ทำวุ่นทั้งซอย ชายปริศนานำวัตถุคล้ายระเบิดมาวางข้างร้านทอง หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด EOD เข้าตรวจสอบพบเป็นลำโพงบลูทูธ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ ฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่าลักษณะเหตุแบบนี้อย่าไปทำ มันอาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และเกิดความวุ่นวาย และถ้าประชาชนพบเจอสิ่งของต้องสงสัยแบบนี้ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดบริเวณข้างร้านทอง ปากซอยด่านสำโรง 10 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึง รายงาน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด EOD และกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ เดินทางตรวจสอบ
ที่บริเวณด้านข้างร้านทองดังกล่าว พบ วัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด มีลักษณะเป็นกล้องสีส้ม มีแผลงวงจรอยู่ด้านบนกล้อง และที่ด้านหลังมีเทปสีดำพันไว้ ถูกใส่ถุงพลาสติกวางอยู่ชิดกำแพงร้านทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการปิดกั้นพื้นที่ ให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวของออกห่างจากบริเวณดังกล่าว พร้อมนำยางรถมาครอบเอาไว้ หลังจากกั้นจุดเกิดเหตุแล้ว สักพัก ได้มีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20 -25 ปี เดินเข้ามาที่เกิดเหตุ พร้อมบอกว่ารู้จักกับเจ้าของวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว ก่อนเดินไปหยิบวัตถุดังกล่าว แล้วแกะออกมาเป็นลำโพง และ ตัวเลขดังกล่าวเป็นสัญญาณบลูทูธ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไปสอบสวนต่อที่โรงพัก
จากการสอบถาม นายยงยุทธ ทองนิ่ม อายุ 76 ปี เจ้าของร้านขายผักข้าง ๆ บอกว่า เวลาประมาณ 4 โมงกว่าเขาเมามา บอกกับตนว่าขอนอนเมาไปไม่ไหว แล้วเค้าให้ตนไปเรียกรถมอเตอร์ไซต์แต่มอเตอร์ไซค์ไม่มา เค้าเลยนอนกลางถนนเลย เค้าถือถุงพลาสติกมาด้วยเค้าบอกว่าเป็นลำโพง จากนั้นมีคนดึงเขาเข้าไปข้างในเพราะกลัวรถจะชน พอเขาฟื้นเขาจะเอาของให้ตนแต่ตนไม่เอา ตอนแรกตนก็ไม่คิดว่าเป็นลำโพงเพราะเห็นมันมีสาย เห็นเหมือนระเบิดพอหยิบมาดูนาฬิกามันเดิน ตนเลยเรียกให้คนอื่นมาดูก็พบว่านาฬิกามันเดินจริงๆ ก็พากันตกใจคิดว่าเป็นระเบิดจริงๆ เลยโทรแจ้งตำรวจ ตนไม่เคยเห็นหน้าคนที่เอาของมาวางแต่เขาบอกว่าอยู่แถวนี้ พอตนรู้ว่าเป็นระเบิดก็ตกใจ ใจไม่ดีเลย
พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในตอนแรกพบว่ามีชายคนหนึ่งลักษณะมึนเมานำถุงมาวางทิ้งไว้ แล้วเมื่อสักครู่เจ้าหน้าที่ได้นำตัวชายคนหนึ่งไปซึ่งเป็นชายที่มายืนยันว่าสิ่งของดังกล่าวเป็นเพียงวิทยุหรือลำโพง แต่การที่นำมาต่อและมีสายไฟมีตัวเลขอาจจะเข้าข่ายมีความผิด อาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวาย เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จึงพาชายคนดังกล่าวไปพบกับชายที่นำถุงมาวางเพื่อควบคุมตัว ไปสอบสวนที่โรงพัก ถ้าพิจารณาแล้วมีความผิดก็จะแจ้งข้อกล่าวหา สรุปแล้วมันไม่ใช่ระเบิดมันเป็นเพียงลำโพงที่เขานำมาต่อกับสายไฟและแป้นดิจิตอล และมันก็จะมีตัวเลขวิ่งไปวิ่งมาค้างอยู่ด้านบน
ฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่าลักษณะเหตุแบบนี้อย่าไปทำ มันอาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และเกิดความวุ่นวาย และท่านก็จะมีความผิดด้วย ถ้าประชาชนพบเจอสิ่งของต้องสงสัยแบบนี้ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วนเพื่อให้เจ้าหน้าที่เป็นคนเข้าไปตรวจสอบ อย่าเข้าใกล้วัตถุดังกล่าวหรือวัตถุอันตรายเด็ดขาด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัว นายศักดิ์ ดอกบัว อายุ 41 ปี ชาวอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นเจ้าของลำโพงบลูทูธดังกล่าว ที่อยู่ในอาการมึนมาสุรา มาที่โรงพัก เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และได้ตักเตือน ก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้าน
โดย นายศักดิ์ ได้บอกว่า ตนเมาและเอาลำโพงบลูทูธไปฟังด้วย ตนจะฝากลุงเขาไว้ก่อนแต่ลุงเขาให้เอาไปเลย แต่ตนเมาแล้วไปไม่ได้ ตนเลยนั่งมอเตอร์ไซค์วินกลับบ้านและวางของไว้ตรงนั้น ลำโพงบลูทูธใช้งานได้จริง ตนวางไว้ตั้งแต่ตอนเย็น ถ้าจะให้ตนทำระเบิดก็ทำได้ตนเคยเป็นทหารเก่า ลำโพงบลูทูธ ตนดัดแปลงเองใช้ถ่าน เพื่อที่จะได้ใช้งาน 3- 4 ชั่วโมงโดยไม่ต้องชาร์จ ที่ไปอยู่แถวร้านทองเพราะตอนนั้นตนเมา ตนขอโทษ ตนก็ตกใจเหมือนกัน ตำรวจบุกมาที่ห้องตนกำลังคุยกับสาวอยู่
