ระทึก!! หนุ่มตามง้อแฟน ใช้มีดจี้บังคับขึ้นรถพากลับบ้าน แต่น้ำมันหมด สุดท้ายถูกตำรวจจับ
เวลา 15.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 สถานีตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธมีดจี้พนักงานโชว์รูมรถยนต์แห่งหนึ่ง บังคับขึ้นรถยนต์กระบะอีซูซุ หมายเลขทะเบียน กม 8017 ลพบุรี มุ่งหน้าเข้าตลาดสดเทศบาลเมืองตราด อ.เมือง จ.ตราด หลังรับแจ้งประสานตำรวจสายตรวจสภ.เมืองตราด เร่งติดตามรถยนต์เป้าหมายทันที
จากนั้นร.ต.อ.บุญธรรม ปัญญาภู หัวหน้าชุดสายตรวจรถยนต์ สภ.เมืองตราด ขับรถตรวจสอบบนถนนท่าเรือจ้าง และพบรถยนต์กระบะเป้าหมายตามที่แจ้งไว้ จอดใกล้เคียงกับไปรษณีย์จังหวัดตราด จึงเลี้ยวรถปิดช่องทางวิ่งรถยนต์กระบะป้องกันการหลบหนี พร้อมเรียกให้คนขับรถยนต์กระบะลงจอดรถ และที่ไม่มีการขัดขืนแต่อย่างใด โดยมีแฟนสาวนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ จากนั้นตรวจสอบภายในรถพบอาวุธมีดจำนวน 2 เล่ม จึงยึดไว้เป็นของกลาง และทราบชื่อผู้ก่อเหตุภายหลังชื่อนายอำนวย อาจหาญ อายุ 25 ปี บ้านอยู่ในอำเภอแหลมงอบ จ.ตราด
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม สถานการณ์ฝุ่นควัน PM 2.5 ยังคงน่าห่วง คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานเป็นสีแดงมีผลต่อสุขภาพ
- นายกรัฐมนตรีห่วงน้ำเค็มรุก ความเค็มลดระดับหลังศูนย์บัญชาการฉุกเฉิน กษ.ขยับ
- ฝ่ายปกครอง อ.เมืองนครพนม ตรวจยึดยาบ้า พร้อมผู้ต้องหา
- หมูเป็นขึ้นราคาหน้าฟาร์มเดือดร้อนทั้งคนกินและแม่ค้าบางรายต้องหยุดขายทิ้งเขียงไว้ให้ร้างไว้ก่อน
นายอำนวย ให้การกับตำรวจว่า ที่ลงมือก่อเหตุ เพราะเกิดจากการหึงหวง ที่ตนเองตามง้อแฟนสาวมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มีอารมณ์เกินไป เดินทางจากบ้านมายังโชว์รูมรถที่แฟนสาวทำงานอยู่ เพื่อง้อแฟนสาว แต่ก็ไม่เป็นผล จึงใช้มีดบังคับแฟนสาวขึ้นรถด้วยเพื่อพากลับบ้าน แต่ระหว่างขับรถปรากฏว่าน้ำมันรถหมด จึงจอดรถริมถนนนั่งคุยกัน จนตำรวจตามมาเจอ
จากนั้น ร.ต.อ.บุญธรรม ปัญญาภู นำตัวนายอำนวย อาจหาญ พร้อมแฟนสาว ไปยังสภ.เมืองตราด ไปตกลงไม่ให้เกิดปัญหากันอีกต่อหน้าร้อยเวรสภ.เมืองตราด เนื่องจากหนุ่มสาวคู่นี้ มีเรื่องทะเลาะบ่อยครั้ง ตำรวจสายตรวจเข้าระงับเหตุหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ถึงขั้นใช้อาวุธเหมือนครั้งนี้ ส่วนนายอำนวย อาจหาญ ตำรวจตั้งข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในเมืองและทางสาธารณะ ซึ่งเป็นคดีลหุโทษ ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยการขู่เข็ญ มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: