สามหนุ่มหัวร้อนรุมต่อยพนักงานร้านทำป้าย ภายในซอยด่านสำโรง 2 ล่าสุดย่องเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ให้การอ้างว่าเข้าใจผิดคิดว่าหาเรื่อง
จากกรณีเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 ตุลาคม 2562 เวลาประมาณ 5 ทุ่มได้มีชายวัยรุ่นประมาณ 5-6 คนกำลังรุมทำร้ายชายนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนริมบริษัท วันไลฟ์ กราฟิก จำกัด เลขที่ 522 / 12 ซ.ด่านสำโรง 2 ม.5 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จนชายคนดังกล่าวต้องยกมือไหว้ขอโทษและร้องขอชีวิต และมีเพื่อนของผู้ถูกทำร้ายเข้ามาช่วยห้าม แต่ก็ถูกชกเข้าที่ใบหน้าด้วย ทั้งประเคนใส่ทั้งหมัดและเข่าอีกนับสิบครั้ง จนหนำใจก่อนที่ชายวัยรุ่นทั้งหมดจะพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป กระทั่งได้มีการแชร์ภาพไปตามเพจต่าง ๆ จนมีคนเข้าไปวิพากย์วิจารณ์ถึงความป่าเถื่อนของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว แม้ทางฝ่ายที่ถูกทำร้ายจะยกมือไหว้แล้วก็ตามคามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.ของวันนี้ที่ 15 ตุลาคม 2562 นายจิตติชัย วาทิน อายุ 28 ปี และนายธีรยุทธ์ วาทิน อายุ 36 ปี นายคัดคเณศ แววสูงเนิน อายุ 20 ปี สามผู้ก่อเหตุที่ปรากฎในคลิป ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชาตรี รัตนคช ผกก.สอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยนายธีรยุทธ์ผู้ก่อเหตุ ได้กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุตนกลับเข้ามาที่ออฟฟิศ ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุและเดินไปหยิบบุหรี่ที่บริเวณลานจอดรถ โดยได้เดินผ่านกลุ่มของนายพงศกร ผู้บาดเจ็บที่กำลังนั่งดื่มสุราอยู่บริเวณหน้าบริษัท ระหว่างนั้นตนได้ยินเสียงขวดแตก ตนจึงได้หันมาดูแต่จังหวะที่นั้นหนึ่งในกลุ่มที่นั่งดื่มสุราอยู่ได้หันมามองหน้าตนและทำท่าทีในลักษณะท้าทาย ตนจึงได้ไปขี่รถจักรยานยนต์ไปเรียกนายจิตติชัย และพรรคพวกมาที่เกิดเหตุ และเข้าไปสอบถามหาคนที่มองหน้าตน แต่กลุ่มผู้บาดเจ็บก็ไม่ได้บอกอะไร ตนจึงได้ตนจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ด้วยความข้องใจตนและพวกจึงได้ขี่รถย้อนกลับมายังที่เกิดเหตุอีก เมื่อไปถึงนายจิตติชัย ผู้ร่วมก่อเหตุคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ประกอบกับในอาการเมาสุราจึงได้เข้าไปชกต่อยกลุ้มผู้เสียหายตามคลิปที่ปรากฎ กระทั่งวันนี้ได้ตัดสินใจเข้าพบตำรวจและต้องการจะมาขอโทษผู้เสียหาย เนื่องจากพวกตนทำลงไปเป็นเพราะเข้าใจผิดว่ากลุ่มผู้เสียหายหาเรื่องโดยทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบจริง ๆ และยอมรับผิดทุกอย่าง พร้อมทั้งมอบเงินเยี่ยวยาให้แก่ผู้บาดเจ็บคนละ 9 พันบาทโดยแบ่งจ่ายเป็น 2 งวดงวดแรกจ่ายคนละ 4 พันบาท และสิ้นเดือนจ่ายให้อีกคนละ 5 พัน
ทางด้านนายพงศกร ผู้บาดเจ็บได้กล่าวว่า สำหรับตนยอมรับว่าหลังเกิดเรื่อง ตนก็ยังหวาดกลัวอยู่เนื่องจากเกรงว่าทางกลุ่มนายจิตติชัย จะกลับมาทำร้ายอีก และยืนยันว่าระหว่างดื่มสุราอยู่กับเพื่อนนั้นขวดได้ล้มและตกลงพื้นจริง ๆ ไม่ได้มีเจตนาจะหาเรื่องแต่อย่างใด จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดกัน และตนยินดีจบเรื่องและน้อมรับคำขอโทษจากคู่กรณีและก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรกับผู้ก่อเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุทั้งสามว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ก่อนปล่อยตัวชั่วคราว รอส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
