ตราด-เกษตรกรรุ่นใหม่คิดต่างปลูกเมล่อนขายเริ่มต้นลูกละ 100 บาท จนกลายเป็นฟาร์มเมล่อนใหญ่ที่สุดใน จ.ตราด
ที่ฟาร์มศุภฤกษ์ ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ของนายรังสรรค์ ทนุพงษ์ เกษตรกรรุ่นใหม่เจ้าของฟาร์ม ที่ลงทุน ลงแรง ศึกษาการปลูกเมล่อนอย่างจริงจังมาตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา จนประสบผลสำเร็จกลายเป็นฟาร์มเมล่อนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตราด มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้าชมฟาร์มและชิมเมล่อนสด ๆ จากสวน ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากเมล่อนเป็นไอศกรีมเมล่อน สมูทตี้เมล่อน และเมล่อนฟรีซดราย อีกด้วย
นายรังสรรค์ เปิดเผยสาเหตุที่มาปลูกฟาร์มเมล่อน เพราะจังหวัดตราดเป็นจังหวัดที่ปลูกยางพาราและผลไม้เยอะ ถ้าเราปลูกตามคนอื่น เราก็จะประสบชะตากรรมเหมือนกับคนอื่นที่ราคาไม่แน่นอนสูงบางต่ำบาง จึงหาพืชที่ในท้องถิ่นไม่มีปลูก ซึ่งช่วงแรกคิดจะปลูกผักสลัดขาย แต่คิดไปคิดมา ไม่ปลูกดีกว่า เพราะมองว่าตลาดจะตายในช่วงหน้าหนาว เนื่องจากสลัดผักไม่สามารถสูงภาคเหนือได้ จนสุดท้ายศึกษาการปลูกเมล่อนอย่างจริง เพราะจังหวัดตราด ยังไม่มีใครปลูกขายมากนัก ในปีแรก ๆ ที่ปลูกนั้นตัวเองประสบปัญหาขาดทุน ปลูกเมล่อนได้ผล 200 ลูก แต่เก็บผลผลิตได้เพียง 30 ลูก เท่านั้น จึงคิดค้นแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง จนสำเร็จและประสบความสำเร็จในที่สุด โดยเมล่อนแต่ละลูกมีน้ำหนักเฉลี่ยลูกละ 1.5 กิโลกรัม เริ่มต้นกิโลกรัมละ 100 บาท
นายรังสรรค์ กล่าวว่า ฟาร์มศุภฤกษ์ มีเมล่อนทั้งหมด 3 สายพันธุ์ มีความหวาน 3 ระดับ คือ เมล่อนพันธุ์จันฉาย จะมีรสชาติหวานมาก หอม และกรอบ ส่วนเมล่อนพันธุ์สโนกรีน หวานปานกลาง หอม นุ่ม และเมล่อนพันธุ์บารมี มีรสชาติ หวานน้อยสุด หอมและนุ่ม ซึ่งลูกค้าที่เดินทางมาฟาร์มด้วยตัวเอง จะให้ลูกค้าชิมเมล่อนก่อน ตามลำดับ หวานน้อยไปจนถึงหวานมาก เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจว่าต้องการรสชาติแบบไหน นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากเมล่อน คือ ไอศกรีมเมล่อน สมูทตี้เมล่อน และเมล่อนฟรีซดราย ก็จะให้ลูกค้าชิมเช่นกัน เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับลูกค้า
