กัน จอมพลัง พาผู้เสียหายสาวที่ถูกแฟนเก่าอุ้มไปทำร้าย ติดตามความคืบหน้าคดี

กัน จอมพลัง พาผู้เสียหายสาวที่ถูกแฟนเก่าอุ้มไปทำร้ายร่างกาย พร้อมข่มขู่ จนกระทั่งแฟนสาวของแฟนเก่าเกิดสงสารเลยช่วยออกมา พอออกมาได้ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ แต่คดีไม่คืบ ในวันนี้จึงเดินทางมาพบ ผกก.สภ.บางพลี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา น.ส.บี (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ที่ผู้เสียหาย ถูกแฟนเก่ากับเพื่อนอีก 4 คน อุ้มไปทำร้ายร่างกาย ในพื้นที่อำเภอบางพลี หลังจากหลบหนีออกมาได้ ก็ได้ไปแจ้งความตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา แล้วเรื่องเงียบ แถมผู้ก่อเหตุยังพูดข่มขู่ผู้เสียหายว่า ถ้าไปแจ้งความกับตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากจ่ายส่วยให้ สภ.บางพลี อยู่ ภายหลังจากได้พูดคุยกับ ผกก.สภ.บางพลี และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ผู้เสียหาย ได้พา กัน จอมพลัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่บ้านที่ผู้เสียหายถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุอุ้มมาทำร้ายร่างกาย ภายในซอยจตุรมิตร 14/1 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะพาผู้เสียหายกลับมาสอบสวนเพิ่มเติม ที่ สภ.บางพลี

น.ส.บี (นามสมมุติ)  ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม เพื่อนของแฟนใหม่ได้ติดต่อมาให้ไปเอารองเท้าที่บางแวก พอไปถึงก็เจอเพื่อนของแฟนใหม่ เขาก็ให้พวกตนรอ ผ่านไปประมาณ 20 นาที แฟนเก่าตนก็เดินมาพร้อมกับเพื่อนเขา แบ่งเป็น ผู้ชาย 4 คน ผู้หญิง 1 คน พวกผู้ชายได้รุมทำร้ายแฟนใหม่ตน ก่อนจะฉุดดึงตนขึ้นรถ มาที่บ้านหลังนี้ซึ่งเหมือนจะเป็นบ้านของรุ่นพี่แฟนเก่า เขาก็พาตนเข้าไปขังข้างในบ้าน ผ่านไปสักพักก็เข้ามาทำร้ายตน ทั้ง ตบ ถุยน้ำลายใส่หน้า แล้วก็มีใช้คีมหนีบลิ้นหนีบมือ แล้วก็เอาเท้าเหยียบหน้า แล้วก็มีจิกหัว ให้เรานั่งหันหลังพิงกำแพงแล้วถีบ เขาทำแบบนี้กับตนอยู่นาน 2 วัน เขาก็ให้ ทายากินข้าว นอนปกติ พอถึงเวลาเขาก็เข้ามาทำร้ายปกติ ตีเสร็จก็ให้ทายาเหมือนเดิม เขาให้เหตุว่าตนเห็นคนใหม่ดีกว่าเขา กับแฟนเก่าตนเลิกกันไปไม่นานสักอาทิตย์นึงตนก็มีแฟนใหม่ เพราะเขาคบซ้อนก่อนหน้านั้นทำให้ตนตัดสินใจเลิก และรอบนี้เป็นการโดนทำร้ายรอบที่ 2 แล้ว ครั้งแรกตนโดนทำร้ายจนซี่โครงหัก 2 ซี่ เหตุเกิดนานแล้วประมาณ 1 ปี ก็ไม่ได้แจ้งความเพราะตอนนั้นยังรักอยู่ก็เลยให้อภัยให้โอกาส จนกระทั่งแฟนใหม่ของเขา เห็นว่าตนน่าสงสารแล้วก็เห็นเขาคุยแชทกับผู้หญิงอื่นโดยใช้คำหวานทำให้รับไม่ได้เลยถอดใจ และไม่อยากอยู่กับเขาแล้วเลยช่วยตนออกไปด้วย แฟนใหม่ของเขาก็ดูลาดเลา แล้วก็พาตนวิ่งออกมา ตอนเขาหลับ ที่ข้างบ้านเขาไม่รู้เพราะตนโดนอุ้มเข้ามาตอนกลางคืน และไม่กล้าร้องเพราะถ้าร้องก็จะโดนทำร้าย จนวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ตนได้เดินทางมาแจ้งความไว้ที่ สภ.บางพลี ผ่านมาหลายวันแล้วคดีไม่คืบ ไม่มีโทรมาเรียกไปสอบปากคำอะไรเลย ผู้ก่อเหตุเคยขู่ตนตอนอยู่ในห้องว่าแจ้งความไปก็เท่านั้นแหละยอมติดแค่ 3 เดือน ออกมาก็เจอเขาเหมือนเดิม อย่าพลาดให้เจอ หาตัวได้ง่าย ๆ เขาบอกไว้อย่างนี้ ตนก็เลยกลัว และเขาเคยอ้างว่าเป็นลูกน้องตำรวจ เหมือนแบบว่าเวลามีเรื่องมีอะไร ก็จะมี รุ่นพี่ไปจ่ายเงินเคลียร์ให้ ก็จ่ายเงินให้ตำรวจแค่นี้ก็เรียบร้อย แต่ตนไม่รู้ว่าให้ใคร

กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังจากที่ผู้เสียหายได้แจ้งเรื่องดังกล่าวกับตนเอง ตนเองจึงประสานงานกับ ผกก.สภ.บางพลี ก่อน โดยสิ่งแรกที่ห่วงคือความปลอดภัยของผู้เสียหาย อย่างที่สองคือความยุติธรรมของผู้เสียหายที่น่าห่วง เพราะมีการพูดว่าจ่ายส่วยกับให้กับตำรวจด้วย  แล้ววันนี้ทางคู่กรณีก็ได้มาที่โรงพักด้วยแต่ก็ไม่ทราบว่ามาด้วยสาเหตุอะไร แต่จากที่ผู้เสียหายเห็นว่ามากับรุ่นพี่ รุ่นพี่ทำอาชีพอะไรท่านรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าเดี๋ยวท่านก็ต้องดูผมอยู่ ผมฝากเตือนท่านเลยฝากเตือนตรงนี้เลย เอาของรุ่นพี่ก่อน ผู้เสียหายบอกว่ารุ่นพี่คนนี้เป็นคนที่เคลียร์ให้คนอื่น เรื่องนี้ใครเคลียร์ ใครออกตัว ทุกคนฟังไว้เลย น้องถูกอุ้มไปกระทืบต่อเนื่อง 2 วัน เอาคีมหนีบลิ้นหนีบนิ้ว เอานั่งติดกำแพง เอาเท้าเตะหน้า เอาขวดโรลออนทุบหัว ท่านยังมีหน้าจะมาเคลียร์ให้อีกหรอ ใครกล้าออกตัวมาเคลียร์ เจอผม ผมรื้อทุกคน ส่วนถ้าสมมุติอ้างว่าจ่ายส่วยให้ตำรวจคนไหน ถ้ามีใครไม่ให้ความเป็นธรรมกับน้องผู้เสียหาย หรือพร้อมออกตัวให้ ผมขอให้ออกมาเลย ผมคุยกับ ผกก. แล้ว ท่าน ผกก.บอกว่าเรื่องนี้ให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ เพราะว่ามันเป็นเรื่องร้ายแรง รุนแรง และมันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของตำรวจ ถ้ามีคนพูดแบบนี้แล้วน้องไม่ได้รับความเป็นธรรมภาพมันก็ชัดเจนอยู่แล้วถ้าว่าชื่อเสียงจะอยู่ยังไง ท่าน ผกก. คุยกับผม บอกว่าจะดำเนินการทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องและไม่รับเคลียร์ทั้งสิ้น ผมก็ฝากเลยที่บ้านเมืองมีกฎหมาย อย่าทำอะไรที่มันนอกกฎหมายเกินไป ไม่ใช่จะไปอุ้มใคร กระทืบใคร ขังใครไว้ก็ได้ ถ้าคุมตัวเองไม่ได้ ในคุกมีผู้คุมก็อาจจะช่วยคุมสติท่านได้ ตนได้เข้าไปดูเฟซบุ๊กของคนก่อเหตุมาแล้วเห็นลงคำคมเยอะจริง ไม่กลัวใครเลย ท่านอาจจะเจอคนที่เขาไม่สู้ท่าน แต่นั้นไม่ใช่ผม น้องเขาอยู่แบบหวาดกลัวหนีท่าน ท่านได้ใจ แต่วันนี้ผมมาช่วยเขา ถ้าพวกท่านกับเพื่อนท่านฮึกเหิม ก็ต้องเจอกันสักที วันนี้ก็ให้รู้ไปเลยว่า น้องเขามาขอความเป็นธรรม มาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง วันนี้น้องเขาจะได้ไหม แล้วจะดำเนินการดำเนินคดีกับท่านได้ไหมเดี๋ยวต้องให้ท่าน ผกก. ช่วยคอนเฟิร์มยืนยัน

พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า คดีนี้เกิดเหตุเมื่อวันที่ 6 น้องผู้เสียหายสามารถหลบหนีจากทางฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา จับไปกักขังหน่วงเหนี่ยว และได้มาแจ้งความดำเนินคดีเมื่อคืนวันที่ 10 และที่ตัวของน้องผู้เสียหายได้มีร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้าย พอมาแจงความแล้ว ณ วันนั้นทางร้อยเวรได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ แต่ในวันที่ผู้เสียหายมาแจ้งความนั้นไม่เจอกับร้อยเวร ทางด้านผู้เสียหายได้ไปพบแพทย์ก่อนมาแจ้งความ แต่ในใบแพทย์ยังไม่เรียบร้อย ทางด้านร้อยเวรตั้งแต่วันนั้นยังไม่ได้ติดต่อกับผู้เสียหายมาสอบปากคำเพื่อให้แจ้งข้อกว่าวหา แต่ทางตำรวจได้รับเรื่องไว้แล้วพยายามสืบสวนติดตามเพราะส่วนหนึ่งทางผู้ถูกกล่าวหา กล่าวอ้างว่ามีพวกเป็นตำรวจ แต่เท่าที่ทางตำรวจได้สืบข่าวดูพบว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แล้วทางตำรวจได้นำตัวมาสอบปากคำไว้เบื้องต้นเนื่องจากกรณีนี้ไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า ก็ต้องรอผู้เสียหายมาให้ปากคำแล้วสอบพยานบางส่วน ซึ่งตอนนี้เรามีทั้งตัวพยาน แต่ว่าของตัวน้องผู้เสียหายเรายังไม่ได้สอบปากคำที่ชัดเจน ทางผู้กำกับยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนแล้วทางคุณกันได้นำตัวน้องผู้เสียหายมาแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคดีส่วนหนึ่ง ก็คือมีตัวพยานที่เป็นแฟนใหม่ เดี๋ยวทางเราจะเชิญตัวมาสอบปากคำ เพราน้องเขาจะยืนยันได้ว่าทางตัวผู้ถูกกว่าหาเอาตัวไปกักขังจริงเพราะน้องเขาเป็นคนปล่อยมา ทางผู้กำกับยืนยันกับตัวน้องผู้เสียหายและทางคุณกันว่าทางโรงพักบางพลีจะดำเนินการอย่างเต็มที่

ทางด้านผู้เสียได้เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ทางด้านผู้กำกับกล่าวงว่าโดยปกติแล้วตัวผู้เสียหายหรือพยานเกรงว่าจะถูกทำร้ายหรือข่มขู่ให้มาแจ้งแต่สำหรับคดีนี้ทางผู้กำกับรับแจ้งแล้ว จะดำเนินการให้สายตรวจวนไปตรวจแล้วได้ให้เบอร์โทรศัพท์ทิ้งไว้เผื่อมีอะไรด่วนก็กดหาได้เลยรับรองเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึงไม่เกิน 5 นาที เพราะว่าวันนี้ทางด้านรองผู้กำกับสืบสวน รองผู้กำกับราบปราม รองผู้กับสอบสวน ร้อยเวรเจ้าของคดีอยู่ที่นี่หมดแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีอิทธิพลหรือว่ามีอะไรที่จะมาข่มขู่แล้วไม่ต้องถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด

ทางตำรวจก็จะแจ้งข้อกล่าวหาตามนั้นส่วนหนึ่งพยานหลักฐานมีถึงไหนเราก็ดำเนินคดีทุกกรณี คืออย่างน้อยจะเห็นได้ว่าทางโรงพักรับคดีเรียบร้อยพอน้องผู้เสียหายให้การเรียบร้อยวันนี้ คือ ณ วันนี้เราก็เรียกเขามาแจ้งข้อกว่าหาได้เลย จริงๆแล้วถ้าเราเอาตัวเขามาก่อนก็จะเป็นการจับกุมโดยมิชอบเพราะเรายังไม่ได้สอบปากคำน้องผู้เสียหายให้เรียบร้อย ร้อยเปอร์เซ็นต์  เพียงแค่สอบไปเบื้องต้น เพราะฉะนั้นไม่ว่าเขาจะไปหน่วงเหนี่ยวกักขัง ข่มขู่ทำให้สูญเสียเสรีภาพ หน่วงเหนี่ยวทำร้ายร่างกายเราต้องแจ้งหมด เพราะถ้าเราไม่แจ้งหมดทางอัยการพอเห็นสำนวนเห็นรอยแผลเป็นถูกอุ้มไป คำให้การว่าโดนข่มขู่ เพราะถ้าเราไม่แจ้งไปทางอัยการก็จะส่งสำนวนกับมาให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอยู่ดี ทางผู้กำกับยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่

ในส่วนเรื่องที่เขาอ้างว่ารู้จักตำรวจ อย่างโน้น อย่างนี้ จะทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีเขาได้ อันนั้นตนคิดว่าเป็นข้อกล่าวอ้างของผู้ต้องหาหรือผู้ถูกกล่าวหาทั่ว ๆ ไป พอเห็นรูปแล้วตนว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน มันเป็นรูปของแก๊งรอยสักทั้งตัว ก็อาจจะเป็นความชอบส่วนบุคคลที่เป็นคนดี แต่ถ้าเกิดว่ามองดูโดยภาพรวมแล้วจะอ้างว่ามาเป็นลูกน้องของตำรวจ มันก็คงไม่ใช่คงเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ มากกว่า

พ.ต.ท.วิทวัช น้อยพานิช รอง ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ กล่าวว่า ในส่วนของข้อกล่าวหาที่จะแจ้งกับทางผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นจากการที่ร้อยเวรได้สอบสวนปากคำน้องผู้เสียหาย ในวันที่มาแจ้งเหตุ จะมีข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ส่วนจะมีบทเพิ่มโทษหรือไม่นั้น ต้องรอใบแพทย์ ใบชันสูตรบาดแผลของแพทย์ยืนยันมาอีกครั้ง แล้วก็ข้อหาที่สอง ก็จะเป็นข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง สำหรับข้อหาอื่นซึ่งทาง ผกก. ได้สั่งไว้แล้วเมื่อสักครู่เรื่องข่มขืนใจให้กระทำการหรือว่าอะไรตรงนี้ ต้องขอดูพฤติการณ์คร่าว ๆ เบื้องต้น แต่ก็ทางตำรวจขอยืนยันว่าถ้าเกิดพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของผู้ต้องหาเข้าองค์ประกอบคดีอาญามาตราไหน ก็จะได้ดำเนินการให้ครบถ้วนต่อไป