X

‘ชัชชาติ’ เล็งประสาน กฟน. กันเกิดปัญหาหม้อแปลงไฟฟ้าซ้ำซาก

เร่งถอดบทเรียนไฟไหม้ย่านสำเพ็ง ‘ชัชชาติ’ ผู้ว่าฯ กทม. เผยสัปดาห์หน้าเตรียมประสานการไฟฟ้านครหลวง เพื่อป้องกันเกิดปัญหาหม้อแปลงไฟฟ้าและอื่นๆ ซ้ำซาก

วันนี้ (26 มิถุนายน 2565) เวลา 16.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และ ผศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. เดินทางถึงจุดเกิดเหตุไฟไหม้ย่านสำเพ็ง บริเวณอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ใกล้เคียงท่าน้ำราชวงศ์ ถ.ราชวงศ์ โดยได้มีการสอบถามเหตุที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่หน้างาน รวมถึงได้ให้กำลังเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่

โดย นายชัชชาติ เปิดเผยภายหลังตรวจเหตุเพลิงไหม้อาคารย่านสำเพ็ง เขตสัมพันธวงษ์ ว่า เบื้องต้นสามารถควบคุมเพลิงได้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังต้องสังเกตความอันตรายของการถล่มของอาคารเนื่องจากมีการฉีดน้ำ ซึ่งมีตึกหนึ่งที่พื้นอาคารมีการยุบตัวลงมาแล้ว สาเหตุของเพลิงไหม้เท่าที่รับรายงานเบื้องต้น มาจากหม้อแปลงไฟระเบิด ลุกลามไปด้านในอาคาร รวมถึงมีสายไฟและสายสื่อสารจำนวนมากที่อาจเป็นส่วนช่วยให้ไฟลุกลามไป ประกอบกับมีวัสดุในอาคารที่เป็นเชื้อเพลิงทำให้ไฟลามอย่างรวดเร็ว หลังจากนี้ต้องมีการทบทวนรวมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลาง ภาครัฐ ในการดูแลหม้อแปลงและสายสื่อสารที่อยู่ด้านนอก ซึ่ง กทม.มีนโยบายที่จะตัดสายที่ไม่ได้ใช้งานทิ้งอยู่แล้ว ต้องรีบตัดสายทิ้งเพราะจะเป็นตัวที่ทำให้ติดไฟได้ ส่วนเจ้าของอาคารก็ต้องตรวจสอบภายในอาคารด้วย เพราะอาคารอาคารที่ใช้เก็บของ มีวัสดุเชื้อเพลิงอยู่ภายในจำนวนมากจะมีความเสี่ยงสูงขึ้นด้วย

จากเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นแรงงานข้ามชาติ 1 ราย คนไทย 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 11 ราย เป็นทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน นำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวเฉียว 7 ราย และโรงพยาบาลกลาง 4 ราย มีรถประชาชนที่จอดได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ จำนวน 3 คัน อาจมีการไปแจ้ง ซึ่งต้องดูเรื่องของกฎหมายว่าใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ในส่วนของอาคาร ในวันพรุ่งนี้ฝ่ายโยธาเขตฯเข้าตรวจสอบอาคาร และสำรวจเรื่องความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างอาคาร เนื่องจากมีอาคารยุบตัวด้วย

จากนั้น นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า ในสัปดาห์หน้า กทม. จะมีการหารือร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ทั้งเรื่องไฟแสงสว่าง ความปลอดภัยบนท้องถนน รวมถึงเรื่องความปลอดภัยของหม้อแปลงไฟฟ้า และสายสื่อสารที่อยู่รวมกับเสาไฟฟ้า ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่ต้องเอาไปปรับปรุง โดยถือเป็นหน้าที่การไฟฟ้าต้องช่วยดูด้วยเพราะเป็นความรับผิดชอบโดยตรง ต้องช่วยกันนำบทเรียนดังกล่าวมาปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดซ้ำซากอีก เชื่อว่าการไฟฟ้านครหลวงมีศักยภาพที่จะดูแลชีวิตประชาชน โดยต่อไป กทม. และการไฟฟ้านครหลวงจะต้องประสานกันอย่างเข้มข้นและใกล้ชิด ทั้งนี้ทุกเขตจะต้องสำรวจจุดเสี่ยงอื่น ๆ โดยให้ประชาชนที่พบเห็นจุดที่เสี่ยงให้ช่วยแจ้งผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue ได้ทันที

ขณะเดียวกัน นายชัชชาติ ฝากเตือนประชาชนเมื่อไปตามสถานที่ไม่คุ้นเคย หรือสถานบันเทิง ให้สำรวจทางหนีไฟ เพราะมีโอกาสที่จะเกิดเหตุขึ้นได้ หากมีเหตุจะได้หนีได้ทัน ซึ่งตนได้กำชับเรื่องนี้ไปแล้วให้ทุกเขตสำรวจความปลอดภัยสถานบันเทิงอย่างเข้มข้น

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

เจนพสิษฐ์ ปู่ประเสริฐ

เจนพสิษฐ์ ปู่ประเสริฐ

บรรณาธิการข่าวเว็บไซต์ "77 ข่าวเด็ด" (77kaoded.com) เป็นคนปทุมธานีโดยกำเนิด เชื่อมั่นในเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ