ยะลา – “ขนหัวลุก” ข้าราชการยะลา เดินทางไปเที่ยว ผาชูธง จ.เพชรบูรณ์ ใช้ไอโฟน ถ่ายภาพติดวิญญาณปริศนาคล้ายชายแก่ เผยเตรียมทำบุญให้
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 14.30 น. นางกุลธิดา จรัสเกื้อกูลพงศ์ ซึ่งเป็นข้าราชการ ของหน่วยงานแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดยะลา ได้นำภาพถ่ายที่บันทึกได้จากการเดินทางไปเที่ยวที่ ผาชูธง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยภาพดังกล่าว เป็นภาพถ่ายของนางกุลธิดา และเพื่อนรวม 3 คน ที่กำลังสนุกกับการถ่ายภาพ ยืนอยู่บนผาชูธง แต่ภายในภาพนั้น นางกุลธิดา ซึ่งยืนอยู่ที่เสาธง พบว่า มีศีรษะอีก 1 ศีรษะเพิ่มขึ้นมา ในลักษณะตะแคง โดยเห็นใบหน้าชัดเจนคล้ายผู้ชายสูงวัยมีหนวด สวมแว่นตาดำ ผมยาว สร้างความตกใจ ต่อเจ้าของภาพเป็นอย่างมาก
นางกุลธิดา จรัสเกื้อกูลพงศ์ ข้าราชการในพื้นที่จังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ตนเองออกเดินทางจาก กทม.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ไปกับเพื่อน 6 คน วันแรกไปนอนที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ไปถ่ายภาพดาวตก จากนั้นวันที่ 2 ก็ไปที่ภูหินร่องกล้า จริงๆตั้งใจจะไปดูดอกพญาเสือโคร่ง แต่ดอกโรยไปหมดแล้ว ก็เลยไปเที่ยวตามอุทยานต่างๆ เช่น ลานหินปุ่ม และได้จ่ายค่าผ่านทางเรียบร้อย ซึ่งในวันนั้นไปด้วยกัน 8 คน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานนำไป เพื่อบรรยายถึงเรื่องราวต่างๆของภูหินร่องกล้า ในแต่ละจุด เวลาขณะนั้นประมาณ 5 โมงเย็น เพราะตั้งใจกันว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกดิน ในระหว่างทางก็เดินถ่ายภาพกันสนุกสนานตลอดเส้นทาง เนื่องจากทุกคนชื่นชอบการถ่ายภาพ
“จุดที่ถ่ายภาพนี้คือที่ผาชูธง ก็เดินขึ้นบนผานั้น 5 คน รวมมัคคุเทศ เพื่อนที่ถ่ายภาพนี้ได้ เขาใช้มือถือ Iphone7plus ถ่าย ซึ่งหลังจากเขาถ่ายแล้วเขาก็เห็น แต่ก็ไม่ได้ให้ดู และก่อนที่จะขึ้นไปบนผานั้น หลายๆคนก็ยกมือไหว้ขอขมา อนุญาตเจ้าที่ แต่ตนเองด้วยความตื่นเต้นที่จะถ่ายรูป ก็ไม่ได้ยกมือไหว้ขอขมาแต่อย่างใด แต่ก่อนที่จะได้รูปนี้ ตนเองได้นอนลงบนหินเพื่อถ่ายรูปเพื่อน โดยต้องการให้ติดรูปเพื่อนกับเสาธง เพราะที่นี่ชื่อผาชูธง พอถ่ายเสร็จ ตนเองก็ไปยืนที่เสาธง เพื่อจะให้เพื่อถ่ายให้บ้าง เพื่อนที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก็ใช้ไอโฟนถ่าย แล้วก็เป็นรูปดังกล่าว ตนเองได้เห็นรูปนี้หลังบจากที่กลับมาแล้ว โดยเพื่อนที่ถ่ายก็มาเล่าให้ฟัง แต่เขาบอกว่าได้ลบภาพไปแล้ว จึงได้บอกให้เขากู้ภาพกลับขึ้นมาเนื่องจากไอโฟน จะสามารถกู้ภาพคืนได้” นางกุลธิดา
นางกุลธิดา จรัสเกื้อกูลพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า เห็นภาพครั้งแรก ก็คิดว่าน่าจะเป็นจังหวะที่ก้มหน้าแล้วเงยหน้าหรือเปล่า เป็นภาพที่เกิดจากเทคโนโลยี หรือแอฟแต่งภาพ แต่คนที่ถ่ายภาพก็บอกว่าใช้โหมดถ่ายภาพปกติของกล้อง ไม่ได้ใช้แอฟอะไร จากนั้นก็ได้เริ่มพิจารณาจากภาพ พบว่าทำไมเพื่ออีก 2 คนในภาพ ภาพเขาชัด ไม่ได้มีจังหวะเคลื่อนไหวเหมือนตนเอง ก็เริ่มสงสัยและคิดไปว่า คนที่อยู่ในภาพที่บันทึกภาพเอาไว้ได้ เขาคงต้องการให้เราไปทำบุญให้เขา ซึ่งตนเองก็ตั้งใจว่าจะไปทำบุญให้ และคิดว่าคงจะเป็นเรื่องดี ที่จะไปทำบุญให้กับคนที่ล่วงลับไปแล้ว แต่ในใจของตนเองนั้นก็ไม่แน่ใจว่ารูปนี้เป็นเรื่องลี้ลับหรือไม่ แต่เห็นภาพแล้วขนลุกจริงๆ
