X

‘ก้าวไกล’ เปิดตัว ‘วิโรจน์’ ชิงตำแหน่ง “ผู้ว่าฯ กทม.”

ไม่พลิกโผ! พรรคก้าวไกล ประกาศเปิดตัว ”วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ชูจุดขาย “ชนทุกปัญหา-หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม”

วันนี้ (23 มกราคม 2565) ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภายใต้สโลแกน “หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม ถึงเวลาเลือกผู้ว่าฯ ที่พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ” ซึ่งก่อนหน้านี้มีการปล่อยแคมเปญออกมาแล้ว โดยในวันนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค ร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยพรรคได้เปิดตัว นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค เป็นว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

นายพิธา ระบุว่า ปีนี้ กรุงเทพมหานครจะได้เลือกตั้งผู้ว่าฯ อีกครั้ง เป็นการเลือกตั้งที่พิเศษ เพราะเราถูก คสช.แช่แข็ง สั่งให้มีผู้ว่าฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง บริหารกรุงเทพมหานคร ยาวนานถึง 5 ปี เป็นการเลือกตั้งที่เราหวังว่าประชาชนชาวกรุงเทพฯ จะเดินเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งด้วยความรู้สึกใกล้เคียงกับเมื่อครั้งเลือกตั้งมีนาคม 2562 และกว่า 800,000 เสียงจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่เลือกพรรคอนาคตใหม่นั้น ทำให้พรรคก้าวไกลต้องหาบุคคลที่พิเศษที่สุดให้กับผู้เคยลงคะแนนให้กับพรรค ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตนได้พูดคุยกับบุคคลที่มีศักยภาพเพื่อมาลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคก้าวไกล จึงได้ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการนำ ส.ส.คนสำคัญของพรรคมาเป็นว่าที่ผู้สมัครในครั้งนี้

“เมื่อปี 2562 ตอนที่เลือกตั้งใหญ่ ไม่มีใครรู้จักวิโรจน์ ผ่านมา 3 ปี เข้าใจแล้วก็ขอบคุณนะครับ ขอบคุณทุกคนที่บอกว่าเสียดายวิโรจน์ในสภา แต่ผมอยากจะตอบกลับไปว่า จะเสียดายมากกว่าถ้าไม่ได้เห็นเพื่อนรักของผมคนนี้ ในบทบาทของ[การ]บริหารและผู้ว่าฯ กทม. คนต่อไปของคน กทม. ครับ” นายพิธา กล่าว

ขณะที่ นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า วันนี้หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม ถึงเวลาเลือกผู้ว่าฯ ที่พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ โดยปัญหากรุงเทพฯ 3 เรื่องที่ต้องชน ประกอบด้วย

1. ชนและกำจัดส่วยกรุงเทพฯ เพราะมันคอยเซาะกร่อนอนาคตคนกรุงเทพฯ ถ้าจัดการได้ กรุงเทพฯ ในหลายมิติจะดีขึ้นโดยอัตโนมัติ ส่วยนี้กัดกินประชาชนตาดำ ๆ รวมทั้งปีขั้นต่ำ 5 พันล้านบาท สูงสุด 1.5 พันล้านบาท ทั้ง ๆ ที่งบฯ กทม. 100,000 ล้าน ซึ่งส่วยนี้มากถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีความจำเป็นที่คนกรุงเทพฯ ต้องจ่ายค่าครองชีพให้กับผู้ใดอีก ตนตั้งคำถามอย่างนี้ว่า นี่คือเรื่องที่เราต้องชนใช่ไหม

นายวิโรจน์ ยืนยันว่า ตนจะทำงานกับข้าราชการไม่ได้ เพราะข้าราชการที่ดีมี 90 เปอร์เซ็นต์ เขาพร้อมทำงานกับผู้ว่าฯ ที่ตรงไปตรงมา ที่ให้ข้าราชการที่ดีมีโอกาสเติบโต เรามักพูดกันว่าโตไปไม่โกง ถึงเวลาที่ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ต้องพิสูจน์กับข้าราชการว่า “ถ้าใครโกง มันไม่โต” ผู้ว่าฯ ต้องประกาศให้ชัดว่า ต้องไม่มีการรีดไถในกรุงเทพฯ อีกต่อไป ถ้าผู้ว่าฯ ชื่อวิโรจน์ กรุงเทพฯ ต้องหยุดไถทันที และถ้าใครมีหลักฐานส่งมา ตนจะลากคอมาลงโทษให้ดู

2. ชนระบบราชการส่วนกลาง ซึ่งเรามีหน่วยงานเยอะแยะเต็มไปหมด เห็นได้จากในช่วงวิกฤตโควิด-19 กรุงเทพฯ ไม่ได้ขาดแคลนหมอ ไม่ได้ขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ทันสมัย แต่ขาดระบบสาธารณสุขที่ดี ที่ไม่สอดประสานกัน การประสานหาเตียงของโรงพยาบาลที่ไม่บูรณาการกัน ทุกคนคงจำโครงการจองคิวฉีดวัคซีนของกรุงเทพมหานครได้ นั่นคือ ไทยร่วมใจ ที่ให้คนกรุงเทพฯ จองคิวฉีดและประสานร่วมกับร้านสะดวกซื้ออย่างดี แต่สุดท้ายวัคซีนไม่มา ทำให้การฉีดวัคซีนคนกรุงเทพฯ เลื่อนไปเรื่อย ๆ คนกรุงเทพฯ เสียโอกาสปกป้องชีวิตตัวเอง เสียโอกาสปกป้องชีวิตคนที่เรารัก

“แล้วผู้ว่าฯ ก็ยอมรับชะตากรรม ไม่ออกมาปกป้อง ลอยแพคนกรุงเทพฯ ให้ผจญกับโรคระบาดตามยถากรรม ซึ่งด้วยข้อจำกัดจากส่วนกลางที่ล่าช้า ทำให้เราเห็นคนกรุงเทพฯ มานอนข้างกำแพงวัดเพื่อรอตรวจ และก็มีเสียชีวิตอย่างที่ไม่ควรจะตาย ผู้ว่าฯ ยอมรับสภาพจากส่วนกลางที่เละ ยอมจำนน ยอมปล่อยให้เผชิญอย่างนั้นเหรอ ถ้าผู้ว่าฯ ชื่อวิโรจน์ คนนี้พร้อมชนกับ รมว. สาธารณสุข เรียกว่าพร้อมชนไม่ถูก เพราะชนมาแล้ว ไม่ได้กลัวเพราะไม่ใช่ชนส่วนตัว แต่ชนเพื่อรักษาชีวิตประชาชน นี่คือเรื่องพื้นฐานที่สุดสำหรับคนเป็นพ่อเมือง” นายวิโรจน์ กล่าว

3. ชนกับนายทุน พร้อมปกป้องผลประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ ไม่ให้ถูกเอาเปรียบโดยนายทุน เช่น เรื่องรถไฟฟ้าราคาแพง ซึ่งทุกคนรู้ว่าสัญญาสัมปทานนี้พัวพันกว่า 10 ฉบับ และรู้ว่าวันนี้กรุงเทพมหานครมีรถไฟฟ้าสายเขียว และค้างค่าจ้างเดินรถ คำถามเกิดขึ้นใจทันทีคือ ถ้าเป็นหนี้ถึง 37,000 ล้าน แล้วคนกรุงเทพฯ ได้ขึ้นรถเท่าเทียมกันก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ยังมีคนที่ไม่ได้ขึ้นเพราะจ่ายไม่ไหว ตนเชื่อว่าวันนี้ คนกรุงเทพฯ ไม่ได้ต้องการผู้ว่าฯ ที่สร้างรถไฟฟ้า แต่คนกรุงเทพฯ ต้องการผู้ว่าฯ ที่ทำให้คนกรุงเทพฯ ขึ้นรถไฟฟ้าได้ต่างหาก

นายวิโรจน์ ระบุต่อไปว่า ถ้าผู้ว่าฯ ชื่อวิโรจน์ แม้มีอำนาจจำกัด แต่การต่อขยายสัญญาสายสีเขียวที่ลึกลับดำมืดนี้จะต้องเปิดเผยทันที และต้องเปิดเพราะสัญญาฉบับนี้เกี่ยวข้องกับคำสั่ง คสช. 3/2562 ต้องเปิดดูว่าตกลงอะไรกันไว้ ถ้าไม่เปิด ปัญหาเหล่านี้แก้ไม่ได้เลย นี่คือสิ่งที่ผู้ว่าฯ ต้องกล้าทำและเป็นหัวหอก ให้เกิดตั๋วร่วมในกรุงเทพฯ จะสำเร็จหรือไม่ เจอตออะไรหรือไม่ หรือติดอะไรไม่รู้ แต่ต้องไม่ติดที่ผู้ว่าใส่เกียร์ว่างเพราะนายทุนเอาเงินมาปิดปาก

“คำว่าชนของเราหมายความว่าเราต้องไปประสาน แต่ประสานแล้วไม่มีความคืบหน้า ปล่อยให้ชีวิตคนกรุงเทพฯ ยังเป็นแบบเดิมไม่ได้ ต้องตาม ต้องจี้ ทำแล้วไม่ดีให้กลับมาทำใหม่ เพราะทุกครั้งที่ผู้ว่าฯ ยอมจำนนคือการลอยแพ คือการให้มองปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ และใครไม่พอใจก็ควักกระเป๋าใช้เงินแก้ปัญหาให้กรุงเทพฯ เอง ผู้ว่าฯ ที่ชื่อวิโรจน์ไม่ใช่แบบนั้น เพราะเรื่องนี้ ต่อให้นโยบายของผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครดีเลิศแค่ไหน แต่ทว่าเกรงใจทุกหน่วยงาน แต่ไม่เกรงใจคนกรุงเทพฯ ขับเคลื่อนไม่ได้ ปัญหาคนกรุงเทพฯ ไม่จะถูกแก้ แต่จะแก้แบบปะ ผุ แบบนี้ไปเรื่อยๆ” นายวิโรจน์ กล่าว

วิโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าผู้ว่าฯ ชื่อวิโรจน์ กรุงเทพมหานครไม่มีความจำเป็นต้องติดอันดับโลกเพื่อคนอื่น แต่ต้องเป็นเมืองที่คนที่มีชีวิตอยู่ที่นี่ คนที่มีลมหายใจที่นี่ อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ต้องเป็นเมืองที่มีสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่ดีที่คนกรุงเทพฯ ทุกคนฝากผีฝากไข้พึ่งพิงได้ และพร้อมเป็นฟูกผืนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า สักวันหนึ่งถ้าเราพลาดล้มลงเราต้องไม่เจ็บหนัก เราต้องพร้อมลุกขึ้นยืนใหม่ได้ ไม่ใช่ล้มคนเดียวแล้วล้มทั้งบ้าน

“บนวิถีทางการทำงานพรรคก้าวไกล ทำให้ผมพร้อมชนทุกปัญหาเพื่อคนกรุงเทพฯ ทำให้ผมพร้อมแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมาโดยเอาผลประโยชน์คนกรุงเทพฯ เป็นตัวตั้ง พร้อมปักธงอนาคต พาคนที่มีความแตกต่างหลากหลายเดินหน้าไปพร้อม ๆ กัน พอกันทีกับกรุงเทพฯ ชีวิตดี ๆ ที่คุณต้องจ่าย ที่เมื่อไหร่ถ้าคุณไม่จ่าย ต้องเจ็บและชินไปเอง หมดเวลาที่เราต้องทน หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม ถึงเวลาเลือกผู้ว่าฯ ที่พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ ถ้าคนกรุงเทพฯ ต้องการคนไปพร้อมชนกับทุกปัญหา ผมพร้อมเป็นคนๆ นั้น สะบัดพรมกรุงเทพฯ ได้เวลาเก็บกวาดแล้วครับ” นายวิโรจน์ กล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

เจนพสิษฐ์ ปู่ประเสริฐ

เจนพสิษฐ์ ปู่ประเสริฐ

บรรณาธิการข่าวเว็บไซต์ "77 ข่าวเด็ด" (77kaoded.com) เป็นคนปทุมธานีโดยกำเนิด เชื่อมั่นในเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ