X

พิษโควิด 19 รอบสองเศรษฐกิจร่วง เจ้าของผับหมดหนทางเซ้งกิจการ หันมาขายทุเรียนหาเงินเลี้ยงลูกน้อง

พิษโควิด 19 รอบสองเศรษฐกิจดิ่งเหว เจ้าของผับโซดา ตลาดนัดเรือบิน ย่านบางพลี หมดหนทางปล่อยเซ้งพื้นที่ผับ ผันตัวเองมาเป็นพ่อค้า เปลี่ยนพื้นที่ข้างผับโซดา เป็นตลาดขายทุเรียนหมอนทองที่รับมาจากจังหวัดจันทบุรี ขายในราคาถูก หาเงินเลี้ยงลูกน้องและค่าเช่าที่

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารร่วมไปถึงผับต่าง ๆ ต้องพากันปิดตัวตามนโยบายป้องการแพร่ระบาดของรัฐบาล ต่างพากันได้รับผลกระทบอย่างหนักพนักงานต่างพากันตกงานกันเป็นจำนวนมาก และเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง ผู้ประกอบการบางร้านยังคงตั้งความหวังว่าว่ารัฐบาลจะหาวิธีการหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้โดยเร็วจะได้กลับมาเปิดกิจการได้อีกครั้ง จึงได้หันมาหากิจกรรมอย่างอื่นมาทำเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนหาเงินเลี้ยงลูกน้องและพนักงานในร้านให้ประคองตัวอยู่ได้  โดยเฉพาะร้านโซดา ซึ่งเปิดกิจการประเภทผับ ตั้งอยู่กลางตลาดนัดเรือบิน ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่ได้รับผลกระทบเป็นที่แรก ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทั้งรอบแรกและรอบที่สอง ที่ต้องปิดดำเนินการ ซึ่งครั้งแรกที่ว่าสาหัสแล้ว แต่พอมาครั้งที่สองสาหัสยิ่งกว่า จึงต้องหันไปรับทะเรียนหมอนทองจากจังหวัดจันทบุรีมาขาย ส่วนในโซนที่เปิดเป็นผับต้องติดป้ายเซ้งกิจการ เนื่องจากประคองเอาไว้ไม่ไหว

นายสุเทพ  รุ่งเรื่อง อายุ 49 ปี หุ้นส่วนใหญ่ ได้เปิดเผยว่า  หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทางผับเราต้องปิดตัวลงทำให้ขาดรายได้และเงินที่จะต้องมาจ่ายให้พนักงานในร้านและจ่ายค่าเช่าที่ซึ่งตกแล้วเดือนละกว่า 1 แสนบาท ตนจึงได้หาทางออกโดยการไปรับทุเรียนมาจากสวนของเพื่อนที่อยู่ในจังหวัดจันทบุรี ประกอบช่วงนี้เป็นช่วงที่สถานการณ์โควิดกำลังระบาดอย่างรุนแรง ทำให้ธุรกิจใหญ่ของตนต้องปิดตัวลง จึงได้หันไปรับทุเรียนมาขายเพื่อหารายได้เลี้ยงลูกน้องและจ่ายค่าเช่าที่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว จังหวะเป็นช่วงเข้าหน้าทุเรียนพอดี และที่ตนรับทุเรียนมายก็ไม่ได้เอากำไรอะไรมากมาย เอามาบวกแค่ลูกละ 5 บาท อาศัยว่าเราขายได้จำนวนมากเราก็พออยู่ได้ ไม่ได้กะว่าจะขายเอารวยเลย ก็คืออยากให้คนกินได้กินในราคาที่ถูกหน่อยท่ามกลางเศรษฐกิจแบบนี้ จะได้กินของถูก ๆ กัน ซึ่งทุเรียนของเราก็จะมีอยู่ทุกขนาดมีทั้งคัดไซส์  และไซส์รวม ราคาเริ่มตั้งแต่ 100 บาทไปจนถึง 140 บาท ต่อกิโลกรัม แต่ราคาที่เขาขายกันอยู่ในท้องตลาดไม่ใช่ราคานี้ ที่เขาขายกันอยู่ในท้องตลาดขั้นต่ำก็มีกิโลละ 160 ไปจนถึง 250 บาทต่อกิโลกรัม  แต่ที่เราขายเราเอากำไรแค่กิโลกรัม 5-10 บาทเท่านั้นเราไม่ได้เอาเยอะเอาแค่พอเลี้ยงลูกน้องได้ ซึ่งตนก็ทำมาตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิดงวดแรก พอหมดโควิดรอบแรกก็เปิดร้านปกติ แต่พอมารอบสองมันหนักกว่าเราก็ต้องปิดกิจการอีก ก็เลยต้องหาอย่างอื่นมาหารายได้เสริมเพื่อเลี้ยงลูกน้องและค่าเช่า แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่อีกอย่างหนึ่งคือหน้าทุเรียนจันทบุรี จะมีแค่ 4 เดือน และถ้าหมดหน้าทุเรียนแล้วสถานการณ์โควิดยังระบาดอยู่หรือเปล่า ถ้ามันยังอยู่เราก็ต้องคิดหาผลไม้อย่างอื่นมาเพราะว่าทุเรียน 4 เดือนหมดฤดูแล้ว ก็อาจจะหาผลไม้ตามฤดู ก็อาจจะมีเงาะมังคุดหรือลองกองมาขายแทน และเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ทุเรียนพึ่งมาส่งให้ 5 ตัน จากที่โควิดระบาดช่วงแรกเราลงครั้งละ 10 ตัน เราก็จะขายประมาณ 2-3 วันก็หมด เพราะเราขายถูก มีทั้งมารับไปขายมีทั้งคนมาซื้อกินเอง และของเรายังมีปอกเนื้อขายด้วย แต่ถ้าชาวบ้านมาซื้อเอาไปกินเองเราก็จะคิดค่าบริการปอกแค่ 20 บาท ส่วนที่เราปอกแล้วเหลือแต่เนื้อล้วน ๆ เราขายกิโลกรัมละ 550 บาท แต่ในท้องตลาดเขาขายกันอยู่ที่กิโลกรัมละ  700-800 บาท วันหนึ่งก็จะมีคนมาสั่งเนื้อทุเรียนที่เราแกะไว้วันละไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม และตนยืนยันว่าทุเรียนหมอนทางที่เรารับมาขายมาจากจังหวัดจันทบุรีร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ทุเรียนจากที่อื่นมายอมแมวขาย และถ้าซื้อทุเรียนจากเราไปลูกไม่สุกหรือเป็นทุเรียนอ่อนสามารถนำกลับมาเคลมที่ร้านได้ ส่วนรายได้จากการขายทุเรียน ก็พอได้ค่าข้าวค่าลูกน้องจะได้ไม่ตกงานและค่าเช่าที่ บางครั้งก็ขาดบ้างเราก็ต้องเติมเอา แต่ก็ยังดีกว่าขาดทั้งหมด โดยเราจะเปิดขายตั้งแต่ 08.00 น.ไปจนถึง 20.00 น.ทุกวัน หรือเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเพจ เจ๊นก ทุเรียนจันทบุรี หรือโทรสอบถามได้ที่หมายเลข  096-3954626

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน