หนุ่มแต่งชุดไปรษณีย์ไทยเดินถือกล้องไปรษณีย์ทำทีมาส่งของ ก่อนควักปืนจี้ชิงทรัพย์ห้างทอง กลางห้างไทยวัสดุย่านบางแก้ว ก่อนขับรถไปรษณีย์หลบหนี ทิ้งกล่องไปรษณีย์ปริศนาไว้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 กันยายน 2562 ร.ต.อ.สมเกียรติ นาเจริญ รองสารวัตรเวร สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน จี้ชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำ ภายในห้างเพชรทองออโรร่า ซึ่งตั้งอยู่ในร้านไทยวัสดุ สาขาบางแก้ว ถนนบางนาตราดขาดเข้าหลักกิโลเมตรที่ 8 หมู 13 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบ
ห้างทองที่เกิดเหตุตั้งอยู่ภายในร้านไทยวัสดุ และเป็นร้านทองที่พึ่งเปิดได้ไม่นาน ได้พบพนักงานสาวออกมายืนจับกุ่มกันอยู่หน้าร้านด้วยอาการตื่นตระหนก ที่บริเวณตู้โชว์ทองด้านหน้าร้านมีกล่องพัสดุของไปรษณีย์ไทยวางอยู่ซึ่งเป็นกล่องที่คนร้ายอ้างว่ามีระเบิดอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่จึงได้กันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกหางจากที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ มาร่วมตรวจสอบที่เกิดแหตุ
จากการสอบถาม น.ส.ศิริรักษ์ รุ่งโรจน์ศรีสง่า พนักงานห้างทองดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายเป็นชายแต่งกายในชุดของไปรษณีย์ไทยสีส้มน้ำเงิน ใส่กันน๊อกแบบเต็มใบสีแดงคาดขาวตรงกลาง สวมถุงมือสีดำ ได้ถือกล่องทำที่เดินเข้าที่หน้าร้านก่อนที่จะวางกล่องดังกล่าวไว้บนตู้โชว์ด้านหน้าพร้อมทั้งบอกกับพนักงานของร้านว่าในกล่องมีระเบิด พร้อมทั้งชักอาวุธปืนไม่ทราบขนาดแบบแม็กกาซีนออกมาจี้ที่เอวของพนักงานคนดังกล่าวพร้อมทั้งบอกให้พนักงานคนดังกล่าวกวาดสร้อยทองใส่ถุงบิ๊กซี ที่คนร้ายเตรียมมา ด้วยความกลัวพนักงานจึงได้หันไปที่ตู้โชว์ด้านหลังแล้วใช้มือกวาดสร้อยคอทองคำหนักเส้นละ 2 สลึงจำนวน 5 เส้นและเส้นละ 1 สลึงจำนวน 4 เส้นรวม 9 เส้นใส่ถุงพลาสติกให้คนร้ายไป ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งออกไปนอกร้านไทยวัสดุ ไปขึ้นรถยนต์กระบะตู้ทึบของบริษัทไปรษณีย์ไทย ที่จอดไว้ด้านหน้าหลบหนีไป จากการตรวจสอบพบว่าสร้อยคอทองคำที่คนร้ายได้ไปน้ำหนักรวม 3 บาท 50 สตางค์ มูลค่าร่วมกว่า 7 หมื่นบาท และจากการตรวจสอบทราบว่ารถที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะเป็นรถยนต์ตู้ ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาวคาดแดง ทะเบียน 1 ฒน 150 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของบริษัท ไปรษณีย์ไทย และจากการตรวจสอบทราบว่ารถยนต์ตู้คันดังกล่าวประจำอยู่ที่ ไปรษณีย์ไทย สาขาหลังวัดหนามแดง
เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยภายในกล่องดังกล่าว พบว่าเป็นวัตถุที่มีน้ำหนักและมีสายไฟต่อออกมาภายในนอกจำนวนหลายเส้น เจ้าหน้าที่ อีโอดี จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายกล่องไปรษณีย์ดังกล่าวออกไปที่ลานจอดรถด้านหลังของร้านไทยวัสดุ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอาคารด้านหน้าประมาณ 300 เมตร และนำยางรถยนต์เก่าจำนวน 5 เส้นมาวางล้อมกล่องดังกล่าวเอาไว้ ก่อนทำการเก็บกู้วัตถุดังกล่าว หลังทำการเปิดกล่องได้พบว่าภายในมีก้อนหินขนาดใหญ่อย่าภายในและเจาะรูที่กลางก้อนเอาสายไฟเสียบคาเอาไว้เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงได้ทำการเก็บรายนิ้วมือของคนร้ายเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า คนร้ายที่มาก่อเหตุน่าจะทำงานอยู่บริษัทไปรษณีย์ไทย จริงและน่าจะเข้ามาดูลาดเลาก่อนหน้าแล้วรอจังหวะสบโอกาส จึงได้ลงมือก่อเหตุ โดยใช้กล่องไปรษณีย์ใส่ก้อนหินและเจาะรูเสียบสายไฟเพื่อตกตาเจ้าหน้าและถ่วงเวลา นำมาวางขู่พนักงานห้างทองดังกล่าว และใช้อาวุธปืนจี้บังคับ พนักว่านในหยิบสร้อยทองให้ก่อนที่จะขับรถตู้ของบริษัทไปรษณีย์ หลบหนีไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบกล่องวงจรปิดเพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
