X

คืบหน้า เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด รมช.คมนาคม รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากกรณี เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย สูญหาย 1 ราย ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการณ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบหาสาเหตุและเร่งตรวจสอบไอระเหยของน้ำมันและก๊าซบนเรือที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากหน่วยงานมูลนิธิเร่งนำเรือตรวจการณ์ออกค้นหาร่างของลูกเรือที่ยังสูญหาย

อ่านข่าว เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด บาดเจ็บ 3 ราย สูญหาย 1 ราย

จากกรณีเรือบรรทุกน้ำมันขนาด 2.8 ล้านลิตรที่บรรทุกน้ำมันแก๊สโซฮอร์ 91 และน้ำมันดีเซล เกิด ระเบิดขึ้นหลังจากที่โหลดน้ำมันทั้งหมดขึ้นแท้งเก็บหมดแล้วกำลังจะนำเรือออกจากท่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และสูญหาย 1 ราย เหตุเกิดที่ท่าเทียบเรือ บริษัท ไอ อาร์ พี ซี อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ เมื่อช่วงสายของวันนี้

ความคืบหน้าล่าสุดหลังเกิดเหตุ ดร.อธิรัฐ  รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการณ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบหาสาเหตุและเร่งตรวจสอบไอละเหยของน้ำมันและก๊าซบนเรือที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากหน่วยงานมูลนิธิเร่งนำเรือตรวจการณ์ออกค้นหาร่างของลูกเรือที่ยังสูญหาย

ดร.อธิรัฐ  รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  ได้กล่าวว่า เบื้องต้นจากการที่ประชุมกับส่วนราชการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง สิ่งเร่งด่วนลำดับแรกคือการจัดทีมกู้ภัยเร่งติดตามผู้สูญหาย 1 รายที่ยังหาไม่พบ ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 3 รายถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วคาดว่าน่าจะปลอดภัยทั้งหมด โดยทีมแรกก็จะออกค้นหาผู้สูญหาย ส่วนทีมที่สองที่เตรียมไว้คือทีมที่จะขึ้นไปตรวจพิสูจน์บนเรือซึ่งก็จะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นตอนนี้ได้มีการเซททีมเรียบร้อยแล้วเสร็จจากตรงนี้ก็จะส่งทีมขึ้นไปบนเรือที่เกิดเหตุเพื่อพิสูจน์ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบนเรือบางและก็ผู้สูญหายเองส่วนหนึ่งติดอยู่บนเรือหรือกระโดดลงไปอยู่ในน้ำ ส่วนทีมที่สามที่จะต้องมาดูแลเยียวยาผลกระทบทั้งหมด ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นทางอำเภอร่วมกับท้องถิ่นที่จะสำรวจความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่พูดคุยกันก็คาดว่าน่าจะมีประชาชนประมาณ 3 ชุมชน ประมาณ 200 ครัวเรือนที่จะได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ซึ่งทางบริษัทก็พร้อมที่จะเยียวยาช่วยเหลือทุกประการ และตอนนี้เราก็ได้ตรวจสอบไปทางเรือก่อนว่ายังเหลือไอระเหยจากแก๊สหรือน้ำมันอีกหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นก็ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยหมดแล้ว สามารถขึ้นไปตรวจสอบได้ ซึ่งตรงนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่ไม่กี่ท่านเท่านั้นที่ขึ้นไปตรวจสอบ และในจุดที่เกิดเหตุรวมทั้งท่าเรือแห่งนี้ก็ต้องอายัดไว้ตรวจสอบทั้งหมด

ด้าน พล.ต.ต.ชุมพล  พุ่มพ่วง  ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้กล่าวว่า เกี่ยวกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ ทางสถานีตำรวจภูธรพระประแดง ก็ได้จัดพนักงานสอบสวนเพื่อรอรับการแจ้งความจากพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือว่าร่างกาย ถ้าใครได้รับความเสียหายก็ขอให้เก็บหลักฐานเช่นภาพถ่ายและการประเมินราคาความเสียหาย ซึ่งสามารถไปแจ้งความได้ที่ สภ.พระประแดง เพราะสถานที่เกิดเหตุนั้นอาจจะไม่ปลอดภัยหรือไม่เหมาะสม

ขณะที่นาย  ธรรมนูญ  แจ่มใส นายอำเภอพระประแดง ในฐานะผู้อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินจากเหตุเรือบรรทุกน้ำมันเกิดการระเบิด ได้เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแบ่งหน้าที่และสรุปสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง  ก่อนที่นาย  ธรรมนูญ  แจ่มใส นายอำเภอพระประแดง จะออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายลงไปในระดับหนึ่งแล้ว ส่วนที่ว่าปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นหรือไม่นั้น ต้องรอให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานและผู้เชี่ยวชาญลงไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุก่อนเพราะวันจะมีละอองอากาศของน้ำมันของก๊าซอะไรต่าง ๆ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาให้ละเหยหมดเสียก่อน ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์เรื่องนี้ก่อน

ส่วนในเรื่องผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางอำเภอได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการรับแจ้งเหตุอันได้รับผลกระทบจะการระเบิดของเรือในครั้งนี้ โดยแจ้งได้ที่ว่าการอำเภอพระประแดง โดยมีปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ถ้าในเขตเทศบาลก็จะให้เทศบาลเป็นคนรับผิดชอบและทางชุมชนเป็นผู้รับแจ้ง ถ้านอกเขตให้ไปแจ้งได้ที่ว่าการอำเภอพระประแดง  ส่วนในเรื่องอื่น ๆ ต้องให้พนักงานสอบสวนเป็นคนสอบเพิ่มเติม ในส่วนที่ขณะเกิดเหตุครั้งแรกนั้นทางท่าเรือไม่ยินยอมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดที่เกิดเหตุนั้น มันเกี่ยวกับระบบเรื่องความปลอดภัยเรื่องแก๊สเรื่องไอละเหย การที่เข้าไปแล้วบางครั้งเรามีโทรศัพท์มือถือหรือวัตถุที่ทำให้เกิดประกายไฟได้นั้นมันอาจจะเกิดอันตรายเพิ่มมากขึ้น เขาก็คงต้องกันบริเวณไว้ตามเทคนิคการดูแลในเรื่องความปลอดภัย

ขณะเดียวกัน มีรายงานายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ ได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าสาขาสมุทรปราการ นำเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 222 ออกตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เบื้องต้นพบว่า เรือ สมูธซี 2 หมายเลขทะเบียนเรือ 460003012 ขนาด 1,989 ตันกรอส ประเภทบรรทุกน้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส สัญชาติไทย โดยมีนายปารเมศ ประเสริฐวงศ์ เป็นนายเรือ เรือลำดังกล่าวได้แจ้งออกมาจากจังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 และเข้าเทียบท่าเรือ 13 บริษัท ไอ อาร์ พี ซี จำกัด ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลบางครุ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เวลา 20.00 น. ขณะเรือเทียบท่ามีสินค้าน้ำมันเบนซินแก็สโซฮอล์ 91 ปริมาณ 1.8 ล้านลิตร ดีเซล 1.3 ล้านลิตร ต่อมาในเวลา ประมาณ 09.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บนเรือบรรทุกน้ำมัน ซึ่งในเรือไม่มีสินค้า เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือนายพีรกานต์ พงษา ได้นำส่งโรงพยาบาลบางประกอก 3 ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 รายชื่อนายสมพงษ์  คงวิเชียร นายปรเมศ ประเสริฐวงศ์  และนายณัฐภูมิ  จักรณ์จันทร์ และมีผู้สูญหายอีก จำนวน 1 ราย ชื่อนายศรรกฏิยพงศ์ สงวนพันธุ์  ที่ยังหาตัวไม่พบ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน