X

บิญฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดใจหลังออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จนกลายเป็นประเด็นดราม่า

บิญฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดใจหลังออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จนกลายเป็นประเด็นดราม่า ทางสังคมโซเชียลมีเดียต่าง ๆ 

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 ตุลาคม 2563   นาย บิญฑ์  บรรลือฤทธิ์ ดารานักบุญที่กำลังกลายเป็นกระแสดราม่าทางสังคมโซเชี่ยวมีเดียต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ถึงการออกมาประกาศตัวชัดเจนที่จะออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และเคยออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อทีวีช่องหนึ่งถึงประเด็นจะตบคนที่ชูนิ้วกลางให้กับขบวนเสร็จ จนมีผู้ไม่หวังดีนำไปบิดเบือนและเผยแพร่บนโลกออนไลน์โจมตีว่า บิญฑ์ บรรลือฤทธิ์    จะตบเด็กและเยาวชนที่ชูสามนิ้ว จนกลายเป็นประเด็นดราม่า จนเจ้าตัวต้องออกมาไลฟ์สดผ่านทางแฟนเพจของตนเอง ประกาศชัดเจนว่าจะต่อต้านกลุ่มคนที่คิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์พร้อมแสดงจุดยืนด้วยการขอประกาศลาออกจากการเป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูที่นาย บิญฑ์ เป็นอาสาสมัครมากว่า 30 ปี จนกลายเป็นกระแสดราม่าลุกลามในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรท่านหนึ่งออกมาทวงถามถึงยอดเงินบริจาคน้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อปี 2562 กลายเป็นการจุดฉนวนขึ้นมาอีกหนึ่งประเด็นและทำให้ฝ่ายตรงข้ามขุดคุ้ยเรื่องราวส่วนตัว

ล่าสุดนาย บิญฑ์  บรรลือฤทธิ์ ได้พาผู้สื่อข่าวหลายสำนักไปดูกองเอกสารหลักฐานการรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน 6 จังหวัดภาคอีสาน เมื่อปี 2562 ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัด ยโสธร จังหวัดอำนาทเจริญ จังหวัด ร้อยเอ็ด จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดขอนแก่น ซึ่งถูกเก็บไว้ในแฟ้มอย่างดีและบรรจุใส่ไว้ในลังพาสติกกว่า 50 ลัง ที่เก็บไว้อย่างดีภายในสำนักงานแห่งหนึ่งในย่านอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

นาย บิญฑ์  บรรลือฤทธิ์    ได้กล่าวว่า หากใครจะตรวจสอบยินดีให้มาเอาไปตรวจสอบทั้งหมดและต้องนำมาคืนและห้ามหายแม้แต่แผ่นเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องภาคอีสานด้วยการเป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศที่บริจาคเงินผ่านบัญชีตนเองให้นำไปช่วยเหลือชาวอีสานที่ถูกน้ำท่วมรวมแล้ว 422 ล้านบาทนั้น ตนเองออกมาชี้แจงตลอดว่าช่วยเหลืออะไรไปบ้างแม้กะทั่งจัดซื้อเรือกู้ภัยจัดซื้อรถพยาบาลจัดสร้างโรงเรียนซึ่งทุกบาททุกสตางค์สามารถตรวจสอบได้ และตนเองยืนยันว่าไม่เคยคิดเอาเข้ากระเป๋าตนเองแม้แต่บาทเดียว หากตนเองไม่บริสุทธิ์ใจที่ผ่านมาคงไม่รอดทั้งสรรพกรและการตรวจสอบต่างๆ จนมาถึงทุกวันนี้

ส่วนประเด็นที่มีการบิดเบือนและโยงไปในเชิงลบที่ออกมาบอกว่าตนเองจะตบเด็กชูสามนิ้วนั้น ตนเองยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้คิดจะตบเด็ก แต่พูดถึงเรื่องการชูนิ้วกลางให้ขบวนเสด็จ ตนไม่อาจทนต่อการจาบจ้วงสถาบันได้ ย้ำไม่คิดจะยุ่งกับการเรียกร้องของเด็ก เด็กชุมนุมเรียกร้องอนาคตของเขาก็ถูกแล้ว เพียงแต่ตนเป็นคนรักสถาบันมาก รักยิ่งชีพ มันอัดอั้นตันใจที่เห็นการจาบจ้วงสถาบัน ยืนยันว่าการออกมาเชิญชวนให้คนไทยที่รักสถาบันออกมาแสดงพลังในวันที่ 1 พ.ย. นี้ และอันนี้ไม่ใช่เป็นการปุกระดมแต่อย่างใดแต่เชิญชวนให้ออกมาร่วมกันต้อนรับเสร็จ และแสดงพลังให้พระองค์ท่านเห็นว่านี่คือพลังคนไทยที่รักสถาบัน เท่านั้นเอง ยืนยันว่าไม่มีใครสั่งการหรืออยู่เบื้องหลังแน่นอน

ส่วนเรื่องประกาศลาออกจากอาสาสมัครนั้นก็ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งหรือถูกกดดันจากผู้ใดในองค์กร แต่เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนและทำกิจกรรมได้เต็มที่กับการออกมาปกป้องสถาบันในครั้งนี้ ตนคิดว่าเพื่อความเป็นอิสระและไม่ให้มีผลกระทบไปถึงองค์กรจึงของลาออกจากการเป็นอาสา ซึ่งหลังจากที่ทำกิจกรรมแล้วเสร็จก็จะกลับไปขอสมัครใหม่เริ่มต้นใหม่และเข้าพูดคุยกับทางผู้ใหญ่ในมูลนิธิต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน