นครนายก – ไฟป่านครนายก ยังลุกโชน ลามติดเขานางดำ ปชช.เดือดร้อนหนัก (มีคลิป)

สถานการณ์ไฟป่านครนายก ล่าสุด กระแสลมแรง พัดทำไฟปะทุขึ้นมาอีก ลาม 700 ไร่ คาด อาจไปถึงเขาวังรี เจ้าหน้าที่ป่าพร้อมทหารใช้ทั้งเฮลิคอปเตอร์และเครื่องมือเร่งดับไฟ แต่ไม่เป็นผล ฝุ่น-ควันปลิวเข้าบ้านเรือนประชาชนเดือนร้อนหนัก เชื่อ เกิดจากฝีมือมนุษย์

วันที่ 30 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครนายก ใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน บินสำรวจร่องรอยความเสียหาย ของเหตุไฟไหม้ป่าเขาแหลม ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก เมื่อคืนนี้ โดยตรงจุดบริเวณเขาชะพลูและเขาแหลม หมู่ 11 12 และ หมู่ 13 ต.เขาพระ ได้รับความเสียหายรวมแล้วประมาณ 700 ไร่

ช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังพบกลุ่มควันและเปลวเพลิงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากกระแสลมรุนแรง ทำให้ไฟลามไปติดเขานางดำ และคาดว่าจะกระจายไปที่เขาวังรี เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมวางแผนดับไฟ และปฏิบัติหน้าที่กันอย่างหนักหน่วง และต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดต่อไป

โดยวันนี้ (30 มี.ค.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ส่งเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA-32 จำนวน 1 ลำ มาจาก จ.ลพบุรี ตามคำร้องขอของผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ส่วนกองทัพบกส่งเฮลิคอปเตอร์ MI-17 จำนวน 2 ลำ มาร่วมปฏิบัติภารกิจดับไฟ ซึ่งมาถึงเมื่อเวลา 10.00 น. และเริ่มปฏิบัติภารกิจทันที

ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงและการบินเกษตร ภาคตะวันออก ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงเที่ยวแรกแล้ว เริ่มจากบริเวณ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถึง อ.นาดี จปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายไฟป่า จ.นครนายก

สำหรับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงจุดไฟไหม้นั้น ได้รับความเดือนร้อนกันอย่างหนัก จากปัญหาฝุ่น ควัน เขม่า ที่ปลิวลอยไปตามกระแสลม เข้าตามบ้านเรือนประชาชน อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ อีกทั้งยังมีประชาชนบางส่วน เชื่อว่าการเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ น่าจะเกิดจากฝีมือมนุษย์ มากกว่าเกิดจากภัยธรรมชาติ ชาวบ้านบางคนบอกกับผู้สื่อข่าวว่า สงสารสัตว์ป่ามาก ไม่รู้จะเป็นอย่างไร เพราะบริเวณป่าที่ถูกไฟไหม้นั้น เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์และมีสัตว์ป่าจำนวนมาก

ผู้ว่าฯ นครนายก วอนเข้าใจ ดับไฟป่าสูงชันอันตราย ห่วง จนท.ไม่ปลอดภัย
นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ซึ่งลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และบัญชาการดับไฟป่า ทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ว่า การดับไฟป่าบนเขาสูงชันทำได้ลำบาก โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ไม่สามารถทำงานได้ เพราะอันตรายมาก กำลังพลอาจจะได้รับอันตราย จึงไม่เสี่ยงในการทำงานช่วงกลางคืน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ทำแนวกันไฟ และเฝ้าระวังไม่ให้ไฟลุกลามไปถึงบ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง