‘ประยุทธ์’ ยังมีคะแนนนำในนิด้าโพล แต่มีสัดส่วนลดลงต่อเนื่อง

นิด้าโพล เผย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงมีคะแนนนำแต่มีสัดส่วนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้านพรรคพลังประชารัฐคะแนนหล่น แต่พรรคเพื่อไทยกลับเพิ่ม ขณะที่เปอร์เซ็นต์ “ยังหานายกฯ และพรรคที่เหมาะสมไม่ได้” กลับมีจำนวนมากขึ้น

ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 4/2564 จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,504 หน่วยตัวอย่าง ในช่วงวันที่ 15-21 ธันวาคม 2564 กำหนดค่าความเชื่อมั่น 97%

เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ คำตอบที่ได้เป็นดังนี้

• อันดับ 1 ประชาชน 36.54% ระบุ ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
• อันดับ 2 ประชาชน 16.93% ระบุ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเป็นคนมีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ บริหารงานดี นโยบายช่วยเหลือประชาชนได้จริง
• อันดับ 3 ประชาชน 10.74% ระบุ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีแนวคิดและอุดมการณ์ในการพัฒนาประเทศ
• อันดับ 4 ประชาชน 10.55% ระบุ นางสาวแพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ
• อันดับ 5 ประชาชน 5.51% ระบุ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะเป็นคนเก่ง พูดจริง ทำจริง มีประสบการณ์ด้านการบริหาร
• อันดับ 6 ประชาชน 4.83% ระบุ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะเป็นคนเก่ง กล้าพูด กล้าทำ ตรงไปตรงมา มีอุดมการณ์ในการทำงาน
• อันดับ 7 ประชาชน 4.35% ระบุ ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
• อันดับ 8 ประชาชน 2.36% ระบุ นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) เพราะเป็นคนมีวิสัยทัศน์ในการทำงาน มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ
• อันดับ 9 ประชาชน 2.24% ระบุ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) เพราะเป็นคนที่มีความสามารถหลากหลาย มีภาวะผู้นำ ชื่นชอบในนโยบายของพรรคเพื่อไทย
• อันดับ 10 ประชาชน 1.84% ระบุ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะเป็นคนซื่อสัตย์ บริหารงานอย่างตรงไปตรงมา

ขณะที่ประชาชน 4.11% ระบุว่า ผู้ที่พวกเขาสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย), นนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา), นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ (พรรคเศรษฐกิจใหม่), นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์, พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ), นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี), นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ), นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา), นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, นายชวน หลีกภัย และ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 3/64 เดือนกันยายน 2564 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล), คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย), พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) และนายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) มีสัดส่วนลดลง

ในขณะผู้ที่ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

เมื่อนิด้าโพล ถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า

• อันดับ 1 ประชาชน 37.14% ระบุ ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย
• อันดับ 2 ประชาชน 23.52% ระบุ พรรคเพื่อไทย
• อันดับ 3 ประชาชน 13.18% ระบุ พรรคก้าวไกล
• อันดับ 4 ประชาชน 8.99% ระบุ พรรคพลังประชารัฐ
• อันดับ 5 ประชาชน 7.15% ระบุ พรรคประชาธิปัตย์
• อันดับ 6 ประชาชน 2.43% ระบุ พรรคเสรีรวมไทย
• อันดับ 7 ประชาชน 1.60% ระบุ พรรคไทยสร้างไทย
• อันดับ 8 ประชาชน 1.56% ระบุ ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
• อันดับ 9 ประชาชน 1.32% ระบุ พรรคภูมิใจไทย
• อันดับ 10 ประชาชน 1.08% ระบุ พรรคกล้า

และประชาชน 2.03% ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคไทยภักดี พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาชาติ และพรรคเพื่อชาติ

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 3/64 เดือนกันยายน 2564 พบว่า ผู้ที่ระบุว่าพรรคก้าวไกล, พรรคพลังประชารัฐ, พรรคประชาธิปัตย์, พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยสร้างไทย และพรรคกล้า มีสัดส่วนลดลง

ในขณะผู้ที่ระบุว่าไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อสังเกตดูจากกราฟคะแนน 5 อันดับแรกของผู้ที่ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ในการสำรวจครั้งที่ 1-4 ของปี 2564 จะพบว่า พลเอกประยุทธ์ มีคะแนนลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเมื่อช่วงต้นปี 2564 พลเอกประยุทธ์ ได้ความนิยมอยู่ที่ 28.79% ขณะที่ในช่วงปลายปีกลับเหลือที่ 16.93% เช่นเดียวกับคุณหญิงสุดารัตน์ ที่สามารถคะแนนนิยมได้ถึง 13.64% เมื่อเพือนมิถุนายน แต่ต่อมากลับเหลือเพียง 5.51% ในเดือนธันวาคม

ขณะที่นายพิธา มีคะแนนเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายน 2564 โดยได้คะแนนมา 11.05% แต่ในเดือนธันวาคม คะแนนนิยมกลับลดลงเล็กน้อย โดยลงไปอยู่ที่ 10.74% ซึ่งมีคะแนนมากกว่านางสาวแพทองธาร อยู่เล็กน้อย นั่นคือ 10.55%

เช่นเดียวกับกราฟคะแนน 5 อันดับแรกของพรรคที่ประชาชนสนับสนุน ในการสำรวจครั้งที่ 1-4 ของปี 2564 พบว่าคะแนนของพรรคพลังประชารัฐมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงต้นปี 2564 พรรคพลังประชารัฐ ได้ความนิยมอยู่ที่ 16.65% ขณะที่ในช่วงปลายปีกลับเหลือที่ 8.99% ขณะที่พรรคเพื่อไทย ที่มีคะแนนนิยมลงมาอยู่ที่ 19.48% ในเดือนมิถุนายน แต่หลังจากนั้นก็มีคะแนนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือนธันวาคม มีคะแนนอยู่ที่ 23.52%

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคก้าวไกล ทำคะแนนเพิ่มขึ้นได้ในช่วงระหว่างปี 2564 แต่เมื่อถึงปลายปีก็มีคะแนนหล่นลงเล็กน้อย โดยพรรคก้าวไกลมีคะแนนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนถึงเดือนกันยายน มีคะแนนอยู่ที่ 15.11% แต่ในเดือนธันวาคม กลับมาอยู่ที่ 13.18% ซึ่งต่ำกว่าในช่วงเดือนมีนาคมเล็กน้อย ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9.54% ในเดือนมิถุนายน และลงมาอยู่ที่ 7.15% ในเดือนธันวาคม