หนุ่มนามสกุลดัง เมาทำร้ายร่างกายนักข่าวบนโรงพัก แล้วอาศัยจังหวะช่วงชุลมุนหลบหนีไปจากโรงพัก เข้ามอบตัวแล้ว ชายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากอยู่ในอาการมึนเมาจนขาดสติ ทำไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ และยอมขอโทษพร้อมจับมือกับนักข่าวที่ถูกตบเข้าที่หน้าอกอย่างแรง
จากข้อความจากเพจ ข่าวปราการนิวส์ ได้โพสต์คลิปและข้อความว่า เมื่อคืนกลางดึกที่ ถนนเทพารักษ์ พื้นที่โรงพัก สำโรงเหนือ มีชายวัยกลางคน **นามสกุลดัง** ขับรถมาเจอด่านตำรวจตรวจแอลกอฮอล์ แต่ไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ และยังได้แสดงอำนาจบาตรใหญ่ คุยโตว่ารู้จักคนนั้นคนนี้มีอำนาจบารมีเยอะ พอตำรวจไม่ทันระวังก็ใช้ ”หมัดชก” ไปที่บริเวณใบหน้าของตำรวจ พอนักข่าวรู้ข่าวจึงตามไปทำข่าวที่โรงพัก ท่านผู้มีอำนาจท่านนั้น ไม่พอใจที่นักข่าวมาทำข่าว จึงชี้นิ้วด่าและใช้มือตบทำร้ายร่างกายนักข่าวต่อหน้าตำรวจ ที่อยู่ในโรงพักเป็นสิบนาย ขนาดนักข่าวยังโดนทำร้ายเลย แล้วชาวบ้านตาดำๆ รอดหรือนี้ ยุคนี้ยุคอะไรนี้ ทำไมคนใหญ่คนโตอยู่เหนือกฎหมายเยอะจัง !!** แต่สาระสำคัญคือพอตำรวจเผลอผู้มีอำนาจบารมีท่านนั้นได้หลบหนีไปจากโรงพักไป สรุปนักข่าวต้องเจ็บตัวฟรีใช้ไหม ขนาดนักข่าวเป็นสื่อมวลชนยังโดนทำร้าย แล้วชาวบ้านคนธรรมดา นามสกุลไม่ดัง จะโดนรังแกขนาดไหนนี้ โธ่ๆๆประเทศไทย**!!
จากเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 9 สิงหาคม 2562 นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ชายที่ก่อเหตุ ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.ท.มงคล พฤกษชาติ รองผู้กำกับสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ หลังจากที่เมื่อคืนได้อาศัยจังหวะช่วงชุลมุน ที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สอบปากคำหรือบันทึกปากคำแต่อย่างไรชายคนดังกล่าว ได้ทำที่ขอเข้าห้องน้ำก่อนที่จะหายตัวไป โดยชายผู้ก่อเหตุได้ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากอยู่ในอาการมึนเมา และยอมขอโทษนายพงษ์ศักดิ์ สุกสิ หรือยอมสำโรง ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นจังหวัดสมุทรปราการ ที่ถูกชายคนดังกล่าวใช้มือตบเข้าที่หน้าอกอย่างแรง และนายพงษ์ศักดิ์ ได้แจ้งความร้องทุกข์เอาไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้หลังจากที่ถูกกระทำ
โดยนายเอ ได้ให้การยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ตนยอมรับว่าตนผิดที่ว่าได้มีการกระทบกระทั่งกับพี่น้องสื่อมวลชนแต่ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้าย แต่อย่างไรก็ต้องขอโทษทุกท่านด้วย เหตุผลที่ตนเอามือแตะต้องน้องผู้สื่อข่าว เพราะว่าเหมือนคนไทยด้วยกันคุยกัน คือตอนนี้พี่กำลังเจอปัญหาหนักอยู่ และก็ยอมรับว่าตอนที่กระทำตนเองอยู่ในอาการมึนเมาก็เลยขาดสติ ทำไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ จากการที่นานเอ ยอมขอโทษทำให้นายพงษ์ศักดิ์ หรือยอดสำโรง ยอมยกโทษให้และไม่ติดใจเอาความใดๆ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวว่า ทำร้ายร่างกายไม่เป็นอันตรายถึงกายและจิตใจ และจากการสอบถามนายพงษ์ศักดิ์ ผู้เสียหายยินยอมให้ทำการเปรียบเทียบปรับ ส่วนในเรื่องการขัดขวางการปฏิบัติหน้าของเจ้าพนักงานนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการแยกดำเนินคดีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
