(คลิป) ตำรวจรวบผัวเมียค้ายาไอซ์ พบประวัติฝ่ายชายเพิ่งโทษยาเสพติด

ตำรวจคลองใหญ่ รวม 2 สามีภรรยา ขณะนำยาไอซ์ส่งลูกค้า   พบฝ่ายชายเพิ่งพ้นโทษยาเสพติดจากเรือนจำได้ 2  ปี ส่วนภรรยาให้การไม่รู้เห็นสามีค้ายาเสพติด

พ.ต.อ.ดำรงค์ เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สภ.คลองใหญ่  เปิดเผยว่า  เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา ประมาณ   21.00  น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร  ฝ่ายปกครอง  ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาสองสามีภรรยา คือนายศุภเดช  พูลเกษม  อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9809/3  ม.7 ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด และน.ส.นารี สังข์ทอง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 624  ม.7  ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่

พร้อมของกลางประกอบด้วยยาไอซ์  64.29 กรัม และรถยนต์กระบะอีซูซุ ทะเบียน 6 กง  7858  กทม.  ได้ที่บริเวณถนนทางเข้าท่าเทียบเรือชลาลัย  บ้านคลองสน  ต.หาดเล็ก  อ.คลองใหญ่ จ.ตราด หลังทั้งสองคนลักลอบนำยาไอซ์มาจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นและแรงงานในพื้นที่

ผู้กำกับ สภ.คลองใหญ่  เปิดเผยถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหาว่า  นายศุภเดช  เคยมีประวัติต้องโทษคดียาเสพติดและถูกจำคุก  โดยพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2561  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามพฤติกรรมตลอดมา และมีการรายงานว่านายศุภเดช  ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าติดตามดูความเคลื่อนไหว กระทั่งทราบว่านายศุภเดช  ได้หันกลับมาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกครั้งด้วยการนำยาไอซ์มาจำหน่ายในที่พื้นที่ตำบลหาดเล็ก

ซึ่งครั้งนี้ได้รับแจ้งจากสายว่านายศุภเดชจะนำยาไอซ์มาส่งให้ลูกค้า  จึงได้มีการสะกดรอยตามรถยนต์กระบะคันดังกล่าว   นายศุภเดชรู้ว่ามีเจ้าหน้าที่ติดตามจึงขับรถยนต์กระบะหนีจนกระทั่งไปจนมุมที่บริเวณถนนทางเข้าท่าเทียบเรือชลาลัย  นายศุภเดชเห็นว่าจวนตัวจึงโยนยาเสพติดทิ้ง  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายศุภเดชไว้แล้วค้นหาสิ่งที่โยนทิ้งพบห่อกระดาษเมื่อเปิดดูพบเป็นยาไอซ์ใส่ถุงพลาสติกใส่ไว้

จากนั้นได้ทำการค้นรถยนต์พบนางสาวนารี  สังข์ทองนั่งอยู่ภายในรถ  จึงควบคุมตัวทั้งสองคนมาสอบสวน  ซึ่งนายศุภเดชรับสารภาพว่ายาไอซ์เป็นของตนเองจะนำมาขายให้กับลูกค้าในหมู่บ้านคลองสน  โดยยาไอซ์ที่นำมาขายนั้นรับมาจากเพื่อนที่จังหวัดจันทบุรี  ซึ่งซื้อมาทั้งหมด 97  กรัมในราคา  25,000  บาท  แล้วนำมาแบ่งขายให้กับลูกค้าตามความต้องการ

จึงได้ตั้งข้อหาว่ามียาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์)  ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย  แต่นางสาวนารี  สังข์ทอง   นั้นให้การปฏิเสธ เพราะไม่ทราบว่านายศุภเดชเกี่ยวข้องกับยาเสพติด  แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อได้ทำการควบคุมตัวทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีแล้ว