X

คดีพลิกจากผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหาเจ็บตัวฟรี แถมถูกแจ้งความกลับกรณีหนุ่มพม่าถูกเพื่อนพาคนไทยรุมกระทืบ

คดีพลิกจากผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหาเจ็บตัวฟรีแถมถูกแจ้งความกลับ จากกรณีหนุ่มเมียนมาร์ วัย 28 ปี ถูกเพื่อนพาคนไทยบุกห้องพักและรุมทำร้ายร่างกาย

อ่านข่าว หนุ่มพม่าถูกรุมกระทืบปางตาย กระเสือกกระสนหนีตาย หวังพึ่งตำรวจที่ป้อมแต่กลับไร้เงาสายตรวจ

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีชายชาวเมียนมาร์ อายุ 28 ปี ถูกเพื่อนร่วมชาติพาคนไทยบุกห้องพักและรุมทำร้ายร่างกาย โดยอ้างว่าเข้าใจผิดว่าผู้บาดเจ็บไปขโมยตาข่ายดักปลาจนเจ้าตัวถูกรุมทำร้ายบาดเจ็บและหนีตายมาขอความช่วยเหลือที่ป้อมตำรวจ แต่ไม่พบสายตรวจ จนมีพลเมืองดีผ่านมามาเจอ เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 17 มกราคม ผ่านมา ที่หมู่บ้านไทยประกัน ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

ความคืบหน้าเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 18 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บางเสาธง ได้เชิญตัวนาย อุทัย หลักทอง อายุ 39 ปี ผู้ที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายชายชาวเมียนมาร์ มาสอบปากคำพร้อมกับพยาน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชาติของฝ่ายผู้บาดเจ็บและผู้ดูแลหอพักมาทำการสอบสวน

โดย นายอุทัย ได้ให้การว่า ยอมรับว่าตนเป็นคนทำร้ายร่างกายชายคนดังกล่าวจริง โดยใช้เท้าเตะไปหน้าอกไปเพียงครั้งเดียว เพราะโมโหที่จับได้ว่า ผู้บาดเจ็บไปลักตาข่ายดักปลาที่ตนเองตากไว้ที่หน้าบ้านมา แล้วไปเจอในห้องพักของผู้บาดเจ็บที่เอาไปซุกไว้ในห้องน้ำด้านหลังห้อง พอสอบถามกลับไม่ยอมรับจนเกิดอารมณ์โมโห  ส่วนที่ออกมาให้ข่าวว่าไปรุมทำร้ายนั้นไม่เป็นความจริง เพราะตนไปกับเพื่อนข้างห้องที่เป็นชาวพม่าเท่านั้น ซึ่งตนยืนยันไม่ได้รุมทำร้ายตนก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วนที่บอกว่าขโมยโทรศัพท์และเงินสดมาด้วยนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเจ้าตัวไม่มีโทรศัพท์และเงินติดตัว ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจไปเชิญตัวตนที่ห้องพักก็เดินทางมาพบและเตรียมแจ้งความกลับในข้อหาลักทรัพย์ด้วยเช่นกัน

ขณะที่ทางผู้ดูแลหอพักบอกว่าหลังเกิดเหตุผู้บาดเจ็บได้ย้อนกลับมาขนของออกจากห้องพักไปแล้ว โดยที่ผ่านมาอยู่ไม่กี่เดือนก็มักสร้างความเดือดร้อนให้กับลูกบ้าน เพราะมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย ขโมยแม้แต่เสื้อในกางเกงในของลูกบ้าน ซึ่งหลังจากนี้ตนไม่ได้พักที่นี่แล้ว ส่วนที่อ้างว่าถูกทำร้ายจนคิ้วแตกหัวแตกนั้นเป็นเพราะคนเจ็บวิ่งหนีและกระโดดลงมาทางด้านหลังห้องจนทำให้หลังคาชั้นล่างแตกได้รับความเสียหาย ซึ่งตนเองก็เตรียมแจ้งความกลับในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ด้วยเช่นกัน

พ.ต.อ. นิรันดร  ฟักสุบัน ผกก.สภ.บางเสาธง เปิดเผยว่าในส่วนของทางคดีตรวจสอบแล้วไม่พบว่าผู้บาดเจ็บมาแจ้งความแต่อย่างใดและยังไม่พบตัวหลังเกิดเหตุ หากพบว่าเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ก็จะเชิญฝ่ายที่ก่อเหตุมารับทราบข้อหาด้วยเช่นกัน ส่วนฝ่ายผู้ก่อเหตุหากแจ้งความเอาผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายด้วยเช่นกัน ส่วนประเด็นที่มีการนำเสนอถึงตู้ยามสายตรวจนั้น ชี้แจงว่าจุดดังกล่าวเป็นตู้ยามพักของสายตรวจที่ทางชุมชนร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักของสายตรวจเวลาเข้าไปตรวจตราในชุมชนดังกล่าว โดยขณะนี้ยังไม่ได้ส่งสายตรวจไปประจำการแต่อย่างใดเนื่องจากกำลังพลมีน้อยและต้องออกตรวจตราในพื้นที่ทั้งหมดซึ่งในชุมชนแห่งนี้ก็จะมีสายตรวจคอยวิ่งตรวจตราอยู่ตามวงรอบอยู่แล้ว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน