ที่นครนายก จากกรณี ผู้เสียหายร้องสื่อ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 65 ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. พระคู่กรณีเป็นพระวัดท่าชัยได้เข้ามาซื้อของในร้าน ซึ่งตอนนั้นสามีของตนได้เป็นคนขายอยู่ที่หน้าร้านเมื่อพระได้เลือกของเสร็จก็ได้โยนเงินให้สามีของตน ซึ่งสามีตนก็ได้ถามพระว่าทำไมโยนเงินแบบนี้ ระหว่างนั้นตนเองได้เดินผ่านออกมาที่หน้าร้าน พระองค์ดังกล่าวได้หันมาพูดว่า “อยากกินโค้กฟรีจัง” ซึ่ง ตนนั้นใส่ผ้ากันเปื้อนลายเครื่องดื่มโค้กอยู่ ซึ่งสามีตน ได้ยินและรู้สึกไม่พอใจที่พระได้มีกริยาไม่สำรวมแบบนี้ จึงได้ว่ากล่าวพระคู่กรณีไป หลังจากนั้นพระคู่กรณีจึงเกิดความไม่พอใจ และได้เข้ามาชกต่อยกับสามีของตนจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ปากแตก ฟันโยก เลือดไหลออกทางจมูก
คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดท่าชัย เนื่องจากชาวบ้านกว่า 30 คน รวมตัวกันเข้าสอบถามกับเจ้าอาวาส ถึงกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว พร้อมทั้งมีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวอีก 3-4 ราย เดินทางมาเป็นพยาน เนื่องจากเคยโดนพระองค์นี้เคยกระทำเช่นนี้เหมือนกัน จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พบกับพระองค์ดังกล่าว ชื่อพระวิสูตร สุวฑโฒ เป็นพระลูกวัดท่าชัย ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก พระวิสูตรฯ ได้บวชมา 25 พรรษา แล้ว แต่เพิ่งมาจำวัดอยู่ที่วัดท่าชัยเพียงแค่ 4 พรรษา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พระวิสูตรฯ ได้ปฏิเสธทุกอย่างว่าไม่เป็นความจริง จนกระทั่งพระครูศีลนันทโสภณ เจ้าคณะตำบลหินตั้ง และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางมาถึง จึงได้สอบถามอีกครั้งจนพระวิสูตรฯ ได้ยอมรับผิดทุกอย่าง และขอโทษชาวบ้านทุกคนที่ทำพฤติกรรมไม่ดีเช่นนี้
ชาวบ้านจึงเรียกร้องให้สึกพระวิสูตรฯ เนื่องจากเกรงว่าหากให้เพียงย้ายวัดไปก็อาจจะไปทำแบบนี้ที่อื่นอีก เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ทราบถึงพฤติกรรมไม่ดีของพระวิสูตรฯ มานานแล้ว ทั้งนี้ชาวบ้านฝากผู้สื่อข่าวว่า ขอให้ประชาชนเข้าใจด้วยชาวบ้านไม่เคยมีเรื่องหรือมีปัญหาเรื่องอื่นๆ กับพระวิสูตรฯ มาก่อนหน้านี้ แต่ที่ต้องเรียกร้องให้สึกเพราะไม่อยากให้พระพุทธศาสนาต้องเสื่อมเสีย หลังจากพระวิสูตรฯ ได้รับสารภาพทั้งหมดและขอโทษชาวบ้านแล้ว พระครูศีลนันทโสภณ เจ้าคณะตำบลหินตั้ง จึงมีมติให้สึกพระวิสูตรฯ โดยที่พระวิสูตรฯ ยินยอมสึกแต่โดยดี เมื่อเวลา 11.00 น. ในส่วนทางด้านคดีความผู้เสียหายยืนยันยังดำเนินคดีอยู่ให้ถึงที่สุด.
