X

โรงเรียนสตรีสมุทรปราการฉีดไฟเซอร์ให้นักเรียน มั่นใจในระบบการบริหารจัดการ

โรงเรียนสตรีสมุทรปราการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับนักเรียน ชั้น ม.3-ม.4-ม.5 จำนวน 1,558 คนเป็นรอบแรก ส่วนนักเรียนชั้น ม.1- ม.2 และ ม.3 บางส่วนจะเป็นรอบต่อไป เพื่อป้องกันการแออัดโดยกำหนดเวลาในการฉีดวัคซีนเป็นรอบ ๆ รอบละ100 คน โดยมีการตั้งจุดคัดกรองตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข

วันที่ 11 ตุลาคม 2564 ที่โรงเรียนสตรีสมุทรปราการ ทีมแพทย์พยาบาลจากโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ได้เข้าฉีดวัคซีนเข็มแรก ซึ่งเป็นวัคซีนไฟเซอร์ให้กับนักเรียนของโรงเรียนสตรีสมุทรปราการ ชั้น ม.3-ม.4-ม.5 จำนวน 1,558 คนเป็นรอบแรก ส่วนนักเรียนชั้น ม.1- ม.2 และ ม.3 บางส่วนจะเป็นรอบต่อไปซึ่งคาดว่าน่าจะทำการการฉีดวัคซีนให้นักเรียนได้ครบทุกชั้นภายในวันที่ 17 ตุลาคม นี้เพื่อป้องกันการแออัดโดยกำหนดเวลาในการฉีดวัคซีนเป็นรอบ ๆ รอบละ 100 คน โดยมีการตั้งจุดคัดกรองตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข

นายวุฒิชัย วันทมาตย์  ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีสมุทรปราการ กล่าวว่า วันนี้เป็นคิวฉีดวัคซีน ของนักเรียนชั้นปีที่ 3-4-5 จำนวน 1,558 คน เป็นวัคซีนไฟเซอร์ โรงเรียนได้มีการบริหารจัดการและจัดระบบอย่างดี โดยมีทีมแพทย์พยาบาลจากโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ เข้าอำนวยการฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียนทุกคน โดยมีจัดระเบียบนักเรียนที่จะเข้าฉีดวัคซีน เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด โดยกำหนดเวลาเป็นช่วง ๆ ช่วงละ 100 คน และมีจุดคัดกรองก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน และนั่งพักเป็นเวลา 30 นาที ส่วนนักเรียนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วมีข้างเคียง ก็จะมีทีมแพทย์ของโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการคอยดูแล  ด้วยการบริหารจัดการที่ดีทำให้การฉีดวัคซีนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว หลังจากนี้ก็จะมีรอบที่สองในระดับ ม.1 – ม.2 และ ม.3 บางส่วนที่จะได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบภายในวันที่ 17 ตุลาคม นี้

ส่วนการฉีดวัคซีนเข็มที่สองให้กับนักเรียนทั้งหมดต้องทิ้งระยะห่างไปอีก 3 สัปดาห์ โดยเฉพาะนักเรียนหญิงเท่านั้น เนื่องจากนักเรียนชายเมื่อฉีดเข็มแรกไปแล้ว ตามคำแนะนำของแพทย์ว่านักเรียนชายอาจจะมีเอฟเฟ็กต์มากกว่านักเรียนหญิง จึงทดลองฉีดเข็มแรกให้กับนักเรียนชายก่อน ส่วนในเรื่องของการเปิดเทอม ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มีข้อปฏิบัติสำหรับนักเรียนที่มีความพร้อมในการที่เปิดภาคเรียนที่ 2 / 2564  คือในวันที่ 1 พ.ย. 2564 จะต้องมีข้อปฏิบัติที่เคร่งครัด ซึ่งทางโรงเรียนสตรีสมุทรปราการ ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว แต่ก่อนอื่นก็ต้องนำข้อปฏิบัติเหล่านี้เข้าประชุมภาคีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รับทราบในการสแกนนักเรียน เข้าสู่ชั้นเรียน ซึ่งคาดว่าการจัดระเบียบนั้นจะใช้วิธีครึ่งต่อครึ่ง คือเรียนครึ่งห้องแล้วสลับกันมา ส่วนเด็กที่ไม่ได้มาก็จะเรียนในระบบกูเกิล เช่น Google Classroom รวมทั้งระบบออนไลน์ โดยจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ๆ และหากพบว่ามีเด็กนักเรียนมีการติดเชื้อโควิดก็จะใช้วิธีตรวจแบบ ATK เพื่อจะได้ประเมินสถานการณ์ว่าจะดำเนินการแก้ไขอย่างไรต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน