เปิดคำสารภาพหนุ่มเมายาเสพติด ควงปืนและขวาน บุกสนามบิน ใช้ขวานไล่ฟันเจ้าหน้าที่ ก่อนจะถูกรวบตัวได้ เจ้าตัวเผย ก่อนมาก่อเหตุได้เสพยามา 8 เม็ด หลอนหนักได้ยินเสียงก้องอยู่ในหูให้ไปขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน
อ่านข่าว ระทึกชายเมายาบ้าควงขวานและปืนปลอม ขี่จักรยานยนต์บุกหลุมจอดเครื่องบินภายในสุวรรณภูมิ
อ่านข่าว สุวรรณภูมิชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีหนุ่มคลั่งบุกสนามบิน เจ้าตัวเผยเสพยาบ้าจนหลอน
จากกรณีที่นายวัชระ คำบุตร อายุ 34 ปี ได้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ ฝ่าประตูรักษาความปลอดภัยเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามสูงสุดภายในท่าอากาศยานสุวรรณ โดยชักปืนข่มขู่เจ้าหน้าที่ รปภ.พร้อมใช้ขวานไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่จนกระทั่งสามารถตามจับตัวได้และกลายเป็นข่าวโด่งดังที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- ปูดอีก 3 คก.ใหญ่ ฝีมือ “รับเหมาขาใหญ่” ตลิ่งแม่น้ำชี้สร้างไม่เสร็จ แฉทิ้งเสาเข็มเต็มวัดยัง ไม่มีคนงาน ไม่มีก่อสร้าง หมดสัญญาจับตา…
- พม.จ.กาฬสินธุ์เสริมพลังสตรีและเด็กหญิง ขจัดความยากจน สู่ความเท่าเทียมระหว่างเพศ
- หวานชื่นใจ โอ้เอ๋ว เมนูของหวานประจำถิ่นชาวอันดามันสูตรพิเศษ ช่วยดับกระหายและคลายร้อน
- ชาวบ้านรอกระเบื้องมุงหลังคาจากพายุถล่ม ไร้วี่แววเตรียมนอนตากฝน
ล่าสุดวันนี้ 5 พฤษภาคม 2565 ร.ต.อ.ไพศาล วีระกิจพานิช รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าของคดี ได้นำตัวนายวัชระ ผู้ก่อเหตุออกมาสอบปากคำเพิ่มเติมรวบรวมสำนวนประกอบทางคดีเตรียมจะนำตัวส่งอัยการฟ้องผลัดแรกในวันนี้ โดยทรัพย์สินเสียหายเบื้องต้นที่ทางสนามบินสุวรรณภูมิประเมินไว้รวมประมาณ 1 แสนบาท เป็นประตูกระจกนิรภัยทางเข้าเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสารที่ผู้ต้องหาใช้ขวานทุบจนแตกเสียหายสองบาน นอกจากนั้นวันนี้ทางพนักงานสอบสวนยังสั่งปรับเพิ่มอีก สองข้อหา คือ ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และใช้รถที่มิได้ทำ พ.ร.บ. มาใช้งาน ส่วนข้อหาที่แจ้งต่อนายวัชระ ประกอบด้วยความผิดฐาน “ใช้อาวุธหรือวัสดุอื่นใด กระทำการหรือทำให้เสียหายอย่างร้ายแรงต่ออากาศยานหรือสิ่งอำนวยความสะดวกของอากาศยาน, ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันควรเข้าไปในสำนักงานในความครอบครองครองผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย, ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจในการขู่เข็ญ,ทำให้เสียทรัพย์,พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (แมทเอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย,เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (แมทเอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย”
ขณะที่เจ้าตัวเปิดเผยด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่อคืนนอนหลับสบายดี เพราะพยามทานยาแก้ปวดเพื่อให้นอนหลับเพราะไม่อยากคิดอะไรอีก ยอมรับผิดทุกอย่างที่เกิดขึ้น หากย้อนกลับไปได้คงไม่ทำแบบนี้อีก ที่ผ่านมาหลังจากต้องโทษในเรือนจำในคดีที่เพื่อนยัดยาเสพติดให้จนต้องติดคุกถึง 9 ปี จนพ้นโทษเมื่อต้นปี 2564 พอออกมาก็เลิกเสพและหาสมัครงานจนกระทั่งได้ทำงาน ก็ไม่ได้เสพยามานาน พอมาคืนวันก่อนเกิดเหตุเพื่อนมาหาที่ห้องพักเพื่อชวนกันดื่มสุรา จนกระทั่งเมาตนเองหันไปเห็นยาบ้าที่เพื่อนซื้อมา พร้อมกับยากล่อมประสาทและยาอื่นที่เรียกว่า B 5. ด้วยความอยากลองจึงเสพยาบ้าไปทั้งหมด 8 เม็ด และยากล่อมประสาทที่เป็นสูตรยาเสพติดของวัยรุ่นที่เรียกกันว่าสี่คูณร้อย พอทานทุกอย่างรวมกันได้สักพักจึงเมายาหลับไปไม่นานก็ได้ยินเสียงก้องในหูว่าให้ไปอย่างเดียว บวกกับตนเองมีความคิดอยากกลับบ้านจึงออกจากห้องพักขี่รถจักรยานยนต์ออกมาตามถนนบางนาตราดจนไปวนแถวบางนาและวนไปมาถึงสามรอบจนน้ำมันหมดจึงขอเบิกเงินกับทางเถ้าแก่เพื่อเติมน้ำมัน หวังจะขับไปตามทางเรื่อยแต่ในหูก็ยังมีเสียงก้องมีคนบอกตลอดเวลาให้ไปๆ ตอนแรกตนเองตั้งใจจะไปหาขึ้นรถแท็กซี่เพื่อไปลงหมอชิตแล้วนั่งรถทัวร์กลับบ้าน แต่คนในหูบอกว่ามึงอย่านั่งแท็กซี่เพราะสายเขาทั้งนั้นเดี๋ยวจะถูกจับ ให้ตนไปขึ้นเครื่องบินอย่างเดียวเพื่อกลับบ้าน ตนจึงเลี้ยวเข้ามาในสนามบินเพื่อจะหาทางขึ้นเครื่องบินกลับบ้านต่างจังหวัด พอเลี้ยวเช้ามาในสนามบินเห็นว่ามีเครื่องบินจอดเยอะ เลยเลี้ยวรถเข้ามาประตูดังกล่าวเพื่อหวังขึ้นเครื่องบินจนเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองรู้สึกพลาดที่หันไปทดลองยาเสพติดจนทำให้หมดอนาคต ที่ผ่านมาทำงานได้ค่าแรงรวมโอทีก็เกือบเดือนละสองหมื่นบาท เงินเดือนออกมาก็จะให้แม่จนเกือบหมด ล่าสุดได้รับเงินเดือนถึงหมื่นเจ็ดพันบาทให้แม่หมื่นห้าเหลือใช้เองเพียงสองพัน ก่อนหน้านี้น้องสาวไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาประมาณสี่หมื่นจนแม่เครียดตนเองก็เก็บเงินเดือนไปจ่ายคืนให้จนหมด ยอมรับผิดกับเรื่องราวที่พลาดไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: