X

แรงงานไทยในยูเครนกลับไทยวันที่สามถึงสุวรรณภูมิแล้ว ขณะที่สาวสปาเผยรถถังวิ่งตัดหน้ากระสุนปืนใหญ่ผ่านหัว

แรงงานไทยในยูเครน จำนวน 16 คน กลับไทยวันที่สามถึงสุวรรณภูมิแล้ว ขณะที่สาวสปารายหนึ่งเผยถึงเหตุการณ์น่ากลัวมีรถถังวิ่งตัดหน้าและยังเจอกระสุนปืนใหญ่ผ่านหัวไป

เมื่อเวลา  07.30 น. วันที่ 5 มีนาคม 2565  ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายฉัตรชัย วิริยะเวชกุล อธิบดีกรมการกรงศุลกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันเดินทางมารอต้อนรับแรงงานไทยในยูเคนจำนวน 16 คน ที่อพยพหนีภัยสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย เดินทางกลับมายังประเทศไทยด้วยสายการบินไทย  เที่ยวบินที่ TG 971 จากสนามบิน ZURICH  มายังสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 06.50  น.โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ซึ่งแรงงานไทยชุดนี้ถือเป็นแรงงานไทยชุดที่ 4 ที่ได้รับการช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ ที่ให้การช่วยเหลืออพยพคนไทยในยูเครนและส่งกลับไทยโดยสวัสดิ์ภาพ

นางพรพัฒน์   เล็กสูงเนิน  ชาวไทยจากจังหวัดนครราชสีมา  ได้เล่านาทีหนีตายจากเมืองเคียฟ ประเทศยูเคน ว่า เห็นการณ์เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 23 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองและเพื่อนร่วมงานได้ติดต่อสถานฑูตเพื่อรอการอพยพไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เร็วกว่าที่คิด ซึ่งในวันนั้นตนเองยังมีแผนที่จะต้องไปทำงานแต่พอตื่นเช้ามาพบว่าเริ่มเห็นความวุ่นวายของชาวยูเคนในพื้นที่ รวมถึงเริ่มมีเสียงระเบิดเกิดขึ้น ซึ่งขณะนั้นยอมรับว่ากลัวมาจนกระทั่งนายจ้างติดต่อแจ้งว่าจำเป็นต้องอพยพออกจากเคียฟและกลับไทยซึ่งให้หลบภัยในที่พักก่อน รอรถมารับจนกระทั่งมีรถบัสเล็กมารับจากที่พักซึ่งจะต้องเดินทางมายังสนามบินใช้เวลา 15 ชั่วโมง และตลอดการเดินทางเห็นการปะทะกันอย่างรุนแรง แม้กระทั่งถูกรถถังตัดหน้ารถบัสที่ตนเองนั่งโดยสารมา  ไม่เว้นแม้แต่กระสุนปืนใหญ่ที่ข้ามหัวขณะนั่งรถผ่านเมืองเคียฟ ตนเองพอก้าวขึ้นเครื่องบินกลับได้ก็รู้สึกถึงความปลอดภัยและได้กลับบ้านเกิดแล้ว

ด้านนาย ฉัตรชัย วิริยะเวชกุล อธิบดีกรมการกรงศุล ระบุว่า วันนี้มีคนไทยดินทางกลับจากยูเครนจำนวน 61คน ถ้านับจากที่เราช่วยเหลือมาเมื่อวันที่ 2 รวม 96 คนและวันที่ 3 อีก 40 คนรวมที่กระทรวงการต่างประเทศรวมคนไทยที่เดินทางออกมาเองอีกประมาณ 3-4 คนรวมเป็น 203 คน ซึ่งก็เกือบจะครบทุกคนแล้วที่มีความจำเป็นต้องเดินทางออกมาเราก็ได้ให้การช่วยเหลือให้กลับมาถึงประเทศไทยโดยสวัสดิ์ภาพ อันนี้ก็เป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างกระทรวงต่างประเทศและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ช่วงดูแลเรื่องสถานที่ทางกระทรวงคมนาคมได้ช่วยจัดรถไปส่งที่สถาบันบำราศวราดูรและได้กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขดูเรื่องการสวอปเรื่องสถานที่กักกันตัวเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขของไทยก็ถือว่าภาระกิจที่ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยเหลือคนไทยให้ดีที่สุด ซึ่งก็ได้ดำเนินการมาเกือบเสร็จสิ้นสำบูรณ์แล้ว ซึ่งก็จะมีเดินทางกลับมาอีกหนึ่งล็อตน่าจะเป็นวันจันทร์อีกประมาณ 20 กว่าคนก็เรียกว่าเป็นล็อตท้าย ๆ สำหรับคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับรอให้สถานทูตทั้งสองแห่งที่ช่วย คือสถานทูตไทยที่กรุงวอซอกับสถานทูตไทยที่กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย สองจุดที่รอรับคนไทยที่จะกลับประเทศไทย จริง ๆ สถานทูตก็ได้มีการประสานทางคนไทยในยูเครนตั้งแต่เริ่มก่อนที่จะเกิดความวุ่นวาย ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องทำอยางไรบ้างซึ่งนายจ้างก็ให้ความร่วมมือที่ดีกับทางสถานทูตในเรื่องการจัดรถจัดสถานที่พักชั่วคราวก่อนที่จะเดินทางออกมา ซึ่งการเดินทางมาจากแต่ละเมืองมาถึงเมืองที่เราตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการณ์ช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ห่างไกลก็ต้องดูแลกันตลอดเส้นทางเมื่อมาถึงแล้วเราก็ทยอยพาข้ามแดนออกมาเพื่อมาขึ้นเครื่องบินกลับ และตอนนี้คนไทยที่ไม่ประสงค์เดินทางกลับมีประมาณ 20 กว่าคนเพราะเขามีครอบครัวอยู่ที่ยูเครน และจากตัวเลขที่สถานทูตได้เช็คเข้าใจว่ามีอีกเพียง 1 คนเท่านั้นที่อยู่ระหว่างการเดินทาง  ที่เหลือได้ทยอยเข้ารอที่ศูนย์พักคอยศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยที่เมืองลวีฟ ซึ่งอีก 1 คนที่เหลือน่าจะอยู่ที่กลางเมืองเทียฟแต่ทางสถานทูตอยู่ระหว่างติดต่ออยู่ว่าถ้ามีความปลอดภัยในการเดินทางก็คงหาทางเคลื่อนย้ายออกมา

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน