พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เดินทางมาแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา สองคดีสะเทือนขวัญ คดีฆ่าสาวใบ้ พื้นที่ สภ.บางแก้ว และคดี รปภ.กระหน่ำแทงภายในเอื้ออาทรวัดสาขลา พื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 20 ตุลาคม 2563 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก. พ.ต.อ.ประสาทพร ศรีสุโข ผกก.สภ.บางแก้ว พ.ต.อ.ทศพล ทองใบ ผกก.สภ.พระประแดง พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายจักรกริช หรือฮอท ชินรัตน์ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด และ น.ส.บัว หรือตั๊ก ทองวิเศษ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ต สองผู้ต้องหาร่วมกันใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง น.ส.วรรษมน บัวอ่อน อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลกสาวพิการเป็นใบ จนเสียชีวิตเหตุเกิดภายในซอยมหาชัย ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 17 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนก็พิการเป็นใบ้และหูหนวกเช่นกัน ทำให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความลำบากต้องสอบสวนผ่านล่ามจากสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย มาเป็นคนช่วยแปลสื่อเป็นภาษามือให้ ซึ่งนายฮอท ได้ให้การรับสารภาพ ส่วน น.ส.ตั๊ก ยังให้การปฎิเสธและขอให้การในชั้นศาล ส่วนสาเหตุเกิดจากความหึงหวงของ น.ส.ตั๊ก อดีตแฟนสาวของหนุ่มใบ้ที่ น.ส.ตั๊ก มาติดพันธ์อยู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ส่วนคดีที่สองเป็นคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ที่ 19 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา นายสมบัติ สมไทย อายุ 57 ปี ซึ่งเป็น รปภ.อยู่ที่หมู่บ้านเอื้ออาทรวัดสาขลา อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้ใช้อาวุธมีดแทงนายอัศวินทร์ แก้ไพฑูรย์ อายุ 48 ปี จนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณหน้าอาคาร 10 หมู่บ้านเอื้ออาทรวัดสาขลา อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โดยผู้ก่อเหตุหาว่าเมื่อเดือนก่อนผู้ตายไปกรีดรถยนต์กระบะของผู้ก่อเหตุจนเป็นรอยลึกและยุบเข้าไป และเจอหน้ากันทุกวันผู้ตายทำท่าทางแบบเยาะเย้ย ในวันที่เกิดเหตุผู้ก่อเหตุสุดทนจึงใช้มีดกระหน่ำแทงผู้ตายจนเสียชีวิตก่อนที่จะขับรถยนต์กระบะหลบหนีไป และพึ่งเข้ามอบตัวเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ได้กล่าวว่า ทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นเหตุสะเทือนขวัญต่อประชาชน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองโรงพักก็สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้โดยเร็วถือว่าเป็นการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ส่วนคดีแรกมีอุปสรรคเล็กน้อยเกี่ยวกับการสอบสวนเนื่องจากผู้ก่อเหตุทั้งสองพิการเป็นใบ้และหูหนวก จึงจำเป็นต้องจัดหาล่ามมาร่วมในการสอบสวนและร่วมลงชื่อเป็นพยานในชั้นการสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาที่เป็นผู้ชายให้การรับสารภาพ แต่ผู้ต้องหาที่เป็นผู้หญิงยังให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานเพียงพอและโยงใยถึงตัวผู้ต้องหาที่ยังปฎิเสธ ประกอบกับคำรับสารภาพของผู้ต้องหาที่เป็นผู้ชายที่ได้ซัดทอดว่าฝ่ายหญิงเป็นคนหลอกให้มาทำร้ายผู้ตายและยังร่วมใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงผู้ตายซ้ำอีกหลายครั้ง จึงได้รวบรวมหลักฐานยื่นขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ดังกล่าว
