X

ไล่ล่าระทึกไอ้เณรปล้นปืนค่ายทหาร M 16 จี้หัวชิงรถเก๋งหลบหนี

ไล่ล่าระทึกไอ้เณรปล้นปืนค่ายทหาร M 16 จี้หัวชิงรถเก๋งหลบหนี หลังถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้พร้อมแฟนสาว ให้การ อ้างว่าที่ก่อเหตุชิงปืน M 16 มีเหตุผลส่วนตัวและปฎิเสธข้อหา

เมื่อเวลา 09.00 น,วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562  ร.ต.อ.นิรันกร์  สวัสดิ์ศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง  สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เก่งไล่ชนรถชาวบ้านได้รับความเสียหายจำนวนหลายคัน ที่ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 39 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และรถคันที่ก่อเหตุได้ขับหลบหนีมาเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 70  ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยขับชนรถชาวบ้านได้รับความเสียอักหลายคันเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะหลบหนีเข้ามาในโรงแรมแรมริมน้ำ โฮเทล เลขที 78 / 61 หมู่ 14  ต.บางครุ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 7 ขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตามมา หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย  พ.ต.อ.สุธิโรจน์  ไกรวิชิรสิทธ์  ผกก.สภ พระประแดง  จังหวัดสมุทรปราการ   พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่บริเวณชั้นสองของโรงแรมดังกล่าวที่บริเวณหน้าห้องเลขที่ 217  ได้พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ นิสสัน มาส สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พุ่งชนอัดติดอยู่กันคอมเพสเซอร์เครื่องทำความเย็นในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน ตรวจสอบภายในรถไม่พบว่ามีใครอยู่ จากการสอบถามทราบว่ารถคันดังกล่าวมีชายหญิงคู่หนึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าวมา หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีโดยการปีนหลังคาลงมาจากชั้นสองลงมาชั้นล่างก่อนวิ่งหลบหนีข้ามสะพานมายังตลาดน้ำคลองขุดเจ้าเมือง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนวิ่งหลบหนีไปตามสันเขื่อนริมคลองมุ่งหน้าไปทางไปทางคลองควายก่อนที่จะกระโดดน้ำว่ายหลบหนีเข้าป่าหญ้าซึ่งมีพื้นที่กว้างกว่า 20 ไร่ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 7 ที่ไล่ติดตามมาทราบว่าผู้ที่ขับรถคันดังกล่าวมาเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม ในข้อหาชิ่งทรัพย์ของทางราชการ (อาวุธปืน) ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดปฐม และใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์รถยนต์คันดังกล่าวมาจากกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ชื่อนายบรรณ์กรชัยวัฒ  เพชรมงคลสุข อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่  1/1 หมู่ 7 ต.กระตืบ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และเป็นทหารเกณฑ์ สังกัดการบินกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ก่อนขับหลบหนีมา โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 7 ไล่ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด

หลังจากนั้น พล.ต.ต.ธรรมนูญ  ไตรทิพพงษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้สั่งการณ์ให้ชุดปฎิบัติการพิเศษพร้อมอาวุธครบมือและกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองจำนวนกว่า 50 นาย ออกไล่ล่าทั้งทางน้ำและทางบก จนถึงขณะนี้ยังไร้วี่แวว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษฉลามขาวของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมอาวุธครบมือ ได้ลงเรือร่องไปตามลำคลองขุดเจ้าเมือง และคลองควายโดยแบ่งกำลังออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งในได้ใช้ทางบกโดยการเดินลุยป่าเข้าไป และอีกส่วนหนึ่งใช้เรือร่องไปตามลำคลองที่เชื่อมต่อกันหลายสายที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี และพบร่องลอยของคนร้ายโดยเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากชาวบ้านในชุมชนคลองควายว่าพบเห็นชายต้องสงสัยที่เขามาสอบถามว่าตำรวจไปหรือยังก่อนที่จะหลบหนีด้วยการเดินเท้าซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างแกะรอยของคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิด

จนกระทั่งเวลา 18.00 น.ของวันเดียวกันเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายบรรณ์กรชัยวัฒ  ผู้ต้องหาและนางสาวดาว อายุ 16 ปี ชาวไทยใหญ่ผู้เป็นภรรยาได้ในขณะหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าต้นหวาย ริมคลองควาย  ท้ายซอย ประชาอุทิศ 69 ชุมชนดารีชัน แขวงและเขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ห่างจากโรงแรมริมน้ำโฮเทล  ที่จอดรถทิ้งไว้ประมาณเกือบ 2 กิโลแต่ไม่พบอาวุธปืน M 16 ที่นายบรรณ์กรชัยวัฒ   นำติดตัวมาด้วยขณะหลบหนี จากการสอบถามนาย บรรณ์กรชัยวัฒ   ได้ให้การว่าได้โยนปืนกระบอกดังกล่าวทิ้งลงน้ำภายในคลองขุดเจ้าเมือง ห่างจากโรงแรมที่จอดรถทิ้งไว้ประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้พาตัวนายบรรณ์กรชัยวัฒ   มาชี้ยืนยันจุดที่โยนปืนทิ้งก่อนให้เจ้าหน้าที่ลงไปงมหาอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมงจึงพบปืนกระบอกดังกล่าวซึ่งภายในรังเพลิงยังมากระสุนบรรจุอยู่จำนวน 12 นัด ก่อนคุมตัวทั้งสองพร้อมอาวุธปืนมาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.พระประแดง สมุทรปราการ พื้นที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวน นาย บรรณ์กรชัยวัฒ  และนางสาวดาว อายุ 16 ปี แฟนสาวชาวไทยใหญ่ ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์อาวุธปืนออกมาจากโรงเรียนการบินกำแพงแสนจริง และใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์รถยนต์คันดังกล่าวมาจริงโดยเดินถือปืนกระบอกดังกล่าวเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายก่อนใช้ปืนจี้เอารถยนต์คันดังกล่าวมา ซึ่งตอนแรกไม่คิดว่าจะก่อเหตุชิงเอารถคันดังกล่าวมาแต่อย่างไร แต่ด้วยแรงกดดันที่ถูกเจ้านายในโรงเรียนการบินติดตามมาเพื่อที่จะเอาปืนคืน คันว่าตนจะขีรถจักรยานยนต์หลบหนีมันก็กะไรอยู่จึงได้ใช้อาวุธปืนเข้าไปจี้ชิงเอารถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมา ตนกะว่าจะพาแฟนสาวมาเที่ยวให้มีความสุขเท่านั้นแต่ตนขับรถหลงเข้ามาในกรุงเทพและขับรถไปชนท้ายรถบัสก่อน แต่ด้วยตนเองมีปืนอยู่ในรถจึงตัดสินใจที่จะไม่ลงไปคุยกับคนขับรถบัส ประกอบกับมีตำรวจไล่ติดตามมา ตนจึงตันสินใจขับหลบหนีมาและชนรถอีกหลายคัน เพราะตนไม่รู้เส้นทางก่อนที่จะขับเข้ามามาในซอยที่โรงแรมดังกล่าวตั้งอยู่ แต่ก็ถูกรถจักรยานยนต์รับจ้างไล่ติดตามมาตนจึงยิงปืนไป  3 นัดเพื่อขู่ไม่ให้มายุ่งกับตน เพราะตนไม่ได้ตั้งใจที่จะยิงใคร ตนผ่านการฝึกมาถ้าจะยิงจริง ๆ ตายแน่ ๆ ตนจึงขอปฎิเสทในข้อหาพยายามฆ่า ส่วนแรงจูงใจที่ตนต้องชิงปืน M 16  กระบอกดังกล่าว ออกมาจากโรงเรียนการบินนั้น ตนมีเหตุผลส่วนตัว จะไม่ขอพูด  และตนเองก็ยอมรับว่าตนเสพยาบ้ามาจริงโดยเสพมามากพอสมควร

ด้าน  พล.ต.อ.ธรรมนูญ  ไตรทิพยพงษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้กล่าวว่า จริง ๆ แล้ว คดีที่เกิดขึ้นไม่ได้มีสาระเป็นสำคัญไม่ได้หวังประโยชน์ที่เป็นทรัพย์สินเงินทองแต่อย่างไร แต่ว่าเกิดจากการหลอนจากการเสพยาเสพติดมากกว่า ไปชิงอาวุธปืนและไปชิงเอารถยนต์ เอามาขับ ปกติคนร้ายถ้ามีแผนอยู่ก็ต้องเอารถและอาวุธปืนหนีออกนอกเมือง แต่ในครั้งนี้คนร้ายผิดปกติหนีเข้ามาในเมือง เข้ามาในกรุงเทพมาในสมุทรปราการ ถือว่าน่าจะเกิดจากภาพหลอนขับรถไป แต่ตนเชื้อว่าคนร้ายขับรถยนต์ไม่ชำนาญมากกว่าจึงไปเฉี่ยวชนรถของชาวบ้านไปตั้งหลายคัน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาทั้งสองว่า  มีอาวุธปืนสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมทั้งขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย  ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสองให้ตำรวจภูธรภาค 7 นำตัวกลับไปดำเนินคดีต่อที่ ตำรวจภูธรภาค 7 จังหวัดนครปฐม ต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน