให้ได้มาตรฐานสากลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

6.โครงการพัฒนระบบสาธารณสุขเพื่อรองรับการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนงบประมาณ 309,234,780 บาท

7.โครงการจัดตั้งศูนย์ฝึกกำลังคนเพื่อเตรียมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการงบประมาณ 6,345,000 บาท

ทางด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางมาเยี่ยมชาวเกาะช้างวันนี้อยากจะบอกชาวเกาะช้างว่า ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก และเปลี่ยนจากเทคโนโลยี่ขั้นสูงทั้งโทรศัทพ์และโทรทัศน์ ชาวเกาะช้างต้องปรับตัวตามให้ทัน วันนี้ประชาชนมีรายได้ที่เหลี่ยมล้ำกันมากรัฐบาลต้องการแก้ไข แต่จะทำให้ทุกคนเป็นคนรวยทั้งหมดไม่ได้ แต่ต้องอยู่กันอย่างพอเพียงและต้องให้เกิดความเข้มแข็ง ซึ่งชาวเกาะช้างต้องช่วยกันด้วย

“แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกกับชาวเกาะช้าง ก็คือ เรื่องของประชาธิปไตยที่ถูกต้องที่ต้องมาจากประชาชน ที่เป็นต้นทางและเป็นบ่อเกิดของทุกเรื่อง ซึ่งประชาชนต้องทำให้ได้ด้วยการไม่ให้ใครมาชี้นำ และต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง หากเราทำได้เราจะได้นักการเมืองที่มีคุณภาพ แต่ถ้าไม่มีแล้วจะทำอย่างไร ก็จะเกิดปัญหาขึ้นไง นี่แหละคือสิ่งที่ต้องแก้ปัญหา และที่เดินทางมาครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องของการเมืองอย่างที่มีการกล่าวอ้าง แต่รัฐบาลต้องการทำงานให้เกิดดีกับประชาชนในแต่ละพื้นที่ หากรัฐบาลทำได้ก็จะเกิดผลดีต่อประเทศชาติเอง”

นายกรัฐมนตรี ยังบอกว่า ในส่วนของความต้องการของชาวบ้านที่มีการพูดเสนอ รัฐบาลรับไว้ทั้ง 7 เรื่องและแต่ละเรื่องจะให้จะให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ชี้แจงว่าทำได้หรือไม่ แต่ทุกเรื่องรัฐบาลรับไว้ทั้งหมด แต่จะดำเนินการให้ตามความเหมาะของงบประมาณของรัฐบาลโดยเรื่องถนนรอบเกาะนั้น นายกรัฐมนตรีได้ให้รัฐมนตรีคมนาคมชี้แจง และไม่น่าจะมีปัญหาหากมีผลกระทบไม่มาก

นายอาคม เติมวิริยะไพสิษฐ์บอกว่า จากการได้รับรายงานพบว่า ถนนสายนี้เหลืออีก 9.8 กม. จะรอบเกาะและที่ผ่านมามีการศึกษาความเหมาะสมไว้ 4 เส้นทาง และมีมูลค่าถึง 2,500 ล้านบาท แต่เส้นทางที่เหมาะสม นั้นจะเป็นเส้นทางเก่าที่ได้มีการศึกษาไว้แล้ว และมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมน้อยที่สุด ซึ่งมีบางช่วงที่ตัดผ่านป่าลุ่มน้ำประเภทเอ 1 พื้นที่ลุ่มน้ำที่ไม่สามารถก่อสร้างได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้หาข้อสรุปกับทางรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแล้วในเรื่องพื้นที่ที่ตัดผ่านอุทยานฯ ซึ่งหากใช้แนวเดิมจะลดปัญหาได้มาก

สำหรับเรื่องน้ำนั้น อธิบดีกรมชลประทานได้แจ้งให้นายกรัฐมนตรี ทราบว่า ได้รับการประสานงานเรื่องนี้จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดอุปสรรคนั้นได้หารือจนได้ข้อสรุปในเรื่องผลกระทบต่อแนวประการังระหว่างการก่อสร้างซึ่งเรื่องนี้ได้ข้อสรุปในการแก้ปัญหาแล้วจึงสามารถก่อสร้างเพราะเหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายคือการก่อสร้างเท่านั้น

ทั้งนี้พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยได้เสนอเพิ่มเติมว่า เมื่อ อำเภอเกาะช้าง มีอ่างเก็บน้ำแล้ว จะให้ทางการประปาส่วนภูมิภาคมาดำเนินสร้างระบบประปาเพื่อให้ทุกหมู่บ้านมีน้ำประปาใช้ทุกครัวเรือน ในส่วนปัญหาขยะและน้ำเสียนั้น พลเอกอนุพงษ์ บอกว่า เมื่อมีสภาพเป็นเกาะ การแก้ปัญหาหรือการดำเนินโครงการขยะและน้ำเสียจึงต้องไม่เหมือนใครและที่ใด ดังนั้น จะมีการดำเนินการเพื่อแก้ไขขยะอย่างไร ชาวเกาะช้างต้องร่วมมือกันด้วย เพราะจากการที่เดินทางมาเห็นภาพกว้างของเกาะจากมุมสูง พบว่า สวยงามมาก แต่เมื่อลงมาในพื้นที่มีปัญหาขยะ และความสะอาด และความเป็นระเบียบร้อยมาก ดังนั้นองค์กรปกครองท้องถิ่นในเกาะช้างต้องช่วยกัน ปริมาณขยะในขณะนี้ยังมีไม่มากจึงควรจะเร่งดำเนินการแกไข

สำหรับเรื่องท่าเรือโดยสารนั้น ทางอธิบดีกรมเจ้าท่าได้แจ้งว่า จะทำการสร้างท่าเทียบเรือเพื่อการโดยสารของนักท่องเที่ยว แต่ไม่ให้มีการขนย้ายรถยนต์ ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการศึกษาโดยเร็ว ทั้งนี้บนฝั่งเกาะจะอยู่ที่บ้านด้านเก่า และฝั่งอ.แหลมงอบ มองไว้หลายแห่ง ทั้ง ในอ.แหลมงอบ และอำเภอเมืองตราด ต้องหารือกันก่อน

เกาะช้าง
พลเอกประยุทธ เดินเข้าไปสวมกอดคุณยายแก๊ก แซ่อุย อายุ 80 ปี ที่นำเสนอปัญหาที่ดินทับซ้อนให้นายกฯรับทราบ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายคุณยายแก๊ก แซ่อุย อายุ 80 ปี ที่นั่งอยู่แถวหน้าได้ขอให้นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทับซ้อน เนื่องจากที่ดินของยายแก๊ก มีพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ดินของอุทยานจึงถูกยึดที่ดินคืนทั้งที่กิดมาก่อนที่อุทยานฯเกาะช้าง จะมาประกาศเป็นเขตอุทยานฯ นอกจากนี้ปัญหาเรื่องลิง และกระรอกมาทำลายทรัพย์สินและอาหารจนได้รับความเดือนร้อนจึงขอให้มีการแก้ไขให้ด้วย

ซึ่งพลเอกอนุพงษ์ ตอบว่า หากที่ดินของยายแก๊กอยู่ในที่ทำประโยชน์ได้ หรืออยู่นอกเขตอุยานฯหรือได้ครอบครองมาก่อนที่จะมีการประกาศเป็นเขตอุทยานฯที่ดินแปลงนี้จะเป็นของยายทันที่ แต่เรื่องนี้จะต้องหารือร่วมกันกับกระทรวงทรัพย์ฯก่อนจึงจะดำเนินการแกไขปัญหาให้

ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ได้บอกว่า เกาะช้างโดยศักยภาพแล้ว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม เหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ แต่เมื่อลงมาดูในพื้นที่พบปัญหาเรื่องความไม่เรียบร้อยทั้งขยะ และสิ่งปฏิกูลหญ้าที่รก และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ทำประโยชน์ยังไม่เป็นระเบียบ จึงอยากให้ช่วยกันดูแลให้ดี และองค์กรปกครองท้องถิ่นจะต้องดำเนินการให้เรียบร้อยเพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ

ภาพ ไทยคู่ฟ้า/สำนักข่าวตราดทีวี

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
รมช.เกษตรฯลงพื้นที่ตราด เตรียมเสนอครม.สัญจรฯ สร้าง อ่างเก็บน้ำ ห้วยสะตอ
จันทบุรีขอครม.สัญจรกว่า 5 พันล้านบาท

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

กฤษฎาพงษ์ แววคล้ายหงษ์

กฤษฎาพงษ์ แววคล้ายหงษ์

ADmin : สำนักข่าวตราดทีวี จังหวัดตราด