พ่อแห่ศพลูกชายทวงถามความรับผิดชอบการตายหลังถูกรถชนแค่ขาหักแต่เสียชีวิต

นายสนทยา สุภานิช   พร้อมนายรณณรงค์  แก้วเพ็ชร์ ทนายความและญาติ ร่วมกันแห่ศพลูกชาย ถือป้ายทวงถามความรับผิดชอบหลังเข้ารับการรักษาการเหตุรถชน แต่กลับเสียชีวิต

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 30 มกราคม 2561 นายสนทยา สุภานิช   พร้อมนายรณณรงค์  แก้วเพ็ชร์ ทนายความและญาติ  ได้ร่วมกันแห่ศพนายอัครชัย สุภานิช อายุ 24 ปี ผู้เสียชีวิตจากที่เกิดอุบัติถูกรถแท็กซี่ชนจนขาหัก และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลปิยะมินทร์ จังหวัดสมุทรปราการ และเสียชีวิตลงในขณะที่ให้ดมยาสลบเพื่อผ่าตัด แต่นายอัครชัย เกิดการช็อค และเสียชีวิต โดยแพทย์ระบุว่าผู้ตายเสียเลือดมาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ขณะที่บิดาของผู้ตายข้องใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย  เก็บศพไว้นานกว่า 6 เดือน รอคำตอบที่โรงพยาบาลจะชี้แจง แต่ยังไม่เคยได้รับคำตอบ จึงปรึกษาทนายความก่อนแห่ศพถามหาความรับผิดชอบ พร้อมสู้เพื่อความเป็นธรรมของลูกชาย

โดยนายสนทยา บิดาของนายอัครชัย ผู้ตายได้ใช้รถกระบะแห่ศพนายอัครชัย  บุตรชายเดินทางจากจังหวัดชัยนาท เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้บริหารโรงพยาบาลปิยะมินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนบางนา-ตราด ขาเข้าหลักกิโลเมตรที่  6  ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมคลิปเสียงขณะแพทย์ผู้ทำการรักษากำลังคุยกับพยาบาล เกี่ยวกับอาการของลูกชาย ว่าความดันต่ำ และพูดถึงการให้ดมยาสลบ ระหว่างผ่าตัดไม่มีแพทย์วิสัญญีประจำอยู่ ปล่อยให้พยาบาลดูแลคนเดียว พอความดันต่ำพยาบาลโทรศัพท์ไปถามแพทย์วิสัญญี ได้ให้ยากระตุ้นหัวใจ ทำให้พ่อของผู้ตายข้องใจว่านี่เป็นสาเหตุทำให้ลูกชายต้องเสียชีวิตหรือไม่ หลังลูกชายเสียชีวิต แพทย์บอกว่ารักษาเต็มที่แล้ว แต่อาจเกิดสภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ทางโรงพยาบาลจึงลดราคาค่ารักษาจาก 380,000 บาท เหลือ 100,000 บาท  จากนั้นโรงพยาบาลก็ไม่เคยชี้แจงอะไรเลย

ทางครอบครัวได้นำศพของลูกชายกลับบ้านเกิดที่จังหวัดชัยนาท เก็บศพไว้นาน 6 เดือน และได้ส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พบการเสียชีวิตเกิดจากการเสียโลหิตมาก บาดเจ็บช่องท้อง และขาซ้าย  ขณะที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากหัวใจล้มเหลว เนื่องจากหัวใจขาดเลือด จึงสงสัยว่าเกิดจากการรักษาที่ผิดพลาดหรือไม่  ลูกชายจะเสียเลือดมากจนเสียชีวิตได้อย่างไร ก่อนผ่าตัดเกือบชั่วโมงลูกชายยังพูดคุยได้ตามปกติ แต่หลังผ่าตัด 3-4 ชั่วโมง กลับมีอาการช็อคเสียชีวิต วันนี้ทางครอบครัวพร้อมด้วยทนายความนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม จะนำศพลูกชายแห่ไปหน้าโรงพยาบาล เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้บริหารโรงพยาบาล ให้ชี้แจงและทวงหาความรับผิดชอบ

โดยมีผู้อำนวยการโรงพยาบาล ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ออกมารับเรื่องเอาไว้และจะนำเรื่องเข้าหารือกับผู้บริหารโรงพยาบาลและจะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุด  ทางนายสนทยาก็ กล่าวว่าทางโรงพยาบาลจะนำเรื่องเข้าหารือและจะสอบถามนายแพทย์ที่รักษาผู้ตาย ก็พอใจในระดับหนึ่ง