ชาวบ้านชิมน้ำด้วยลิ้น วัดน้ำด้วยเครื่อง หลังน้ำเค็มรั่วไหลพื้นที่เกษตรกว่าพันไร่เพาะปลูกไม่ได้ ชป.ตราด เผย ซ่อมแล้ว 2 จุด อีก 3 จุดเสร็จปีนี้ แต่พบปัญหาอีกถูกลักลอบเปิดน้ำเค็มเข้าน้ำจืด
(4 ธันวาคม 2566) ที่คลองชลประทาน ม.2 ต.หนองคันทรง อ.เมือง จ.ตราด นายสุมล เง็กลี้ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองคันทรง คณะผู้บริหารอบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านหมู่ 2 ต.หนองคันทรง พร้อมนายสมเจตน์ เข็มวงษ์ วิศวกรโครงการชลประทานตราด ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดน้ำเค็มรั่วไหลเข้าไปในคลองชลประทานตราด จนส่งผลให้น้ำจืดภายในคลองมีค่าความเค็มสูงกว่าเกณฑ์ 0.1 % ชาวบ้านไม่สามารถนำน้ำมาใช้ในภาคการเกษตรได้ มีประชาชนเดือนร้อนกว่า 30 ราย พื้นที่การเกษตรราว ๆ 1,000 ไร่ ไม่สามารถใช้น้ำในคลองชลประทานได้
โดยจุดแรก นายสุมล เง็กลี้ นายก อบต.หนองคันทรง และชาวบ้าน พานายสมเจตน์ เข็มวงษ์ วิศวกรโครงการชลประทานตราด ไปดูประตูระบายน้ำขนาดเล็ก จำนวน 3 จุด จากทั้งหมด 16 บาน ในคลองชลประทาน ที่ใช่สำหรับปล่อยน้ำจืดไปยังนาข้าวและแหล่งน้ำของชาวบ้าน พบว่า บางจุดชำรุดประตูระบายน้ำไม่สามารถปิดได้ ต้องใช้กระสอบทรายมาปิดทับไม่ให้น้ำไหลเข้ามา แต่กลับมีกลุ่มคนบางกลุ่มนำกระสอบทรายออก
จากนั้นเดินทางไปยังจุดที่ 2 บริเวณคลองนก ที่มีการก่อสร้างประตูระบายน้ำจำนวน 5 จุด เมื่อ 30 ปีที่แล้ว และประตูระบายน้ำทั้ง 5 จุด ชำรุดเสียหาย และช่วงปี เดือน พฤศจิกายน 2566 ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังชลประทานตราด ให้เร่งซ่อมแซมโดยด่วน เพราะน้ำเค็มไหลทะลักเข้ามาในพื้นที่คลองชนประทานแล้ว และหลังจากร้องเรียนไปแล้วชลประทานก็เร่งเข้ามาซ่อมแซมทันที ซึ่งปัจจุบันซ่อมไปแล้ว 2 จุด เหลืออีก 3 จุดที่ยังไม่ได้ซ่อม
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านตักน้ำจากคลองแล้วใช้เครื่องวัดค่าความเค็มพบว่า มีค่าความเค็มสูงถึง 2.52 % ซึ่งปกติค่าความเค็มของน้ำจะต้องไม่เกิน 0.1% ที่สามารถนำมาใช้ในการรดน้ำพื้นผลทางการเกษตรและนาข้าวได้
นายบุญกอง ชำนาญภัย อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.หนองคันทรง กล่าวว่า ตนเองเช่าที่ดิน 50 ไร่ ที่ติดกับคลองนก เพื่อปลูกนาข้าว โดยเช่าเป็นรายปี ปีละ 30,000 บาท แต่ปรากฎว่า ต้องขาดทุน เพราะช่วงก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต น้ำเค็มรั่วไหลเข้านาข้าว ทำให้ข้าวเสียหายเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ไม่มาก และหลังจากที่ชลประทานแก้ไขประตูระบายน้ำแล้ว 2 บาน ตนเองยังไม่มั่นใจว่าน้ำเค็มจะยังรั่วไหลมาผสมกับน้ำจืดอีกหรือไม่ ยังคงต้องดูสถานการณ์ต่อไป หากไม่มีน้ำเค็มไหลเข้ามาแล้ว จะลงทุนปลูกข้าวอีกครั้ง
ด้านนายณัฏฐวงศ์ ชาวเวียง อายุ 56 ปี เกษตรกรสวนทุเรียน ต.หนองคันทรง กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ตนเองได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตราด ให้ทางชลประทานเข้ามาเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างถาวร เมื่อชลประทานจนทราบเรื่องก็รีบลงมาแก้ทันทีในเบื้องต้นคือ ปล่อยน้ำจืดดันน้ำเค็มออกไป แต่นั้นเป็นการแก้ไขเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่อยากแก้ไขคือการจัดการประตูระบายน้ำทั้งหมด ที่อาจจะทำให้น้ำเค็มรั่วไหลมาปนกับน้ำจืด เพราะหากน้ำเค็มยังคงไหลเข้ามาประชาชนบริเวณนี้กว่า 30 คน จะไม่มีน้ำจืดใช้ในภาคการเกษตรเกือบ 1,000 ไร่ ทั้ง ทุเรียนต้นใหญ่ ทุเรียนต้นเล็ก รวมไปถึงด้านปศุสัตว์ และหลังจากที่การแก้ไขเสร็จแล้ว จะต้องดูต่อไปว่า น้ำเค็มยังคงเข้ามาในคลองชนประทานอีกหรือไม่ ถ้ายังมีน้ำเค็มเข้ามาอีกก็คงต้องแจ้งชลประทานเข้ามาดำเนินการแก้ไขต่อไป
ขณะที่นายสัญชัย สุทธิวารี รองนายก อบต.หนองคันทรง กล่าวว่า นอกจากปัญหาน้ำเค็มรั่วไหลเข้ามาในคลองแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งมาจากกลุ่มนักหาปลา จะลักลอบเปิดน้ำเค็มเข้าในคลอง เพื่อจับปลา เพราะเมื่อน้ำเค็มเข้ามาในคลองแล้ว จะส่งผลให้ปลาในคลองเมาน้ำ และการจับปลาจะง่ายมากขึ้น ซึ่งกระทำเช่นนี้มีให้เห็นตลอดเวลา แม้ว่าชาวบ้านที่ใช้น้ำจืดจะเฝ้าระวังแล้วก็ตาม และเรื่องนี้ชลประทานเองก็ทราบเรื่อง ได้พยายามหาทางแก้ไขเช่น ใช้แม่กุญแจล็อก หรือเชื่อมเหล็กล็อกเอาไว้ แต่ถูกทำลาย เพียงต้องการปล่อยน้ำเค็มเข้าคลองเพื่อจับปลานั้นเอง
ส่วนนายสมเจตน์ เข็มวงษ์ วิศวกรโครงการชลประทานตราด หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว กล่าวว่า เบื้องต้นทางชลประทานตราดไม่ได้นิ่งนอนใจ และเข้ามาแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนด้วยการซ่อมประตูระบายน้ำทั้งหมด 5 จุด ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนใหม่ไปแล้ว 2 จุด ยังเหลืออีก 3 จุด จะดำเนินการซ่อมให้เสร็จภายในปีนี้ ขณะเดียวกันหลังจากซ่อมแล้ว กลับพบว่า ระดับน้ำเค็มนั้น สูงขึ้นกว่าเดิมล้นประตูระบายน้ำ จากภาวะของโลกร้อนนั้นเอง ซึ่งชลประทานทราบเรื่องนี้แล้วเช่นกัน และจะเข้ามาเสริมประตูระบายน้ำเพิ่มทั้ง 5 จุด เพื่อไม่ให้น้ำเค็มรั่วไหล
