X

ดาบตำรวจประเวศฉุนขาดถูกบริษัทเดินรถเรียกคืนสัมปทานชักปืนยิงหัวผู้จัดการและนายท่าดับคาบริษัท

ดาบตำรวจเลือดร้อนเจรจาเคลียร์ปัญหาธุรกิจรถร่วมเอกชนสายปากน้ำราม 2 ไม่ลงตัว ชักปืนจ่อยิงผู้จัดการบริษัทลูกอดีตนักการเมืองท้องถิ่นและนายท่าดับดับคาบริษัทเดินรถชื่อดังย่านปากน้ำ

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 ร.ต.อ.ตรีเนตร นันทกรพิทักษ์ รองสารวัตรสอบสวน  สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีชายถูกยิงเสียชีวิตภายในสำนักงานบริษัทเทียนทองขนส่งจำกัด เลขที่ 59/1 ซอยนิทราสวรรณ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ต่อพงษ์ ตันตระวาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทองผกก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.ท.ธงรพ แจ้งจิต รอง ผกก.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ด้านข้างเปิดเป็นอู่รถร่วมเอกชน สาย 1141 ที่วิ่งระหว่าง ปากน้ำ-ศรีเอี่ยม ราม 2 เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่  ที่เกิดเหตุอยู่ภายในสำนักงานชั้นล่างของตัวอาคาร ภายในสำนักงานบริเวณโต๊ะรับแขกได้พบศพนาย สิริศักดิ์ เทียนสุวรรณ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็น ผจก.บริษัทเทียนทองขนส่ง จำกัด และเป็นลูกชายนายสมัคร  เทียนสุวรรณ อายุ 84 ปี อดีต สจ.สมุทรปราการ  นอนหงายจมกองเลือดอยู่กับพื้น สภาพสวมเสื้อยืด สีน้ำเงิน กางเกงขายาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ไม่ทราบขนาดเข้าที่ บริเวณศีรษะ 2 นัด และ ศพนายวันชัย อรุณสินธาราอายุ 56 ปี ซึ่งทำงานเป็นนายท่าของบริษัทดังกล่าวประจำอยู่ที่ท่ารถสวนหลวง  นั่งอยู่ที่บนเก้าอี้ในสภาพเลือดท่วมตัวแดงฉาน สวมเสื้อสีแดง ทับด้วยสูตสีขาว กางเกงขายาวสีดำ พลิกศพ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณศีรษะจำนวน 2 นัดเช่นกัน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำอยู่ ที่ สน.ประเวศ ชื่อ ด.ต.ดำรงฤทธิ์ จิตรไทย  อายุ 51 ปี ผบ.หมู่งานจราจร สน.ประเวศ หลังก่อเหตุ ได้ขับรถกระบะ 4 ประตู สีบรอนทอง หลบหนีไป

จากการสอบสวน น.ส.มัลลิกา เทียนสุวรรณ อายุ 42 ปี พี่สาว ผู้ตาย กล่าวว่า บริษัท เทียนทอง ประกอบธุรกิจ เดินรถ เอกชน สาย ปากน้ำ-ราม 2 มากว่า 40 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาขอร่วมธุรกิจ เดินรถด้วย เมื่อประมาณเดือนกันยายนปีที่ผ่านมาโดยได้นำรถสองแถวมาร่วมทั้งหมด 20 คัน ซึ่งที่ผ่านมา ด.ต.ดำรงฤทธ์  ได้ค้างค่าเบอร์รถ ที่เข้ามาร่วมสัมปทาน ซึ่งจ่ายงวดแรก 10 คัน เป็น เงิน 250.000 บาท ผู้ตายและตนไปทวงถามก็จะถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด กระทั้งวันนี้ตนและผู้ตายเดินทางไปที่ท่ารถราม 2 เพื่อทวงถามและพูดคุยกับ ด.ต.ดำรงฤทธิ์  ว่าถ้าหากไม่พร้อมทางตนและผู้ตายเข้ามาบริหารเอง พร้อมกับได้ทวงค่าเบอร์รถที่ติดค้างอยู่ ด.ต.ดำรงฤทธิ์  จึงนัดหมายให้มาพูดคุยกันที่บริษัท จนกระทั่ง 14.30 น. .ด.ต.ดำรงฤทธิ์  ผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาที่สำนักงานระหว่างที่พูดคุยกัน ก็ยังปกติดีทุกอย่าง กระทั่งช่วง 17.00 น.ตนจึงได้ขอตัวกลับบ้านก่อนโดยมีน้องชาย และนายท่า นั่งพูดคุยอยู่กับผู้ก่อเหตุ  3 คน กระทั้งเวลาผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คนงานได้โทรมาบอกว่าด.ต.ดำรงฤทธิ์  ใช้อาวุธยิงน้องชายตนและนายท่าเสียชีวิต ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไป  จึงได้รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ

ขณะเดี่ยวกันในเวลา 19.00 น.ทราบว่า ด.ต.ดำรงฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะเดินทางไปมอบตัว ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยอาวุธปืนขนาดขนาด ออโตเมติก 380 ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ พ.ต.อ.ต่อพงษ์  ตันตระวาณิชย์  ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ด.ต.ดำรงฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุที่เข้ามอบตัวในครั้งอยู่   ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีนายตำรวจทานใดออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับดาบตำรวจ ที่ก่อเหตุแต่อย่างไร

ทางด้าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ กล่าวว่า สำหรับปมก่อเหตุนั้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุได้เข้ามาเจรจาเรื่องธุรกิจเดินรถเอกชน กับ ผู้ตายทั้งสองคนที่ ออฟฟิศ และผู้ก่อเหตุได้ค้างเงินร่วมสัมปทาน กับ บริษัท ซึ่งระหว่างเจรจา น่าจะตกลงกันไม่ได้ ก่อนที่ ด.ต.ดำรงฤทธิ์ จะลงมือก่อเหตุ ดังกล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน