หนุ่มโรงงานติดหนี้พนันออนไลน์ ก่อเหตุกระชากสร้อยทองหนัก 5 บาท พ่อค้าขายของเบ็ดเตล็ด ซึ่งร้านอยู่ภายในลานจอดรถห้างบิ๊กซี สุดท้ายไม่รอดถูกตามรวบถึงบ้านซึ่งเช่าพักอาศัยในหอพักแห่งหนึ่งภายในซอยโอ่ง ซึ่งไม่ไกลจากจุดที่ลงมือก่อเหตุ
วันที่ 23 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายลัญจกร สาครสุด อายุ 37 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท เสื้อผ้า และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ซุปเปอร์คัพ สีฟ้า-ขาว ทะเบียน 5 กจ 2368 กรุงเทพมหานคร โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยโอ่ง ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
ข่าวน่าสนใจ:
- สงขลา"มาซาทาดะ อิชิอิ-เอเลียส ดอเลาะ"ร่วมแถลงฯ ก่อนพบฟิลิปปินส์ ศึกคิงส์คัพครั้งที่ 50 ที่สงขลา
- ชาวพังงากว่า 400 คนบุกศาลากลางมอบดอกไม้ให้กำลังใจผู้ว่า หลังโดนย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการ
- ตรัง "ขนมขาหมู-เต้าหู้ทอด" เมนูอร่อยประจำเทศกาลถือศีลกินผักเมืองตรัง ขายดีลูกค้าแน่นร้านจนต้องแจกบัตรคิว
- ยิ่งใหญ่ ศาลเจ้าในเมืองพังงาร่วมใจจัดพิธีอิ้วเก้งแห่พระรอบเมืองในวันเดียวกัน
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา นายลัญจกร ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ไปก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ของ นายจิรวัฒน์ เหล่าก่อ อายุ 42 ปี พ่อค้าขายของเบ็ดเตล็ด ซึ่งร้านอยู่ภายในลานจอดรถห้างบิ๊กซี สาขาปากน้ำ ถนนสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บริเวณหน้าร้าน ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ต่อมา พันตำรวจเอก นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ สืบสวนจนทราบว่า นายลัญจกร คือผู้ก่อเหตุ ซึ่งเช่าพักอาศัยในหอพักแห่งหนึ่งภายในซอยโอ่ง ซึ่งไม่ไกลจากจุดที่ลงมือก่อเหตุ จึงวางกำลังซุ่มดูก่อนพบ นายลัญจกร เดินลงมาจากหอพัก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงแสดงตัวเข้าจับกุมก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะพาเจ้าหน้าที่ขึ้นไปที่ห้องพัก และชี้จุดที่ซ่อนของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ที่เก็บอยู่ในลิ้นชักผู้เสื้อผ้า ซึ่งผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึง แจ้งข้อหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปและเพื่อให้พ้นการจับกุม ก่อนคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แล้วส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายลัญจกร สาครสุด อายุ 38 ปี ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่า ก่อนจะมาก่อเหตุตนได้ขี่รถวนมาวนดูลาดลาวก่อนรอบนึงแล้ว พอมาอีกรอบตนเห็นเขานั่งหันหลัง ตนเห็นว่าสบโอกาสเลยขี่รถเข้าไปใกล้ ๆ แล้วกระชากเลย หลังก่อเหตุตนยังไม่ได้เอาไปทำอะไรเลย ก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับตัวซะก่อน ที่ก่อเหตุเพราะตนต้องการเงิน เอาไปเล่นการพนันออนไลน์และใช้หนี้ ตนยอมรับว่าติดการพนันเล่นทุกอย่างในเว็บพนันออนไลน์ ตนจนมาเป็นหนี้หลักแสน ที่ไปก่อเหตุเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ตอนนั้นตนเห็นผู้เสียหายหันหลังอยู่เลยขี่รถไปกระชากเลย ตนก็อยากฝากขอโทษผู้เสียหาย เพราะอารมณ์ชั่ววูบด้วย ตนไม่อยากทำไม่อยากให้มันเกิด
นายจิรวัฒน์ เหล่าก่อ อายุ 42 ปี พ่อค้าขายของเบ็ดเตล็ด เล่าว่า ตอนนั้นกำลังเล่นโทรศัพท์ อยู่ที่หน้าร้าน ตอนนั้นไม่รู้ตัวเลย จะมารู้ตัวอีกทีก็ตอนคนร้ายดึงสร้อยแล้ว และก็รู้สึกพระหรืออะไรหล่นอยู่ข้าง ๆ พอตั้งสติได้ก็วิ่งตามคนร้ายเลยแต่ไม่ทัน เขาได้แต่สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ไป ส่วนพระกับตะขอหล่นอยู่หน้าร้าน หลังเกิดเหตุตนได้เดินทางเข้าแจ้งความ จนเมื่อเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาบอกตนว่าจับได้แล้วตนก็รู้สึกดีใจมากเลย ตอนแรกตนคิดว่าอีกนานเลยกว่าจะเจออาจ ไม่รู้จะตามได้หรือเปล่าด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาบอกน่าจะตามยาก เพราะคนร้ายสวมหมวกแล้วก็ไม่เห็นทะเบียนด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: