X

กรรมการบริษัท ปีโป้ พาวเวอร์ ร้องสื่อ ผู้นำจ่ายไปรษณีย์ไทยแอบเซ็นรับเอกสารเอง ทำให้บริษัทเสียหาย

นายสุธรรม ศรีเพชร กรรมการบริษัท ปีโป้ พาวเวอร์ จำกัด ร้องสื่อ หลังผู้นำจ่ายไปรษณีย์ไทย นำเอกสารมาส่งที่บ้านแล้วไม่มีคนอยู่ได้ ได้แอบเซ็นรับเอกสารเอง โดยที่ผู้เกี่ยวข้องของทางบริษัทไม่รับทราบหรือได้รับจดหมายดังกล่าวแต่อย่างใด ถึง 2 ครั้ง ซึ่งจดหมายดังกล่าวเป็นเอกสารสำคัญของทางสำนักงานสวัสดิการและคุมครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ จนกระทั่งมีการส่งเอกสารมาเป็นฉบับที่ 3 ซึ่งเป็นหนังสื่อคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน ทำให้บริษัทเกิดความเสียหาย 

เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 7 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายสุธรรม ศรีเพชร อายุ 39 ปี กรรมการ บริษัท ปีโป้ พาวเวอร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 56 / 68 หมู่ 2 ซอยอัมพร  ถนนหลังวัดหนามแดง –บางพลี ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้นำจ่ายเอกสารของบริษัทไปรษณีย์ไทย ที่แอบเซ็นรับเอกสารสำคัญของทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการเอง โดยที่ผู้เกี่ยวข้องของทางบริษัทดังกล่าวไม่รับทราบหรือได้รับเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด จนกระทั่งทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้มีเอกสารส่งมาเป็นฉบับที่สาม ซึ่งเป็นหนังสื่อคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน ให้บริษัท ปีโป้ พาวเวอร์ จำกัด ในฐานะนายจ้าง จ่ายค่าจ้างที่ค้างจ่ายให้กับพนักงานของบริษัท ที่ถูกเลิกจ้าง ตามคำร้องของ น.ส.นภาพร  ทองนำ ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง ซึ่งในเรื่องดังกล่าวทำให้ทางบริษัทได้รับความเสียหาย เนื่องจากทางบริษัทไม่ได้รับหนังสือเรียกของทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานสองฉบับแรก จึงไม่ทราบเรื่องว่าสำนักงานสวัสดิ์การและคุ้มครองแรงงานจังหวัด มีหนังสือมาแจ้งให้นายจ้างไปชี้แจงข้อเท็จจริง จนกระทั่งมีคำสั่งบังคับให้จ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างคนดังกล่าว

จากการติดตามเรื่องดังกล่าวจนกระทั่งทราบว่า หนังสือทั้งสองฉบับแรกที่ทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานที่จัดส่งให้ทางบริษัทผู้เสียหาย พนักงานผู้นำจ่ายของบริษัทไปรษณีย์ไทย ได้แอบเซ็นรับเอกสารดังกล่าวเองทั้งสองครั้งลงในระบบ แต่ทางผู้เกี่ยวข้องของบริษัทผู้เสียหายกลับไม่ได้รับเอกสารแต่อย่างใด  จนกระทั่งมีหนังสือคำสั่งบังคับให้จ่ายค่าจ้างที่ค้างไว้ ทำให้ทางบริษัท ได้รับความเสียหายและทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อมั่น จากการกระทำของพนักงานผู้นำจ่ายของบริษัทไปรษณีย์ไทยคนดังกล่าว เมื่อไปสอบถามทางพนักงานผู้นำจ่ายคนดังกล่าวซึ่งทำงานอยู่ที่สาขาบางพลี  ก็ยอมรับว่าเป็นคนเซ็นรับเอกสารดังกล่าวจริงทั้งสองครั้ง แต่อ้างว่าไม่ทราบว่าเอาเอกสารไปไว้ที่ไหน และทางผู้บริหารสาขาดังกล่าวก็ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด พูดเพียงว่าให้ไปฟ้องร้องกันเอาเอง

นายสุธรรม ศรีเพชร  กรรมการบริษัท ปีโป้ พาวเวอร์ จำกัด ได้กล่าวว่า ตอนนี้โดยหลักเลยทางไปรษณีย์ไทยต้องให้พนักงานคนนี้ออกมาเซ็นรับเอกสารให้เรา เพราะตนก็ไม่รู้ว่าใครเจอแบบตนบ้าง เอาง่ายเข้าว่าไม่โทรไม่ตามผู้รับและไม่ฝากไว้นิติหมู่บ้านเพราะนิติหมู่บ้านแบบนี้มันมีนิติบริหารจัดการก็น่าจะเอาไปฝากไว้ที่นิติก็น่าจะง่ายกว่า เขาต้องรับผิดชอบให้เราเพราะว่าเอกสารที่ 1 และ 2 เรามาได้รับเพราะตอนนี้เราเสียเปรียบเพราะเอกสารฉบับที่สามมันออกมาอยากให้ตัวไปรษณีย์รับผิดชอบ เพราะเท่าที่ตนโทรไปคุยไม่มีคำขอโทษ หรือรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นแถมยังท้าให้ตนไปฟ้อง ซึ่งตนก็คิดว่าเขาน่าจะปัดความรับผิดชอบมากกว่า ซึ่งในเรื่องนี้ตนได้ไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ที่โรงพัก สภ.บางแก้ว ไว้แล้ว ว่าเอกสารของไปรษณีย์ที่ขึ้นว่าได้รับเอกสารไว้แล้ว จริง ๆ แล้วเราไม่ได้รับเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด โดยไปแจ้งไว้ว่าเอกสารทั้งสองฉบับที่มา ในระบบขึ้นว่าได้รับแต่เอกสารไม่ถึงมือเรา และคนเซ็นรับเราก็ไม่รู้จัก และก็อยากให้ทางไปรษณีย์ ออกมารับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะตอนนี้เราจะชี้แจ้งอย่างไรกับกรมสวัสดิการแรงงานมันก็ไม่มีน้ำหนักอยู่แล้ว ในเรื่องเหตุผลที่เราไม่ได้ไปชี้แจงนายจ้างเพราะอะไร ก็อยากให้เขารับผิดชอบตรงนี้ด้วย เพราะทำให้ทางบริษัทเสียหายจนมีจดหมายฉบับที่สามออกมา เพราะถ้าหนังสือฉบับที่ 1 และที่ 2 เราได้รับก็อาจจะไม่มีฉบับที่สามออกมาเพราะเราอาจจะคุยกันรู้เรื่องแล้วระหว่างฉบับที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเราไม่ได้รับจนมีฉบับที่ 3 ออกมามันเป็นเหมือนว่ามันที่สุดแล้ว  ก็อยากจะชี้แจงว่าพนักงานรายนี้เข้ามาทำงานที่บริษัทเรา 2 เดือนกับ 10 วัน ซึ่งเงินเดือน 2 แรกเราก็จ่ายให้ตามปกติ ส่วนอีก 10 วันที่พนักงานคนดังกล่าวเขาทำผิดกฎของบริษัท จึงได้เชิญให้ออก ซึ่งในเรื่องนี้เราก็ได้มีการเตรียมเอกสารที่จะไปชี้แจงตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม  2563 ถ้าเขามีจดหมายเชิญมาเราก็จะไปชี้แจงในฐานะนายจ้าง แต่หนังสือฉบับที่ 1 และ 2 เราไม่ได้รับ จนกระทั่งมีหนังสือออกมาฉบับที่สาม ทำให้เราตกใจว่าทำไมไม่มีหนังสือมาให้เราชี้แจงในฐานะนายจ้างก่อน หรือถูกแกล้งหรือเปล่า ก็เลยไปติดตามเรื่องที่สำนักงามสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ซึ่งเขาก็โชว์หลักฐานตรงนี้มาให้เราดู เราก็เลยตามต่อไปที่ไปรษณีย์ว่าใครเป็นคนเซ็น ตรงนี้ก็เลยเป็นที่มาของเรื่องทั้งหมด พูดง่าย ๆ ว่าเอกสารทั้งสองฉบับเป็นหมายเรียก และฉบับที่สามเป็นหมายจับตนก็ติดคุกแล้ว ถ้าเราได้รับเอกสารฉบับที่ 1 และ 2 จริงเราไม่จำเป็นที่จะต้องบ่ายเบี่ยงหรือเพิกเฉย เพราะจริง ๆ เราก็ไปตั้งแต่ได้รับฉบับที่ 1 แล้ว เพราะเราเตรียมเอกสารชี้แจงไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก็อยากจะให้ทางไปรษณีย์ไทยออกมาแสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน