หนุ่มเจ้าของบ้านผวานั่งทำงานอยู่ในบ้านไฟเกิดดับแถมมีเสียงคล้ายไฟช็อท โผล่หน้าออกมาดูเห็นแสงไฟแลบออกจากใต้ฝ้าเพดานหองเก็บของรีบวิ่งออกมาใช้สายยางมาฉีดน้ำสกัดเพลิง โชคดีดับเพลิงมาไว้สกัดเพลิงไว้ได้ก่อนวอดทั้งหลัง คาดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 23 มิถุนายน 2564 ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ดวงจินดา รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนเลขที่ 302 หมู่ 7 ซอยสำสำโรงเหนือ 5 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลตำบลสำโรงเหนือและเทศบาลใกล้เคียงจำนวน 3 คันเดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- ปปท.เขต 4 ชง ศอตช. สางปัญหา “รับเหมา 7 ชั่วโคตร”
- นาทีระทึกรถขนแรงงานต่างด้าวเถื่อนขับแหกด่านที่ตะกั่วป่า พบรับจ้างลอบพาเข้าเมืองคนละ 6,000 บาท
- สมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์มอบโล่เกียรติยศ 5 บุคคลดีเด่นแห่งปีของจังหวัดกาฬสินธุ์
- ขาใหญ่มาแล้ว!! รับเหมารายย่อยผวาความปลอดภัยแฉขาใหญ่เรียกคุย ด้าน ธรรมาภิบาล จี้ ปปท.สอบสัญญาก่อสร้าง ประเด็นค่าปรับเป็น 0 บาท…
ในที่เกิดเหตุพบเป็นบ้าน 2 ชั้นได้กลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากใต้ฝ้าเพดานชั้นล่างซึ่งเป็นห้องเก็บของด้านหลังก่อนที่เปลวไฟจะลุกลามมาด้านหน้าซึ่งเป็นพื้นที่ว่างแต่ก็มีอุปกรณ์เครื่องมือช่างและลังพลาสติกว่างอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 20 นาทีเพลิงจึงสงบ พบว่าไฟไดลุกไหม้ข้าวของภายในห้องและอุปกรณ์เครื่องมือร่วมทั้งลังพลาสติกที่ว่างซ้อนกันอยู่ที่ด้านนอกได้รับความเสียหายรวมทั้งฝ้าเพดานชั้นล้าง นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดไฟลวกที่บริเวณแขนทั้งสองข้าง เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ้งจึงให้การปฐมพยาบาล
จากการสอบถามนายปภังกร ประภาสะโนบล อายุ 42 ปี เจ้าของบ้านหลังที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังนั่งทำงานอยู่ในบ้านไฟฟ้าได้เกิดดับและตนได้ยินสียงคล้ายไฟฟ้าช็อทเสียงดังเบาะแบะ ตน จึงได้ส่องตรงกระจกดู ได้เห็นแสงไฟสีส้ม ๆ แลบออกมาและมีควัน ตนจึงรีบวิ่งออกมาดูจึงรู้ว่ามันเป็นไฟไหม้ จึงรีบลาดสายยางน้ำมาฉีดสกัดเพลิง และรีบโทรแจ้งของความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเพราะว่าในจุดที่เกิดเหตุมีปลั๊กไฟอยู่ คิดว่าใช้แน่นอน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดจร อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจหาสาเหตุโดยละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: