ที่นครนายก จากกรณี ผู้ปกครอง โพสทางโซเชียล เหตุลูก ป.5 ถูกครูตี จนช้ำ จนเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วประเทศ ผอ.เรียกชี้แจง ครูรับตีจริง แต่ทำไปเพราะรักเด็ก ผอ.ลงนามว่ากล่าวตักเตือน ทันที
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปหาคุณ การันต์ พุ่มบุญฑริก คุณพ่อของน้องอาชิ ได้เล่าว่า วันเกิดเหตุตนและเพื่อนๆ อีกหลายคนทำการบ้านไม่เสร็จในเวลาเรียน คุณครูเลยเรียกไปตี โดยแต่ละคนโดนจำนวนครั้งไม่เท่ากัน แล้วแต่จำนวนงานที่ทำไม่เสร็จ โดยน้องอาชิโดนทั้งหมด 3 ที ทางคุณพ่อดูจากรอยเขียวช้ำแล้วคาดว่าโดนไม้ขนาดใหญ่ เลยเกิดอารมโมโหจึงได้โพสลงเฟสบุ๊คของตนไป เมื่อโพสไปไม่นานกลับมีผู้ปกครองติดต่อมาหาตนอีกหลายคน ไม่ต่ำกว่า 20 คน ซึ่งได้บอกว่าลูกของตนก็เคยโดนครูท่านนี้ ตีเหมือนกัน จากนั้นตนได้เดินทางไป สภ.เมืองนครนายก เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าว ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ตนไปรับลูกมาจากโรงเรียนเพื่อจะนำตัวไปตรวจร่างกายที่ รพ.นครนายก ตนจึงได้ไปรับลูกชาย แต่เมื่อลูกทราบว่าคุณพ่อจะพาไปหาตำรวจ น้องอาชิได้บอกกับคุณพ่อว่าน้องไม่โอเคร ที่คุณพ่อจะดำเนินคดีกับคุณครูของเค้า คุณพ่อเลยถามลูกว่า เค้าตีหนูแรงมั้ย น้องอาชิตอบว่าแรงเกินไป แต่น้องอาชิก็ผิดเองที่ทำการบ้านไม่ทัน แต่น้องอาชิสงสารคุณครู คุณครูแก่แล้ว จะเกษียณแล้ว ไม่อยากให้ป๊าไปดำเนินคดี กับคุณครู ทางคุณครูได้มาขอโทษแล้ว และร้องไห้สัญญาว่าจะไม่ตีใครอีก คุณพ่อเลยตัดสินใจทำตามที่น้องอาชิขอเนื่องจากไม่อยากให้น้องได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจไปมากกว่านี้ แต่คุณพ่อยังยืนยันที่จะให้ทางโรงเรียนเอาผิดทางวินัยครูท่านนี้ในขั้นสูงสุดเพื่อเป็นบทเรียนไม่ใหัครูท่านนี้ไปทำกับเด็กคนไหนอีก รวมถึงฝากถึงคุณครูท่านอื่นๆที่กำลังกระทำแบบนี้กับเด็กทั่วประเทศทด้วย ว่าหากเป็นลูกท่านโดนกระทำเช่นนี้ท่านจะรู้สึกอย่างไร สมัยนี้มีวิธีทำโทษเด็กเยอะแยะมากมาย ทำไมยังไม่เลิกใช้ความรุนแรงกับเด็กกันอีก
ผู้สื่อข่าวเข้าพบ ดร.จำลอง เลี่ยงศรีเจริญพร ผอ.รร.อนุบาลนครนายก เพื่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าว โดย ผอ.ได้ให้ข้อมูลว่า หลังจากได้ทราบเหตุการณ์ ก็ได้ให้คุณครูคนดังกล่าว ทำหนังสือชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางคุณครูได้กล่าวว่า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ทาง โรงเรียนกำลังเก็บคะแนน จึงเข้มงวดในการการสอนเป็นพิเศษ โดยวันเกิดเหตุทางครูได้ยอมรับว่าได้ตีเด็กจริงจำนวน 3 ครั้ง และขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ได้ทำโทษรุนแรงเกินไป ซึ่งทาง ผอ. ได้กล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำหนังสือว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว และทางโรงเรียนให้ความเชื่อมั่นว่าจะหาแนวทางแก้ไขให้เข้มงวดกับทางการเรียนการสอนให้มากกว่านี้ โดยทางโรงเรียนนั้นไม่มีนโยบายในการลงโทษเด็กนักเรียน โดยการแตะเนื้อต้องตัวเด็กอยู่แล้ว และทางโรงเรียนต้องขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกและทาง ผอ.มีการสั่งการให้ครูหัวหน้าระดับชั้นให้คอยติดตาม อาการของเด็กอย่างใกล้ชิด ทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ โดยพร้อมจะให้การช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลเด็กอย่างเต็มที่
เมื่อผู้สื่อข่าวได้ขอทาง ผอ.คุยกับครูผู้ก่อเหตุ ทางผอ.ได้ให้อนุญาต และเรียกครูมาพูดคุย โดยทางครูกล่าวว่า ตนรักลูกศิษทุกคน และสิ่งที่ทำไป เพราะความรัก ไม่มีความเกลียดชังลูกศิษแน่นอน และยอมรับว่าตนได้กระทำรุนแรงเกินไป ต้องขอโทษผู้ปกครอง และสังคมด้วย โดยหลังจากนี้จะดูแลเอาใจใส่เด็กให้ดีไม่มีการกลั่นแกล้งเรื่องคะแนนเด็กแน่นอน และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก.
